15 ข้อคิดจากหนังสือ Return to the Why Café
.
1. ตอนเด็ก ๆ เราทุกคนล้วนมีสนามเด็กเล่นเป็นของตัวเอง
เปรียบเหมือนกับการที่เรารู้ตัวเองว่าชอบอะไร และเล่นสนุกไปกับมันทั้งวัน
แต่พอโตขึ้นมา เรากับยอมให้คนอื่นมาบอกว่า เราไม่สมควรเล่นสนุกในสนามเด็กเล่นนั้นอีกต่อไป
และสร้างกำแพงมาล้อมรอบสนามเด็กเล่นของเรา
บางคนไม่เข้าไปเล่นมันอีกเลย จนสนามเด็กเล่นของเขาเหล่านั้นร้าง
คนเหล่านั้นจึงจมตัวเองอยู่ในความขมขื่น โกรธแค้น ผิดหวัง และไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ
.
2. ทุกอย่างมักดูแปลกและใหม่ จนกว่าเราจะลงมือทำ
เมื่อเราได้เข้าไปทำสิ่งนั้นจริง ๆ และพบปะผู้คนที่ทำสิ่งนั้นอยู่เหมือนกัน
สิ่งที่แปลกใหม่เหล่านั้นก็จะไม่แปลกใหม่อีกต่อไป
.
3. สนามเด็กเล่นของเรามีเอกลักษณ์ในแบบของเรา
ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร ไม่จำเป็นต้องเติมเต็มความฝันใคร
แต่มันควรจะมีอยู่เพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเราเอง
.
4. ลองใช้ระบบนำทางภายในใจ ที่เรามีอยู่ในตัวทุกคน ตอบคำถามหรือตัดสินใจเรื่องบางอย่างดู
บางครั้งคนเราก็ใช้เหตุผลและความชำนาญมากจนเกินไป จนเกิดความลังเล
แต่ระบบนำทางภายในใจมักจะบอกใบ้เราด้วยรูปทรงต่าง ๆ ที่นำไปสู่คำตอบที่ถูกที่สุดสำหรับตัวเราเสมอ
.
5. ลองคิดว่าการได้ทำให้ลูก คือการมอบของขวัญ
ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราตอบสนองความต้องการของตัวเองก่อน
ถ้าเราคิดได้แบบนี้ แม้แต่การเปลี่ยนผ้าอ้อมที่สุดจะน่าเบื่อ ก็อาจกลายเป็นโอกาสในการได้แบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้คนอื่นได้
.
6. หลายคนซื้อรถหรู และของราคาแพง เพียงเพื่ออยากเข้าพวกกับคนอื่น
โดยไม่ได้คิดว่าสุดท้ายแล้ววันหนึ่งเราก็จะตระหนักได้เองว่า เราอาจกำลังอยากเข้าไปอยู่ในชมรมที่เราไม่ได้อยากอยู่จริง ๆ
เราแค่ต้องการเป็นคนพิเศษ
แต่ถ้าเราเข้าใจ มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะทำให้เราพิเศษขึ้นมาจริง ๆ ได้
.
7. ลองใช้จีพีเอสแห่งจักรวาลนำทางดู
จีพีเอสแห่งจักรวาลจะช่วยเราเสมอในทุกครั้งที่เราหลงทาง เพราะมันทำงานเหมือนจีพีเอสจริง ๆ โดยจะคำนวณหาเส้นทางให้เราใหม่เสมอ
เพียงแต่ว่าเราต้องเปิดเครื่องด้วยการเข้าใจก่อนว่าเราอยากไปที่ไหน และตั้งจุดหมายให้ชัดเจน
จากนั้นก็ลองฟังเสียงของจักรวาลดูบ้าง
เมื่อเชื่อมต่อแล้ว จักรวาลจะสร้างโอกาสที่สอดคล้องกับสิ่งที่เราต้องการเอง
.
8. หลักสูตรชีวิต ก็เหมือนกับการฝึกเล่นเซิร์ฟ
1) เลือกคลื่น – เลือกที่ที่เราอยากไป เลือกเป้าหมายของตัวเอง
2) หาตำแหน่งให้ตัวเองและบอร์ดเพื่อจะเกาะคลื่น – ทำตัวเองให้สอดคล้องไปกับความตั้งใจ ทั้งความคิด อารมณ์ความรู้สึกและการกระทำ เช่น การพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ต้องการ หรือเจอผู้คนที่ใช่
3) เริ่มพาย – เริ่มลงมือทำ !
4) เมื่อรู้สึกถึงกำลังของคลื่น อย่าเพิ่งหยุด ให้พายต่ออีกสองสามกรรเชียงเพื่อเข้าไปในไหลล่อง – ขจัดความกลัว อย่าล้มเลิกกลางคัน เพราะการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งมักต้องใช้พลังงานมากกว่ามาก จงเชื่อว่าอีกนิดเดียวก็จะได้สัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์แล้ว
5) โต้คลื่น ! – อย่าเอาแต่พาย พาย พาย เพราะมันจะน่าเบื่อ จงมีความสุขไปกับการโต้คลื่น มีความสุขจริง ๆ กับการได้ทำตามฝัน
.
