top of page
  • Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

วิธีเอาตัวรอดจาก “คนเป็นพิษ”



9 ข้อสำคัญที่เรียนรู้ จากหนังสือ วิธีเอาตัวรอดจาก “คนเป็นพิษ”

Surrounded by psychopaths

.

.

1) “ไซโคพาธ” คือใคร

อาจใช้คำว่า “คนเป็นพิษ” ตามที่หนังสือแปลไว้

เพราะไซโคพาธ คือคนที่เป็นพิษเป็นภัยต่อคนที่เขามีความสัมพันธ์ด้วย ไม่ว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบไหนก็ตาม

ตั้งแต่ คนรัก คู่ชีวิต ครอบครัว ญาติ กลุ่มเพื่อน เพื่อนที่ทำงาน หัวหน้างาน คนในสายอาชีพที่รู้จัก หรือคนรู้จักที่เราต้องปฏิสัมพันธ์ด้วย

.

นิยามของไซโคพาธ แบบเข้าใจง่ายคือ

- พวกคนที่ชอบตักตวงผลประโยชน์จากคนอื่น ด้วยวิธีการอันแยบยล

- เป็นพวกเจ้าเล่ห์ จอมหลอกใช้

- เป็นพวกไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่น สนใจเพียงความต้องการของตัวเอง

- เป็นพวกไม่มีความรับผิดชอบ ขาดจิตสำนึก

- เป็นพวกชอบโยนความผิดให้คนอื่น

- เป็นพวกหลงตัวเอง

- เป็นพวกขาดความยับยั้งชั่งใจ ควบคุมตัวเองได้น้อย

- เป็นพวกมักมากในทางเพศ

.

มีเช็คลิสต์ 20 ข้อว่าตัวเราเป็นไซโคพาธรึเปล่า โดยคำถามแต่ละข้อจะครอบคลุมถึงลักษณะเด่นของเหล่าไซโคพาธ

.

ตามสถิติแล้ว การจัดกลุ่มด้วยคน 4 สี หรือ DISC จะจัดคนได้เพียงแค่ 80% เท่านั้น

ส่วนที่เหลือ ระบบ DISC ยังใช้อธิบายไม่ได้

พวกไซโคพาธเป็นส่วนหนึ่งของเปอร์เซ็นของคนที่เหลือที่ไม่เข้าพวก DISC

.

.

2) ไซโคพาธมีจำนวนเยอะแค่ไหนในสังคม

ตามสถิติในหนังสือ ไซโคพาธมีประมาณ 2-4% ของประชากรทั้งหมด

ซึ่งมากกว่าคนกลุ่มสีแดงที่มีเพียง 0.5% ของประชากร

.

.

3) ไซโคพาธ เกิดขึ้นจากอะไร

ตามผลวิจัยในปัจจุบันยังไม่มีคำอธิบายแน่ชัด แต่ไซโคพาธเป็นความปกติทางจิตใจ

และมักมีติดตัวบุคคลมาแต่กำเนิด

.

.

4) ทำไมเราต้องสนใจรับมือไซโคพาธ

เพราะพิษของไซโคพาธรุนแรงมาก

ถ้าคู่ชีวิตเราเป็นไซโคพาธก็อาจดูดเงินเราออกไปเป็นจำนวนมาก

ถ้าเพื่อนร่วมงานเราเป็นไซโคพาธก็อาจทำลายชีวิตการทำงานของเราจนย่อยยับ

ถ้าหัวหน้างานเราเป็นไซโคพาธ เราก็อาจไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดกับงานที่ทำเลย

.

การเตรียมตัวรับมือจึงเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อเราต้องเจอกับคนกลุ่มไซโคพาธอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

.

5) เกราะป้องกันไซโคพาธพื้นฐาน 3 ขั้นตอน

1. รู้จักตัวเองให้ดี เข้าใจว่าเราเป็นคนแบบไหนใน กลุ่ม DISC และที่สำคัญคือเรามีจุดอ่อนอะไรที่อาจโดนไซโคพาธนำมาใช้เล่นงานเราได้

2. รู้จักและเข้าใจพฤติกรรมของไซโคพาธ

3. รู้จักรักและเคารพตัวเอง เมื่อเราเจอไซโคพาธ เราต้องหาวิธีจัดการ อย่าปล่อยให้ชีวิตตัวเองพังทลายลงเพราะคนพวกนี้

.

