top of page
  • Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิว รวยมาตั้งแต่จิตใต้สำนึก



สรุป 10 เคล็ดลับความมั่งคั่ง ฉบับอดีตสาวโรงงานเกาหลี

จากหนังสือ รวยมาตั้งแต่จิตใต้สำนึก

.

.

1. จงทิ้งนิสัยไม่ดีทั้ง 3 อย่างต่อไปนี้

นิสัย 1: ทิ้งการดื่มเหล้าที่ทำให้สติแตกกระเจิง และอาจแย่งเวลาไปโดยไม่รู้ตัว

นิสัย 2: ทิ้งนิสัยการติดเล่นสนุก รวมถึงการใช้โซเชีลยมีเดียที่กัดกร่อนชีวิตทีละน้อย

นิสัย 3: ทิ้งนิสัยปาร์ตี้หนักเกินไป เพียงเพราะอยากสร้าง connection

.

.

2. จงหาครูที่เป็นแบบอย่างให้เราสัก 1,000 คน

โดยอาจลองหาจากหนังสือที่อ่าน คนที่ประสบความสำเร็จด้วยความตั้งใจจริงต่าง ๆ

แล้วลองหาบทสัมภาษณ์ การบรรยาย และผลงานต่าง ๆ เพื่อให้เราเข้าใจความคิดของคนเหล่านี้

และค่อย ๆ ลองฝึกการคิดและการตัดสินใจให้ได้แบบพวกเขาในเวลาต่อมา

.

.

3. ฝึก “นิสัยที่ผู้ประสบความสำเร็จมีร่วมกัน” ต่อเนื่องให้ครบ 100 วัน

นิสัย 1: ตั้งเป้าหมายให้ชัด มองเห็นเส้นชัยที่ชัดเจน

นิสัย 2: ขีดเส้นตาย เพื่อให้เริ่มลงมือทำ

นิสัย 3: จินตนาการถึงชีวิตที่อยากเป็นในอีก 5 ปี 10 ปี อย่างเป็นรูปธรรม

นิสัย 4: กำหนด Action Plan เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้ง โดยพยายามเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ

นิสัย 5: ทิ้งนิสัยไม่ดีทั้ง 3 ข้อคือ ดื่มเหล้า เล่นสนุก และบ้าปาร์ตี้

นิสัย 6: เขียนความฝัน 1 ประโยคและแปะไว้ในทุก ๆ ที่มองเห็น เช่น ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า ตู้กระจก ประตูบ้าน

นิสัย 7: ตะโกนความฝันของตัวเอง อย่างน้อยวันละ 100 ครั้ง

.

.

4. Wealthinking คือการแบ่งแยกคนรวยกับคนจน

คนรวยทุกคนมี Wealthinking ซึ่งหมายรวมถึง ความมั่งคั่ง การสร้างประโยชน์ให้คนอื่น และมีความเป็นมนุษย์

คนจนที่ไม่มี Wealthinking ไม่เพียงแต่ไม่มีเงิน แต่ยังไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ใคร และไม่ได้แสดงความเป็นมนุษย์ต่อคนอื่นอีกด้วย

.

.

5. ความมั่งคั่งที่แท้จริง อาจไม่ใช่การที่เราต้องทำงานหนักทุกวัน เพื่อแลกกับทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

แต่เป็นตอนที่เราสามารถออกไปแล่นเรือยอร์ชสบายใจเฉิบได้ 1 ปี โดยได้เติมเต็มความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับครอบครัวและลูก

และได้เพิ่มความไว้วางใจกับพนักงานในบริษัทให้ดำเนินงานต่อไปได้ โดยไม่ต้องมีเราควบคุมอย่างใกล้ชิด

.

.

6. การจะเป็นคนมีความมั่งคั่ง ไม่ได้ดูจากว่าเขาคนนั้นหาเงินได้มากแค่ไหน แต่ต้องดูจากการใช้จ่ายด้วย

เพราะถ้าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย แม้จะหาเงินได้มาก แต่ก็คงจะไม่มีเงินเก็บเหลือพอ

.

.

7. หากชีวิตเราเป็นเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง เราไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับหน้ากระดาษที่ผิดพลาด เพราะเราทำน้ำหมึกหยดลงไป หรือเผลอไปทำให้หน้ากระดาษฉีกขาด

เพราะเรายังสามารถข้ามไปยัง “หน้าถัดไป” ได้เสมอ และระวังอย่าทำน้ำหมึกหยดซ้ำ หรือทำให้หน้ากระดาษขาดอีกครั้ง

ดังนั้นถ้าเผลอทำหน้ากระดาษขาดก็อย่าดุด่าตัวเองจนมากเกินไป

.

.

