top of page
Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิว Unf*ck Yourself เลิกคิดลบนะ คนดี


7 คำพูดเติมพลังบวก และสร้างความมุ่งมั่นให้กับตัวเอง

จากหนังสือ Unf*ck Yourself เลิกคิดลบนะ คนดี

.

.

1) “ฉันเต็มใจ”

เป็นคำพูดที่ช่วยสร้างความมุ่งมั่นและประกาศจุดยืนของตัวเราอย่างชัดเจน

เราต้องเริ่มทุกอย่างจากวัตถุประสงค์เสมอ

และถ้าเราอยากได้สิ่งไหน เราต้องกล่าวอย่างมั่นใจก่อนว่า “ฉันเต็มใจที่จะลงมือทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับสิ่งเหล่านั้น”

เช่น “ฉันเต็มใจที่จะไปยิม”

“ฉันเต็มใจที่จะลาออก และไปหางานที่ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น”

“ฉันเต็มใจที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดี”

.

ในขณะเดียวกัน เราก็ควรประกาศสิ่งที่เรา “ไม่เต็มใจ” ทำออกไปให้ชัดเจน การประกาศลักษณะนี้กับตัวเองอาจสร้างพลังได้เท่า ๆ กันกับการประกาศสิ่งที่เต็มใจ

เช่น “ฉันไม่เต็มใจให้ตัวเองสุขภาพไม่ดี”

“ฉันไม่เต็มใจให้ตัวเองมีเงินแบบเดือนชนเดือน”

.

การประกาศเจตจำนงที่ชัดเจนทั้งตอนเช้า ตอนอาบน้ำ ตอนขับรถ หรือก่อนเข้านอน จะช่วยทำให้วัตถุประสงค์ของเราก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา !

.

.

2) “ฉันเกิดมาเพื่อชนะ”

ความจริงแล้วสมองของเราถูกออกแบบมาเพื่อไขว่คว้าชัยชนะอยู่แล้ว

แต่การปลูกฝังเข้าไปในจิตสำนึกตัวเองว่า “เราต้องชนะ” จะยิ่งเพิ่มพลังให้แกร่งกล้ามากขึ้น

แต่สิ่งสำคัญก็คือ เราต้องมองหาขอบเขตความสามารถของเรา และพยายามเล่นในเกมที่เราเอาชนะได้

เช่น ถ้าเราไปอยู่ผิดที่ผิดทาง ในองค์กรที่มีแต่คนคอยขัดขา เราก็คงไม่อาจก้าวหน้าได้

.

และเมื่อมองหาเกมของตัวเองเจอแล้ว ก็มุ่งมั่นลุยเข้าไป อย่าล้มเลิกเด็ดขาด !

.

.

3) “ฉันจัดการได้”

ความคิดลบมักเป็นตัวก่อกวนในใจเรา พวกมันมักเข้ามาสร้างปัญหา และทำให้เรารู้สึกว่า เราจัดการอะไรกับชีวิตตัวเองไม่ได้เลย

แต่ความจริงแล้ว ถ้าเราลองถอยออกมาก้าวนึง แล้วมองปัญหาจากภาพรวม

เราอาจมองเห็นวิธีแก้ปัญหาแบบใหม่ก็เป็นได้

.

ให้ลองนึกไปถึงอดีตของตัวเรา เราต่างเคยผ่านปัญหามานับครั้งไม่ถ้วน

ตั้งแต่ การสอบตก การถูกกักบริเวณ การสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่รัก การถูกแฟนทิ้ง การถูกปฏิเสธงาน

แต่ทุกครั้งเราก็ผ่านมันมาได้

.

ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าเราจะเจอปัญหาอะไรในอนาคต ให้เชื่อไว้เสมอว่า ทุกปัญหานั้น “เราจัดการได้”

เพียงแต่บางครั้งมันต้องใช้เวลาในการมองหาวิธีแก้ปัญหานั้นออก

.

.

4) “ฉันเปิดใจรับความไม่แน่นอน”

ทุกสิ่งบนโลกล้วนไม่แน่นอน

ความแน่นอนไม่มีอยู่จริง !

แต่คนเรากลับมักพยายามวิ่งตามหาความแน่นอน ซึ่งนับเรื่องที่ทำให้เราเสียเวลาไปมาก

จริง ๆ แล้ว ถ้าเราลองเปิดใจโอบรับความไม่แน่นอนดูบ้าง

ความไม่แน่นอนนั้นก็อาจพาเราไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ผู้คนใหม่ ๆ ประสบการณ์ใหม่ ๆ

และเรื่องราวในชีวิตในแบบที่เราคาดไม่ถึงมาก่อน

.

เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าจมตัวเองอยู่กับสิ่งเดิม ๆ อย่าหมกมุ่นอยู่กับการแสวงหาความแน่นอน

และจงเปิดตัวเองเข้าสู่โอกาสใหม่ ๆ

ยอมรับในทุกการตัดสินใจของตัวเอง ที่อาจนำพาตัวเองไปสู่ความไม่แน่นอน

แต่ก็เป็นโอกาสใหม่ ๆ ในการเรียนรู้และเติบโต

.