.

6) จุดอ่อนของคน 4 สี

ขั้นตอนแรกในการป้องกันไซโคพาธคือการเข้าใจและยอมรับในจุดอ่อนของตัวเองก่อน

คนแต่ละสีมีจุดอ่อนที่แตกต่างกันออกไป

.

- คนสีแดง

ใจร้อน ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ไม่ค่อยแคร์ความสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่รอบคอบ

คนสีแดงมักวิตกกังวลเมื่อรู้สึกว่าทุกอย่างมันเกินที่ตัวเขาจะควบคุมได้

.

- คนสีเหลือง

พูดมาก ไม่ค่อยฟังคนอื่น อยากเป็นจุดสนใจตลอดเวลา สะเพร่า มีโปรเจคเยอะแต่ทำอะไรไม่ค่อยเสร็จ ความคิดฟุ้งซ่าน

คนสีเหลืองมักกลัวเมื่อรู้สึกว่าไม่มีใครสนใจตัวเขา หรือรู้สึกว่าตัวเขาไม่เหลือใคร

.

- คนสีเขียว

กลัวความขัดแย้ง กลัวการทะเลาะ ใจอ่อน ขี้สงสาร กลัวความเปลี่ยนแปลง ไม่ค่อยลงมือทำ เฉื่อย

คนสีเขียวมักกลัวความขัดแย้ง กลัวการทะเลาะ กลัวทุกครั้งที่สิ่งที่ตัวเองกำลังจะพูดหรือทำจะนำมาซึ่งความขัดแย้งกับคนอื่น

.

- คนสีน้ำเงิน

ละเอียดรอบคอบจนเกินไป เจ้าระเบียบเกินไป ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ใด ๆ กับคนอื่น

คนสีนำเงินมักกลัวการถูกมองเป็นตัวตลก หรือการถูกมองว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับงานที่ตัวเองทำ

.

.

7) ไซโคพาธเล่นงานคนแต่ละสีไปทำไม

จุดหลักเลยคือ การใช้ประโยชน์จาก “จุดแข็งของคนแต่ละสี”

.

- คนสีแดงเป็นพวกบ้างาน ไซโคพาธจึงสามารถใช้ประโยชน์ให้คนกลุ่มนี้ทำงานแทน ในขณะที่ตัวเองลอยตัวไปทำกิจกรรมยามว่างสบาย ๆ

.

- คนสีเหลืองเป็นพวกมนุษย์สัมพันธ์ดีมาก และทำให้คนอื่นหัวเราะอยู่ได้เรื่อย ๆ ไซโคพาธจึงอยากอยู่ใกล้คนเหล่านี้ และไม่อยากให้คนอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยว

.

- คนสีเขียวเป็นพวกใจดี มักเข้าใจและเห็นใจคนอื่น ไซโคพาธจึงอาจหลอกขโมยเงินของคนกลุ่มนี้จนหมดตัว

.

- คนสีน้ำเงินเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ และมักเป็นที่ยอมรับในเรื่องความเป๊ะของงาน ไซโคพาธจึงอยากโค่นตำแหน่งของคนสีน้ำเงินที่ได้รับการยอมรับ เพื่อให้ตัวเองได้รับการยอมรับแทน

.

.