9. หลายคนโกรธ เพียงเพราะเขากลัว
ถ้าเราเปลี่ยนมุมมองต่อคนอื่น เราอาจเข้าใจพวกเขาได้มากขึ้น
คนที่กลัวมักจะตายหลายครั้งในความคิดของตัวเอง เพราะปล่อยให้ความกลัวครอบงำจนหัวเสียและโกรธ
แต่คนที่กล้าจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ
.
10. หลายคนแลกคะแนนสะสมไว้ เพื่อต้องการวันเวลาเพิ่มเมื่อเกษียณ
พวกเขาทำงานหนัก สละวันลา และไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และนั่งรอวันเวลาที่ตัวเองเกษียณและมีเงินมากพอ
แต่ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป หลายคนล้มป่วย ไปไหนมาไหนลำบากขึ้น เพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันได้ก็มีน้อยลง
ดังนั้นจงใช้ชีวิตตั้งแต่วันนี้จะดีกว่า !
.
11. I a sage
I = intuition – ใช้สัญชาตญาณในการเลือกคลื่น หรือเป้าหมาย
a = always another waves – ถ้าพลาดคลื่นลูกแรกไป อย่าหัวเสีย ให้มองหาคลื่นลูกต่อไปทันที
s = start small and work your way up – ค่อย ๆ พัฒนาฝีมือจากคลื่นลูกที่โต้ง่ายก่อน
a = ask - ขอคำแนะนำคนเก่งเสมอ
g = go – ลุย !
e = every – สม่ำสมอ
.
12. บางครั้งเวลาเราโกรธหรือโมโหสิ่งใดมาก ๆ ให้ถอยออกมามองจากมุมของผู้สังเกตการณ์
ไม่ใช่ผู้มีส่วนร่วม
เพราะเมื่อเราถอยออกมา เราจะเริ่มสังเกตเห็นสิ่งที่เราทำมากขึ้น
เราจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น และลดความโกรธลง
.
13. นิยามตัวเองในแบบที่ตัวเองอยากเป็น
เช่น ถ้านิยามตัวเองว่าเป็นนักผจญภัย เราจะรู้สึกไม่อยากอยู่บ้าน
เพราะอารมณ์ ร่างกาย และสติปัญญาจะอยากให้เราออกไปผจญภัย
การอยู่แต่บ้านจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้
.
14. เราเลือกที่เกิดไม่ได้ แต่เลือกที่อยู่ได้
เราเลือกไม่ได้ว่าจะเกิดมาเป็นใคร แต่เลือกคนที่จะอยู่ใกล้ได้
เราต้องเข้าใจถึงอิสรภาพในการไม่ถูกจำกัดด้วยอะไรบางอย่าง เช่น สถานที่เกิด
.
15. เราอาจมีหลายบุคลิกภาพได้ในหลายช่วงเวลา
บางครั้งเราอาจมีบุคลิกภาพเป็น นักธุรกิจ
เป็นเด็ก
เป็นนักเต้นรำ
เป็นนักเรียนการเซิร์ฟ
เป็นมือกลอง
จงเป็นอิสระ และอย่าจำกัดตัวเองอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
.
.
รีวิวสั้น ๆ หลังอ่าน
เป็นหนังสือนิยาย howto ภาคต่อของ the why café ที่อ่านสนุกมาก
ภาคนี้เป็นเรื่องราวของจอห์น ผู้กลับมาเยือน the why café อีกครั้งในหลายปีถัดมา
ซึ่งคาเฟ่นี้เปลี่ยนไปตั้งอยู่ที่ฮาวาย และทำให้บรรยากาศของเรื่องเป็นทะเล และการเล่นเซิร์ฟ
ตัวละครเดิมอย่าง ไมค์ เจ้าของคาเฟ่ และเคซีย์ สาวเสิร์ฟ ก็กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีตัวละครใหม่อย่าง เจสสิกา ที่เพิ่งมาเยือนคาเฟ่เป็นครั้งแรก
.
บทเรียนชีวิตถูกถ่ายทอดผ่านบทสนทนาของตัวละครในเรื่อง รวมไปถึงการฝึกเล่นเซิร์ฟของเจสสิกา
อ่านสนุกเหมือนเดิม เล่มนี้ยาวกว่าเดิม 300 หน้า แต่เพลินดีเหมือนกัน
สิ่งที่ชอบมากที่สุดคือ บรรยากาศของเรื่องที่เน้นไปที่การเล่นเซิร์ฟ และบรรยากาศการพักผ่อนแบบฮาวาย
.
แต่เรื่องที่อ่านแล้วแคลงใจนิดหน่อย คือตัวเอก จอห์น ที่ทำงานหนึ่งปี และออกไปเที่ยวรอบโลกอีก 2 ปี
พอกลับมาทำงานก็ต้องหางานทำใหม่อีกครั้ง
ดูแล้วเป็นโมเดลชีวิตที่น่าสนใจ แต่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้จริงมากน้อยแค่ไหน
.
.
Comments