.

5) “ฉันไม่ได้เป็นดั่งที่ฉันคิด แต่ฉันเป็นดั่งที่ฉันทำ”

ชีวิตของเราถูกกำหนดโดยสิ่งที่เราทำ ไม่ใช่สิ่งที่เราคิด

คนมากมายมีไอเดียดี ๆ อยู่ในหัว แต่พอไม่ได้ลงมือทำอะไร ไอเดียก็ยังคงอยู่ในหัวแบบนั้น ชีวิตก็ไม่เปลี่ยน

.

กลับกัน หลายคนมีความคิดลบ ความรู้สึกแย่ ๆ ความขี้เกียจ แรงต่อต้านสารพัดที่รวมพลังกัน ต่อต้านให้ลุกขึ้นมาจากเตียง

แต่พวกเขาไม่สนใจเสียงความคิดเหล่านี้ และลงมือทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ทุกวัน สุดท้ายชีวิตเขาก็เปลี่ยนแปลงได้

.

เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการลงมือทำ !

เราต้องไม่ให้อารมณ์ ความรู้สึก หรือเสียงในหัวเป็นตัวกำหนดการกระทำของเรา

แต่เราต้องให้ “การกระทำของเรา เป็นตัวกำหนดความคิดในหัว”

เช่น นักกีฬาหลายคน ไม่อยากตื่นเช้ามาซ้อม

แต่พอพวกเขาได้ก้าวขาลงสนาม ยืดแขนขา และวอร์มร่างกาย

สุดท้ายเขาก็เข้าไปอยู่ใน “the zone” ได้

ซึ่งเป็นช่วงที่นักกีฬาฝึกซ้อมได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาใหม่ในหัว

เกิดเป็นความคิดใหม่ขึ้นมา

.

ดังนั้นจงลงมือทำอย่างต่อเนื่อง อย่าให้ความคิดลบเข้าครอบงำ

และอย่าคาดหวังที่จะสบาย เพราะทุกการลงมือทำ ล้วนพบเจออุปสรรคเสมอ

.

.

6) “ฉันไม่ย่อท้อ”

เมื่อลงมือทำแล้ว หลายครั้ง เราต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ

บางครั้งทางก็เหมือนจะยาวไกล กว่าเราจะไปถึงจุดหมายได้

ดังนั้นสิ่งที่เราต้องมีไปตลอดการเดินทางคือ “ความไม่ย่อท้อ”

จงอดทน อดทน และอดทน

.

.

7) “ฉันไม่คาดหวังอะไร และยอมรับทุกอย่าง”

ความล้มเหลวในชีวิตของเราหลายครั้งมากจาก “ความคาดหวังที่ไม่สมหวัง”

โปรเจกต์ที่ดูเหมือนจะปัง แต่ก็ฟังพินาศ

ชีวิตคู่กับคนรักที่เหมือนจะยืนยาว แต่ก็ถูกนอกใจเสียดื้อ ๆ

ถ้าเราลองลดความคาดหวังลงบ้าง

และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น

พร้อมมองหาวิธีการจัดการปัญหา

เราอาจรู้สึกโอเคมากขึ้นกับชีวิตตัวเอง

.

โดยสรุปแล้ว เราควรอยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้น

อย่าไปคาดหวังให้ชีวิตดำเนินไปในแบบที่เราอยาก

เราต้องทำตัวยืดหยุ่น และพร้อมปรับเปลี่ยนตลอดเวลา

เพราะชีวิตเหมือนการเต้นรำ มากกว่าการเดินไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง

.

.

รีวิวหลังอ่านสั้น ๆ

เป็นหนังสือที่มีความเป็นไลฟ์โค้ชจ๋ามาก

เนื้อหาเน้นการปลุกพลังในตัวให้ลงมือทำตามเป้าหมาย

เนื้อหาไม่มีอะไรใหม่

เป็นการรวมเคล็ดลับเดิม ๆ มาเล่าเป็นเรื่องราวให้สนุก

แต่คนเขียนก็เขียนโอเค ปลุกใจสไตล์ไลฟ์โค้ชได้ดีพอควร

ถ้าวันไหนใครอยากได้พลังบวกให้ลงมือทำตามแผนการ ก็หยิบขึ้นมาอ่านกันได้ครับ

.

.

………………………………………………………………………………………….

ผู้เขียน: Gary John Bishop

ผู้แปล: กิตติกานต์ อิศระ

จำนวนหน้า: 60 หน้า

สำนักพิมพ์: เชนจ์พลัส, สนพ.

เดือนปีที่พิมพ์: 1/2022

ชื่อเรื่องต้นฉบับ: Unfu*k Yourself: Get Out of Your Head and Into Your Life

………………………………………………………………………………………….

.

.

สั่งซื้อหนังสือได้ที่

.

#หลังอ่าน #หนังสือควรอ่านก่อนอายุ30 #Unf*ckYourself #เลิกคิดลบนะคนดี




299 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page