8) ไซโคพาธเล่นงานคนแต่ละสียังไง

วิธีการหลักที่ไซโคพาธใช้ คือการโจมตีไปที่ “จุดอ่อนของคนแต่ละสี”

- คนสีแดง

ไซโคพาธอาจอยากใช้งานคนสีแดงที่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานอยู่แล้ว จึงต้องพยายามตีสนิทกับคนเหล่านี้ด้วยความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ก่อน ซึ่งคนสีแดงมักยอมรับในตัวคนที่เผยความกล้าออกมาชนกับพวกเขา

เมื่อได้เข้าใกล้และทำให้คนสีแดงยอมรับแล้ว เขาก็ใช้ประโยชน์ให้คนสีแดงทำงานให้ ในขณะที่ตัวเองไปนั่งเล่นกอล์ฟ และกินอาหารกลางวันที่จ่ายด้วยเงินบริษัท

ลองนึกเหตุการณ์ลูกน้องไซโคพาธที่เข้าหาหัวหน้าสีแดงจนได้รับการยอมรับ แล้วเริ่มผละงานทั้งหมดไปให้หัวหน้าทำ โดยตัวเอง “ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและความรับผิดชอบทั้งปวง”

.

- คนสีเหลือง

ไซโคพาธที่คลั่งไคล้คนสีเหลืองมาก ๆ อาจไม่อยากให้คนเหล่านี้ไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น คนเหล่านี้จึงต้องเริ่มจากการยกยอปอปั้นคนสีเหลือง เพื่อให้เข้ามาใกล้ชิดกับพวกเขา

แล้วค่อย ๆ ตัดคนสีเหลืองออกจากวงโคจรของคนอื่น ไปทีละคน สองคน เรื่อย ๆ จนอาจทำให้คนสีเหลืองไม่เหลือสังคมเลยนอกจากตัวเอง

ลองนึกเหตุการณ์ที่ไซโคพาธผู้หญิงตามเกาะผู้ชายสีเหลืองไว้แน่น ๆ แล้วไม่ยอมให้ผู้ชายสีเหลืองออกจากบ้านไปเจอใครคนอื่นเลย เพื่อให้เขาใช้ “เวลา” ทั้งหมดไปกับตัวเอง

.

- คนสีเขียว

ไซโคพาธอาจเข้าหาคนสีเขียวที่ใจอ่อน และมักชอบช่วยเหลือคนอื่นเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัวเช่นเรื่อง “เงิน”

ลองนึกถึงไซโคพาธผู้ชายที่เข้ามาเกาะผู้หญิงสีเขียวที่ทำงานหาเงินได้จำนวนมาก ผู้ชายเหล่านี้มักแสดงความเป็นผู้นำเพื่อให้ผู้หญิงสีเขียวตกหลุมรัก และค่อย ๆ เข้ามาสร้างความเชื่อใจ จนผู้หญิงสีเขียวไว้ใจ ให้ยืมเงิน

ตอนแรกก็อาจจะยืมทีละเล็ก ทีละน้อย แต่พอเรื่อย ๆ ก็อาจทำให้ผู้หญิงสีเขียวล้มละลายได้เหมือนกัน

.

- คนสีน้ำเงิน

ไซโคพาธอาจทำลายคนสีน้ำเงินได้ยากที่สุด เพราะคนกลุ่มนี้มีป้อมปราการการป้องกันตัวเองที่ดี โค่นได้ค่อนข้างยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ไซโคพาธ อาจต้องอาศัย “เบี้ย” ซึ่งหมายถึงพวกลูกไล่ไซโคพาธ ที่โดนไซโคพาธค่อย ๆ เปลี่ยนให้มาเป็นพวกตัวเองทีละคน สองคน เพราะคนสีน้ำเงินไม่สนใจเรื่องความสัมพันธ์อยู่แล้ว จึงมักไม่ทันสังเกตุสิ่งเหล่านี้

และเมื่อมีเบี้ยมากพอ ไซโคพาธก็จะค่อย ๆ ทำลายชื่อเสียงและการได้รับยอมรับของคนสีน้ำเงินจนแหลกเหลว

ลองนึกถึงเพื่อนร่วมงานไซโคพาธที่ต้องการโค่นตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญที่คนสีน้ำเงินได้รับการยอมรับจากเพื่อร่วมงานคนอื่น ๆ

เพื่อนร่วมงานไซโคพาธคนนี้อาจเริ่มจากการค่อย ๆ สร้างความผิดพลาดทีละเล็กละน้อยให้คนสีน้ำเงิน ซึ่งอาจเป็นจุดบอดเล็ก ๆ ที่ต้องอาศัยเบี้ยซึ่งก็คือเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ช่วย

