รีวิว โชคดีที่มึงได้อ่าน
- หลังอ่าน: รีวิวหนังสือ
- Oct 15, 2021
- 1 min read

รีวิว โชคดีที่มึงได้อ่าน
.
‘ปัญหาชีวิตในช่วงวัย 20-45 ถ้าไม่รู้จะปรึกษาใคร ก็เชิญโทรหาน้าเน็กได้เลยครับ’
.
ใครที่ตามดูรายการของน้าเน็กอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น
หงี่-เหลา-เป่า-ติ้ว
อย่าหาว่าน้าสอน
หรือ คุยให้เด็กมันฟัง
คงจะรู้อยู่แล้วว่าน้าเน็กจัดรายการตอบคำถามจากผู้ชมทางบ้าน
.
ส่วนใหญ่จะเป็นการเล่าปัญหาสัพเพเหระทั่วไป ตั้งแต่เรื่องความรัก การงาน การเงิน ความฝัน ครอบครัว
คนที่โทรไปมักจะอยู่ในวัยหนุ่มสาว
ถ้าเอาตัวเลขจากหนังสือเล่มนี้ก็ประมาณตั้งแต่ 20 ต้นๆ วัยเรียนจบ จนกระทั่ง 45 วัยเริ่มลงหลักปักฐานกับครึ่งชีวิต
.
และใครที่ติดตามจะรู้ว่าน้าเน็กตอบปัญหาได้ดีมาก
ส่วนตัวคิดว่า มาจากประสบการณ์อันโชคโชนของน้าเน็กที่ชีวิตขึ้นลงดั่งโรลเลอร์โคสเตอร์
จริง ๆ อยากให้น้าเน็กเขียนเล่าประวัติตัวเองลงหนังสือสักเล่มด้วยซ้ำ น่าจะมันอยู่
.
เพราะคำตอบของน้าเน็กคือดี ตรงไปตรงมา ไม่โลกสวย และไม่ปลอบใจมากจนเกินไป
แต่ฟังแล้วได้กำลังใจดีๆกลับมาทุกครั้ง
เพราะฉะนั้นแล้ว
ใครโทรติด มึงคือคนโชคดี!!!
.
และใครได้อ่านหนังสือเล่มนี้ มึงโชคดีมากที่ได้อ่าน!!
.
เพราะหนังสือเล่มนี้ก็คือการเรียบเรียงเรื่องราว 55 เรื่อง ที่น้าเน็กรับสายจากทางบ้าน ถามชื่อ-อายุ และตอบปัญหาอย่างคมคาย
คำถามสำคัญคือ ทำไมอยู่ๆน้าเน็กถึงเขียนหนังสือ ทั้ง ๆ ที่รายการทุกตอนก็มีอัดไว้อยู่แล้ว
คำตอบง่ายมาก เพราะ ‘น้าเน็กรักหนังสือ’
และ วิธีเดียวที่จะทำให้หนังสือคงอยู่ต่อไปก็คือการผลิตมันออกมา
.
สั้น ๆ ง่าย ๆ แค่นี้แหละ
แต่อ่านแล้วชอบจริงครับ เพราะแต่ละบทเป็นการเล่าบทสนทนาแบบสั้น ๆ ได้ใจความ
มีประโยชน์ ชอบการตอบปัญหาที่ได้ข้อคิดของน้าเน็ก
.
สุดท้ายอยากเชียร์ให้ไปลองซื้ออ่านกันดูนะครับ
และ ขอเลือก 10 บทเรียนที่น้าเน็กสอนไว้ให้ฟังผ่านตัวหนังสือ ในเล่มโชคดีที่มึงได้อ่าน
.
1) อย่าจริงจังกับความรักมากจนเกินไป
ผู้ชายบางคนจริงจังกับการคบใครสักคนมาก
ขนาดที่ว่ามองไปถึงการแต่งงาน ซื้อบ้าน ซื้อรถ
ซึ่งถ้ามันตรงกันทั้ง 2 ฝ่ายก็คือดีไป
แต่ถ้าไม่ใช่ อีกฝ่ายก็คงอึดอัด และขอถอยห่าง
.
เพราะฉะนั้นแล้ว คงต้องดูจังหวะเวลาดีๆ
ถ้าผู้หญิงอายุ 20 คงไม่ใช่ ที่จะมาจริงจังเกินไป
แต่ถ้าอายุมากขึ้นหน่อย ก็อาจพอเหมาะมากขึ้นที่จะคุยเรื่องจริงจัง
.
.
2) ปล่อยให้พวกที่บูลลี่ เป็นเหมือนหมาเห่า
ชีวิตใครหลายคนอาจเคยถูกบูลลี่
ด้วยเหตุผลไร้สาระต่าง ๆ นา ๆ อย่างหน้าตาน่าแกล้ง
.
ชายคนหนึ่งที่โทรหาน้าเน็ก เพราะโดนเพื่อมหาลัยบูลลี่หนักมาก
จนกระทั่งไม่อยากไปเจอพวกนั้นอีก ไม่อยากแม้จะไปงานรับปริญญา
.
