สรุป 15 ข้อคิด จากหนังสือ เมื่อการทำงานหนัก ไม่ใช่คำตอบของความก้าวหน้า
.
.
1. ในการทำงาน อย่ามัวเอาแต่หาคำตอบที่ถูกต้อง 100%
เหมือนที่อาจเคยทำในวัยเรียน เพราะคำตอบแบบนั้นไม่มีอยู่จริง
ให้ลองลิสต์ข้อดี-ข้อเสียของการตัดสินใจในครั้งนั้น
แล้วลองวิเคราะห์ดูว่า ข้อดีบางข้อมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะเอาชนะข้อเสียหลาย ๆ ข้อได้รึเปล่า
.
2. โฟกัสไปที่ผลลัพธ์ให้น้อยลง แล้วจะมีความสุขระหว่างทางมากขึ้น
และความสุขที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ก็จะกลายเป็นแรงผลักให้ทำต่อเนื่องได้มากขึ้น
จึงสร้างผลลัพธ์ได้อย่างต่อเนื่อง
แต่ถ้าเราเอาแต่มองไปที่ผลลัพธ์ เราก็คงมองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง
.
3. ใช้วิธีคิดแบบ Progressionist ไม่ใช่ Perfectionist
Perfectionist ต้องการให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แม้ชีวิตจะก้าวหน้าไปแล้ว ก็อาจยังมองว่าตัวเองผิดพลาด
ในขณะที่ Progressionist มองเป้าหมายเป็นสมมติฐาน และลงมือทำเพื่อทดสอบสมมติฐานที่ตัวเองตั้งขึ้น เมื่อเกิดความผิดพลาดก็ปรับเปลี่ยน เมื่อสำเร็จก็ต่อยอดสมมติฐานต่อไป
ค่อย ๆ เห็นพัฒนาการของตัวเองไปเรื่อย ๆ
แม้สมมติฐานที่ตั้งไว้ตอนแรกจะไม่สำเร็จ ก็ไม่เป็นไรเพราะมันเป็นเพียงสมมติฐาน เราสามารถได้บทเรียน และปรับปรุงสมมติฐานต่อไปให้ถูกต้องมากขึ้น
.
4. Work Smart ด้วย 4 หลักการต่อไปนี้
1) คัดกรองสิ่งที่ไม่สำคัญออก เลือกทำเฉพาะสิ่งสำคัญ
2) เอาสิ่งสำคัญที่เหลืออยู่มาจัดเรียงลำดับความสำคัญ
3) เพิ่มประสิทธิภาพ (efficinecy) ในการทำงาน ทำงานให้จบในเวลาที่ไวขึ้น
4) เพิ่ม productivity ในการทำงาน ใช้เวลาที่เหลือจากการทำงานเดิมให้เสร็จไวขึ้น เอาไปทำงานอื่นต่อ
.
5. การจะรู้ว่าที่ทำงานที่เราทำอยู่ดีที่สุดแล้วรึยัง
อาจไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับที่ทำงานที่อื่น
แต่ให้เทียบกับความคาดหวังในใจตัวเอง
ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อม หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมทีม
ความท้าทายของงาน และความรู้สึกเติบโต
และที่สำคัญที่สุดคือความสนุกที่ได้จากงาน พร้อมการพัฒนาตัวเองไปพร้อม ๆ กัน
ดังนั้นแล้ว ไม่ต้องทำงานหลายที่ ทำงานไปที่เดียว 20 ก็เจอที่ทำงานที่ดีที่สุดของตัวเองได้
.
6. อย่าจริงจังกับความพยายามมากจนเกินไป
เพราะความพยายามที่มาก ไม่ได้การันตีว่าเราจะต้องสำเร็จ
มันยังมีปัจจัยอื่นอีกมาก เช่น โชค จังหวะเวลา สภาพแวดล้อม
และที่สำคัญ ไม่มีใครมาสนใจว่าเราจะลงแรงพยายามมามากแค่ไหน เขาเห็นแค่ผลลัพธ์สุดท้ายเท่านั้น
ดังนั้นแล้ว อย่าจริงจังกับความพยายามมากเกินไป ผ่อนบ้าง พักบ้าง
บางเรื่องพยายามแล้วไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นไร
.
7. เลิกหาเหตุผลดี ๆ ในการเริ่มทำอะไรสักอย่าง
ของแบบนั้นไม่จำเป็นต้องมี และบางครั้งหาให้ตายเราก็หาไม่เจอ
ถ้าเรามีความสงสัยใครรู้ในเรื่องอะไรก็ตาม แม้จะเล็กน้อยก็ให้ลงมือทำเพื่อคลายความสงสัยนั้นเลย
สุดท้ายแล้ว ถ้าทำไปเรื่อย ๆ เหตุผลที่เหมือนจะไม่มีก็อาจค่อย ๆ วิวัฒนาการเป็นเหตุผลดี ๆ ให้เราเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังได้เอง
.