เมื่อคนสีน้ำเงินเริ่มผิดพลาดบ่อยมากขึ้น ความน่าเชื่อถือเริ่มลดน้อยลง

เพื่อนร่วมงานก็หันไปหาฝั่งไซโคพาธมากขึ้น สุดท้ายตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญของคนสีน้ำเงินก็อาจพังทลายลง และชีวิตการทำงานในบริษัทปัจจุบันก็เป็นอันต้องจบสิ้น

.

.

8) 8 เทคนิคการหลอกล่อขั้นพื้นฐานของไซโคพาธ

1. เดี๋ยวชม เดี๋ยวเฉย

ทำให้เหยื่อกระหายคำชม

แล้วเริ่มใช้ประโยชน์จากความกระหายของเหยื่อ

เช่น เจ้านายไซโคพาธที่ชมลูกน้องว่าทำงานดี แล้วก็เลิกชมไปสักพัก

เพื่อหวังให้ลูกน้องกระหายคำชม จนยอมรับผิดชอบงานชิ้นใหญ่ที่ตัวเองมอบให้

.

2. ประเคนความรัก แล้วหายไป

คล้ายกรณีคำชม แต่เป็นการให้ความรัก โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ด้านความรักของหนุ่มสาว

ที่ไซโคพาธมาประเคนความรักให้ระยะหนึ่งแล้วหายไป

เพื่อหวังให้เหยื่อกระหายความรัก และเริ่มใช้ประโยชน์จากความกระหายของเหยื่อ

.

3. ทำตัวแย่ใส่เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ

คล้ายกับวิธีแรก แต่เปลี่ยนจากการชม เป็นการทำตัวแย่ ๆ ใส่เหยื่อเรื่อย ๆ

จนเหยื่อต้องประพฤติตัวในแบบที่ไซโคพาธต้องการ ถึงจะเลิกทำตัวแย่ ๆ

การทำตัวแย่ ๆ หมายถึง การทำตัวหงุดหงิดตลอดเวลา หาเรื่องทะเลาะ อาละวาด ทำตัวเจ้าอารมณ์เป็นต้น

.

4. เปลี่ยนเรื่องเมื่อถูกชวนให้พูดคุยถึงปัญหา

แล้วหันไปโจมตีเรื่องอื่นของเหยื่อ

.

5. ใช้อารมณ์เหยื่อ โจมตีตัวเหยื่อเอง

เหมือนการตอกย้ำไปที่จุดอ่อน จี้ใจดำในเรื่องที่เหยื่ออาจรู้อยู่แล้วว่าทำได้ไม่ดี

.

6. เล่นละครรัก 3 เส้า

อาจเกิดขึ้นกับทั้งความสัมพันธ์ส่วนตัว และในที่ทำงาน

ไซโคพาธจะทำให้เหยื่อรู้สึกถึงแย่งความรัก จนต้องทำตามในสิ่งที่ไซโคพาธเรียกร้อง

.

7. หลอกเนียน ๆ ให้เหยื่อสับสนในความเป็นจริง

โดยเฉพาะในรายละเอียดเล็ก ๆ ที่เหยื่อมักจำไม่ได้

.

8. เงียบไม่พูดไม่จา

ทรมานเหยื่อด้วย death air

.

.

9) วิธีตอบโต้พวกไซโคพาธ 7 วิธี

1. ขอเวลาคิด ทบทวน แล้ววิเคราะห์สถานการณ์ก่อน อย่าเพิ่งรีบตอบโต้ในทันที ถ้าแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นไซโคพาธแน่ ๆ ค่อยตอบโต้

2. มีจุดยืนของตัวเองให้ชัดเจน อย่าให้พวกไซโคพาธมาปั่นหัวได้

3. ปลดล็อคตัวเองออกจากความกลัว โดยเผชิญหน้ากับความกลัวแบบตรง ๆ

4. พูดกลลวงของไซโคพาธออกมาอย่างตรงไปตรงมา แล้วอธิบายถึงผลร้ายของมัน

5. จัดงานม้วนเดียวจบ อย่าให้ยืดเยื้อ

6. ให้เงื่อนไขต่อความสัมพันธ์ ถ้าเรายังอยากมีความสัมพันธ์กับคนเหล่านี้ต่อ

หลัก ๆ คือการให้โอกาสไซโคพาธในการแก้ตัว

.