8. รากเหง้าของพื้นฐานของ Wealthinking ทั้ง 7 ประการ

รากเหง้าที่ 1: รู้ว่าค่านิยมหลักของตัวเองคืออะไร และนำมันมาตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและปฏิบัติได้จริง

รากเหง้าที่ 2: ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว และลงมือทำอยู่เสมอ ไม่เอาแต่คิดวนไปวนมา

รากเหง้าที่ 3: ประกาศความตั้งใจออกมาให้คนอื่นได้รับรู้

รากเหง้าที่ 4: เชื่อมั่นว่าตัวเองต้อง “ทำได้” มากกว่า “ทำไม่ได้”

รากเหง้าที่ 5: ศรัทธาว่าวันหนึ่งเราจะต้องสำเร็จ

รากเหง้าที่ 6: มั่นใจในตัวเองให้มากพอ

รากเหง้าที่ 7: ตั้งคำถามที่ดี คิดอยู่เสมอว่าเราจะทำอย่างไรเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ต่าง ๆ

.

.

9. แก่นแท้ของ Wealthinking คือการสร้างมโนภาพ

เพราะความฝันของเราจะเป็นจริงได้เกิดจากการใช้จิตสำนึกเพียง 10% และจิตใต้สำนึกอีก 90%

การสร้างจิตใต้สำนึกที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของสมองจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การสร้างมโนภาพชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการจะช่วยให้จิตใต้สำนึกจำภาพนั้นซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ

แล้วก่อให้เกิดการกระทำที่จะนำชีวิตไปสู่มโนภาพที่สร้างไว้

.

.

10. ฝึกสร้างมโนภาพในทุกเช้าและทุกเย็น

โดยนตอนเช้าให้ลองสร้างมโนภาพ ด้วยการเติมสิ่งที่อยากได้อยากมีเข้ามาในหัว

ส่วนตอนเย็นให้สร้างมโนภาพใยนการนำสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากตัว

ทำแบบนี้ครั้งละ 3-10 นาที

แต่ถ้ามีเวลาอาจใช้การสร้างมโนภาพแบบอื่น ๆ ที่ใช้เวลาเป็นชั่วโมง

แต่จะช่วยให้เราเข้าไปถึงจิตใต้สำนึกของตัวเอง เช่นการจินตนาการว่าตัวเองถูกรถชน และได้ตายจากไป

จนวิญญาณลอยออกนอกโลก และถูกหลุมดำดูดกลืนไป

ทำให้ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

.

.

รีวิวสั้น ๆ หลังอ่าน

หนังสืออ่านสนุกมาก เป็นเคล็ดลับที่มาจากประสบการณ์ชีวิตจริงของผู้เขียน เคลลี ชเว

ที่เคยใช้ชีวิตเป็นสาวโรงงานในวัยเด็ก แล้วได้เจอจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตนั่นก็คือ เพื่อนสาวที่ทำงานในโรงงานด้วยกันเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย จนไม่ได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตตามที่ใจปราถนา

เคลลี่จึงสานต่อความฝันของเพื่อน แล้วค่อย ๆ หาเส้นทางในชีวิตที่จะทำให้ตัวเองก้าวกระโดดจากสาวโรงงานเงินเดือนไม่พอใช้

มาเป็นนักธุรกิจพันล้านที่ประสบความสำเร็จ

.

เส้นทางการทำธุรกิจของเคลลี่ก็ไม่ได้เรียบง่าย เพราะเธอเองก็ล้มมาหลายครั้ง

ล้มละลายมาแล้วก็เคย แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ได้พบกับชัยชนะ

และได้สร้างชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับสามีและลูกสาว

.

เธอมีเงินมากพอจนกระทั่งสามารถไปนั่งเรือยอร์ชชิล ๆ กับสามีและลูกได้เป็นปี

พอเธอประสบความสำเร็จมากระดับนี้ เธอจึงอยากมาแบ่งปันเคล็ดลับความมั่งคั่งที่กลั่นกรองมาจากประสบการณ์ตัวเอง

ซึ่งเธอเรียกมันว่า Wealthinking

.

โดยรวมอ่านแล้ว เคล็ดลับ Wealthinking อาจไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากมาย

แต่การได้อ่านเรื่องราวของนักเขียนชาวเกาหลี ที่เป็นผู้หญิง และผ่านวัยเด็กอันยากลำบาก

มันทำให้เคล็ดลับที่เธอกลั่นกรองออกมาน่าสนใจมากขึ้น

.

ส่วนตัวมองว่า เคล็ดลับก็เรื่องนึง

แต่อ่านเรื่องราวของเคลลี ชเวแล้ว หลายคนจะได้รับแรงบันดาลใจดี ๆ กลับไปแน่นอน

.

.

พิกัดการสั่งซื้อ: https://shope.ee/3pmFx41zlI

.

.

………………………………………………………………………………………………………..

ผู้เขียน: Kelly Choi (เคลลี ชเว)

ผู้แปล: วาสนา จันทะทัง

จำนวนหน้า: 208 หน้า

สำนักพิมพ์: อมรินทร์ How To, สนพ.

เดือนปีที่พิมพ์: 8/2022

………………………………………………………………………………………………………..

.

.

#หลังอ่าน #รวยมาตั้งแต่จิตใต้สำนึก



1,277 views0 comments
Post: Blog2_Post
bottom of page