8. ใช้อภิสิทธิ์ของเด็กใหม่ให้เต็มที่ ถ้าไม่รู้ก็ถาม ถ้าอยากลองก็ลองเลย พลาดบ้างล้มบ้างก็ไม่เป็นไร
ถ้าเริ่มทำงานไปสักพัก อภิสิทธิ์เหล่านี้จะค่อย ๆ ลดลงไป
คนอื่นจะคาดหวังกับเรามากขึ้นนั่นเอง
.
9. ยอมรับความจริงว่า เรามีเวลาและพลังงานที่จำกัด เราไม่มีศักยภาพมากพอที่จะทำทุกอย่างได้
ดังนั้นเราต้องกำหนดและจำกัดจำนวนเป้าหมายของตัวเองให้ชัดในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญน้อยลงมาให้พักไว้ก่อน เลื่อนไปทำทีหลังก็ได้
.
10. ประสบการณ์การทำงานไม่ได้วัดด้วยจำนวนปี
เพราะถ้าทำงานมา 4 ปี แต่ทำเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ก็เท่ากับการมีประสบการณ์ 1 ปี 4 ครั้ง
ดังนั้นเราต้องมองหางานที่เราจะพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้
ไม่ใช่วนลูปอยู่กับงานเดิม ๆ ไปตลอด
.
11. การตั้งใจทำผลงานให้ดีอาจไม่พอ
เราต้องมีความสามารถในการสื่อสารและนำเสนอผลงานให้คนอื่นสนใจด้วย
.
12. ถ้าอยากเติบโตเราต้องทำได้มากกว่าตำแหน่งของตัวเอง
อย่าไปยึดติดกับ Job Description เพราะนั่นเป็นเพียงระดับต่ำสุดในสิ่งที่เราทำได้
.
13. หา Benchmark ของคนที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าเราเสมอ
เหล่า Top performer จะไม่เคยมองแค่ Benchmark ของคนระดับเดียวกัน แต่จะเทียบกับคนระดับสูงกว่าตัวเองเสมอ
เพื่อให้ตัวเองสามารถเล็งแนว และสร้างผลลัพธ์ให้ตัวเองเติบโตไปได้ตามแนวที่เล็งไว้
.
14. แม้จะเรียนจบมหาลัย แต่ในที่ทำงานเราก็ยังคงต้องเป็นคนที่เรียนรู้อยู่
เพียงแต่พอทำงาน ก็จะไม่มีใครมาคอยบอกเราว่าต้องเรียนอะไร ลงทะเบียนวิชาอะไรบ้าง
เราต้องออกแบบแผนที่การเรียนของเราเอง สร้างระบบการศึกษา และแผนการเรียนที่ทำให้เราเติบโตด้วยตัวเอง
.
15. อย่ามองข้ามปัญหาเด็ก ๆ เล็ก ๆ
เพราะปัญหาเหล่านี้ถ้ามากองรวมกัน สักวันก็อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงานที่รก จนวันหนึ่งเราอาจหาของไม่เจอ
อีเมลที่ไม่เคยเปิด จนเราลืมอีเมลสำคัญในกองอีเมลขยะ
หรือปัญหาความสัมพันธ์ที่ไม่เคยพูดคุยกับอีกฝ่าย จนสุดท้ายกลายเป็นการทะเลาะกันอย่างใหญ่โต
.
.
รีวิวสั้น ๆ หลังอ่าน
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยคุณ เธมส์ เจ้าของเพจ Thinkต่าง by เธมส์ ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน
เป็นหนังสือรวมบทความสั้น ๆ ที่ให้ข้อคิดดี ๆ สำหรับคนทำงานหนุ่มสาว โดยเฉพาะพนักงานประจำที่รับเงินเดือนอยู่ทุกเดือน
เมื่อโลกเปลี่ยนไป แนวคิดการทำงานหลาย ๆ อย่างก็ควรจะเปลี่ยนด้วย
การอ่านหนังสือเล่มนี้ อาจช่วยให้เราได้รับมุมมองใหม่ ๆ ว่าเราควรปรับความคิดยังไง ถ้าอยากเติบโตและมีความสุขไปกับการทำงาน โดยเฉพาะทำงานในแบบมนุษย์เงินเดือน
.
ส่วนตัวชอบหนังสือแนวนี้มาก เพราะย่อยง่าย
บทความสั้น ๆ เหล่านี้ก็แฝงแง่คิดดี ๆ ไว้มากมาย
อ่านแล้วยังรู้สึกด้วยว่า ทุกชีวิตในโลกการทำงานก็ยังคงต้องสู้กันต่อไป
แต่ก็ใช่ว่าเราจะหาความสุขจากการทำงานไม่ได้เลย
เพราะถ้าเรารู้วิธี ชีวิตเราก็มีความสุขได้เสมอ
.
.
พิกัดสั่งซื้อ: https://shope.ee/AK0lvBQRnz
.
...............................................................................
ผู้เขียน เธมส์ THINK ต่าง
จำนวหนน้า: 184 หน้า
สำนักพิมพ์: DOT, สนพ.
เดือนปีที่พิมพ์: 9/2021
...............................................................................
.
Comments