.

. รีวิวสั้น ๆ

หนังสือภาคต่อของ วิธีเอาตัวรอดจากวงล้อมคนงี่เง่า (surrounded by idiots) หนังสือเล่มดังที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว

และครองใจนักอ่านหลายคน รวมทั้งตัวผมด้วย

เพราะอ่านแล้วสนุกมาก เรื่องราวลื่นไหลชวนคล้อยตาม

และเนื้อหาขับเน้นไปที่คน 4 สี สี่บุคลิก ตามหลัก DISC ได้ชัดเจนมาก

.

จริง ๆ แล้วจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นภาคต่อ ก็อาจถูกแค่ครึ่งเดียว

เพราะทั้งเล่มเป็นเรื่องราวของ “ไซโคพาธ (psychopath)”

หรือกลุ่มคนที่เหมือนเป็นโรคจิต สนใจแต่ความต้องการของตัวเอง และใช้วิธีการอันแยบยลต่าง ๆ เพื่อควบคุม หลอกใช้ และเอาประโยชน์จากคนอื่น

หนังสือเหมือนการนำเรื่องราวของพวกไซโคพาธ มาปะติดปะต่อกับคน 4 สี

แล้วเน้นอธิบายไปที่วิธีทราไซโคพาธใช้ควบคุมคนแต่ละสี และวิธีการรับมือที่คนทั้ง 4 สีควรรู้ไว้

.

โดยรวมแล้ว เป็นหนังสือที่มีทฤษฎีเยอะกว่าเล่มแรก

เพราะคนเขียนต้องอธิบายนิยามของไซโคพาธ และเล่าทฤษฎีทางจิตวิทยาเบื้องหลังคนเหล่านี้สักพัก

ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาลัก ซึ่งเป็นความมันส์ของหนังสือ คือการหลอกใช้คนทั้ง 4 สีจนอยู่หมัด

คนอ่านจึงอาจเบื่อได้ในช่วงแรก ๆ

.

ยอมรับว่าสรุปเนื้อหาเล่มนี้ค่อนข้างยาก เพราะเนื้อหาเป็นเรื่องราวที่มีความสลับซับซ้อน

โดยเฉพาะพฤติกรรรมของคนที่ต้องเล่าบริบทประกอบ ถึงจะเห็นภาพและเข้าใจชัดเจนขึ้น

.

อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว ส่วนตัวยังชอบผลงานเขียนของ โธมัส เอริคสัน มาก ๆ

สำนวนการเขียนคือสนุกและชวนติดตามตลอดเล่ม แม้จะมีทฤษฎีแทรกเยอะก็ตาม

ต้องชมคนแปลด้วย แปลได้ไหลลื่น และภาษาไม่แข็งเหมือนบางเล่ม

ถ้าใครชอบอ่านหนังสือแนว ๆ พฤติกรรมคนอยู่แล้ว เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่พลาดไม่ได้จริง ๆ ครับ

.

.

.....................................................................................

ผู้เขียน: โธมัส เอริคสัน

ผู้แปล: ประเวศ หงส์จรรยา

จำนวนหน้า: 254 หน้า

สำนักพิมพ์: อมรินทร์ How To, สนพ.

เดือนปีที่พิมพ์: 2022

ชื่อเรื่องต้นฉบับ: Surrounded by Psychopaths

.....................................................................................

.

.

สั่งซื้อหนังสือได้ที่

.

.

#หลังอ่าน #หนังสือควรอ่านก่อนอายุ30 #วิธีเอาตัวรอดจากคนเป็นพิษ




445 views0 comments
Post: Blog2_Post
bottom of page