ใครไม่เคยอาจไม่รู้ แต่ถ้าคนคนเคย แล้วเก็บมาคิด จะช้ำใจพอควร
วิธีแก้ง่ายๆ คือการที่เรามองให้เสียงพวกนั้น คือเสียงหมาเห่า
คงไม่มีใครจะแกล้งเราได้ถึงขั้น เตะขัดขากลางเวทีไม่ให้ขึ้นรับปริญญาหรอก
.
ถ้าเราไม่สนใจ เสียงพวกนั้นก็ไม่มีความหมาย
ทำอะไรเราไม่ได้
และอย่างน้อยๆ เราก็ได้เรียนรู้ว่า การบูลลี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเด็ดขาด
โตขึ้นไป เราจะเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม และทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น
.
.
3) อยู่ต่อไปได้ แม้คนรักจะตายจากไป
ความตายของพ่อแม่ ญาติสนิท มิตรสหายเป็นสิ่งเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะพ่อแม่ ที่เราล้วนรู้อยู่แก่ใจดีว่า
ไม่วันใดวันหนึ่งท่านก็ต้องจากเราไป
.
แน่นอนว่ามันเจ็บ
มันทรมาน
มันโคตรคิดถึงงเขา เมื่อถึงคราวต้องจากลา
.
สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์มากแล้วอย่างน้าเน็ก ที่สูญเสียคุณพ่อไป
อยากจะแนะนำสั้น ๆ ว่า
.
จงเข้มแข็งเข้าไว้
แล้วมันจะผ่านไปเอง
.
เราจะคิดถึงเขาแน่ ๆ
แต่เขาจะกลายมาเป็นความทรงจำที่สวยงามสำหรับเรา
และเราขะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
.
.
4) อย่าให้ความเกรงใจ มาสร้างความฉิบหาย
บางคนเจอเพื่อนที่เอาเปรียบ
เข้ามาใช้ที่นอน เข้ามาพักอาศัยในที่ส่วนตัวเป็นประจำ
จนกระทบกับความสบายใจของตัวเองและครอบครัว
.
ถ้าเจอแบบนี้ เราต้องรู้จักตัด!!
ขีดเส้นไว้ให้ชัดเจนว่า ความเป็นเพื่อนมีได้ แต่ต้องไม่เกินเท่าไหน
.
ไม่ใช่ว่าเป็นเพื่อนกัน แล้วจะเข้ามาอยู่ในบ้าน ใช้ของในบ้านแบบไม่เกรงใจ
เราเองต้องไม่เกรงใจเขา ต้องมีลิมิตแต่พองาม
.
และต้องไม่กลัวว่าจะเสียเพื่อนไป
เพราะสุดท้ายเพื่อนที่เราต้องอยู่ด้วยมากที่สุด อาจเป็นตัวเองก็ได้
.
.
5) ช่างหัว ‘ทฤษฎีประตูเลื่อน’
ทฤษฎีประตูเลื่อน มาจากหนังเรื่อง Sliding Doors หรือหนังสือ the midnight library
ที่บอกว่าถ้า ณ จุดหนึ่ง เราต้องเจอกับทางแยกการตัดสินใจ
ซึ่งนั่นอาจทำให้ชีวิตเราแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
.
คนที่โทรหาน้าเน็กเป็นโปรแกรมเมอร์วัย 40 ปี
ที่ใฝ่ฝันอยากทำงาน Creative บ้าง
และมีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์งานกับพี่บอย โกสิยพงษ์
แต่สุดท้ายปฏิเสธไป เพราะอยากใช้เวลากับครอบครัว
และกลัวว่าจะทำงานได้ไม่ดี เพราะตัวเองทำงานคนละสายมาตลอด
.
แน่นอนว่าเขามีความเสียใจ
แต่เมื่อตัดสินใจไปแล้ว เราไม่ควรไปเสียดายอะไรกับสิ่งที่ไม่ได้เลือก
ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะคิดถึงเรื่องนั้น
.
แน่นอนว่าเราไม่มีทางรู้ ว่าทางที่ไม่ได้เลือกมันจะพาเราไปไหน มันจะดีกว่า แย่กว่าทางที่เลือกยังไง
แต่อย่างน้อยเราก็เป็นคนตัดสินใจเอง
จงคิดกลับไปหาประตูเลื่อนบานนั้นแบบขำ ๆ
และมองว่าสิ่งที่เราเลือกวันนี้ พาเรามาถึงจุดไหนแล้ว
.
คนที่โทรติดนั้น ได้แฟนใหม่ ได้สร้างครอบครัว
แม้จะเสียโอกาสการทำงานกับคุณบอย โกสิยพงษ์ไปก็ตาม
.
.
6) จงกำหนดมาตรฐานชีวิตของตัวเอง
มีคนถามน้าเน็กเข้าไปว่า อายุ 25 ปี ควรมีเงินเก็บเท่าไหร่
ตอนนี้เขาเก็บเงินได้ 200,000 บาท
น้าเน็กตอบว่า
เคยเจอมาหมดแล้ว คนที่มีน้อยกว่า 2 แสน
มากกว่า 2 แสน
ประมาณ 2 แสน
และเป็นหนี้ 2 แสน
.
เราจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปเทียบกับคนอื่น
เราควรมีเงินเก็บเท่าไหร่ ขึ้นกับตัวเราเองว่าต้องใช้เท่าไหร่
อยากมีไลฟ์ สไตล์แบบไหน
.
เราควรเลิกเอามาตรฐานคนอื่นมาวัดชีวิตตัวเอง
เราควรเลิกคิดว่า อายุเท่านี้ ต้องมีบ้าน ต้องมีรถ ต้องแต่งงาน ต้องมีลูก
เลิกสนใจซะ แล้วใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการดีกว่า
เรามีชีวิตเดียวนะ แคร์คนอื่นมากไปทำไม
.
.
7) อย่าแบกคนอื่น จนลืมดูตัวเอง
บางคนยอมทำงานหนัก เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวและคนรอบตัว
แต่ลืมมองความต้องการของตัวเอง
.
จงจำไว้ว่า อย่าแบกคนอื่นมากเกินไป จนลืมดูตัวเอง
เพราะถึงเราตายวันนี้ เชื่อสิว่า คนอื่นก็ยังใช้ชีวิตต่อไปได้
.
ทุกคนก็ต้องหาหนทางชีวิตตัวเองให้รอด
เราก็ไม่ต่างกัน
เราก็มีชีวิตของเรา
มองความต้องการของตัวเองบ้าง
.
.
8) มองครอบครัวเป็นทีมเดียวกัน
เมื่อเจอปัญหาในครอบครัว เราควรช่วยกันแก้ปัญหา
ช่วยกันหาทางในการขจัดปัญหาออกไป
ไม่ใช่มองแต่ว่า แม่เป็นคนสร้างปัญหา พ่อเป็นคนสร้างปัญหา
แล้วเราคือตัวซวย ต้องมาช่วยแก้
.
อยู่กันเป็นครอบครัว ต้องเล่นเป็นทีม
อย่าเห็นแก่ตัว มองแต่ความต้องการของตัวเอง
.
.
9) สนุกกับสิ่งที่มีตรงหน้า
มีเด็กอายุ 18 ปีโทรหาน้าเน็ก ข้ามประเทศจากญี่ปุ่น
บ่นว่า ตัวเองเรียกเก่ง เรียนข้ามชั้น เลยต้องมาเป็นเพื่อนกับผู้ใหญ่วัย 30 ปี
ที่มีความสนใจต่างกัน
ตัวอยากมีเพื่อนวัยเดียวกันบ้าง
.
น้าเน็กเล่าว่า ส่วนตัวน้าเน็กเองก็เคยคบเพื่อนพ่อ สมัยอายุ 17 ปี
เพื่อนรุ่นเดียวกันไม่มี มีแต่รุ่นพ่อ
.
แต่มันก็มีข้อดีหลายอย่าง
มันทำให้น้าเน็กได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากเพื่อนรุ่นพ่อ
.
เพราะฉะนั้นเด็กคนที่โทรติดถือว่ามีโอกาสดี ๆ มากมายเหนือกว่าคนอื่น
ได้ไปอยู่ต่างประเทศ ได้ไปเรียนรู้วัฒนธรรมอันหลากหลาย
ได้ไปเที่ยวในที่ ๆ หลาย ๆ คนไม่มีโอกาสได้ไป
ได้มีเพื่อนจากหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายวัฒนธรรม
และได้มีเพื่อนจากหลากหลายอายุ
มีแต่ข้อได้เปรียบคนอื่นในวัยเดียวกันเต็มไปหมดเลย!!
.
จงมองหาข้อดีของสิ่งตรงหน้า อย่าไปมองข้อไม่ดี
และจงมองว่าเราเรียนรู้อะไรจากสิ่งตรงหน้าได้บ้าง
.
.
10) ใครถามอะไรน่ารำคาญ ตอบไป ไม่สะดวก!!
จะมีคนบางพวกที่ชอบมาถามอะไรน่ารำคาญ เช่น
เมื่อไหร่จะมีแฟน
เมื่อไหร่จะแต่งงาน
เมื่อไหร่จะมีลูก
เมื่อไหร่ลูกจะเรียนจบ
บลา ๆ ๆ ๆ
.
น้าเน็กตอบว่าถ้าเจออีกนะ
วันหลังตอบไปสั้น ๆ
‘ไม่สะดวก’
.
เมื่อไหร่จะมีแฟน >> ไม่สะดวกครับ
เมื่อไหร่จะแต่งงาน >> ไม่สะดวกคะ
เมื่อไหร่จะมีลูก >> ไม่สะดวกครับ
เมื่อไหร่ลูกจะเรียนจบ>> ไม่สะดวกคะ
.
.
.................................................................................................
ผู้เขียน : เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา (น้าเน็ก)
จำนวนหน้า : 256 หน้า
สำนักพิมพ์: I AM THE BEST
..................................................................................................
.
.
สั่งซื้อหนังสือได้ที่
.
.

Comments