top of page
  • Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิว TRIZ คิดออกทุกอย่างด้วยตาราง 9 ช่อง



สรุป 15 ข้อคิด จากหนังสือ TRIZ คิดออกทุกอย่างด้วยตาราง 9 ช่อง

.

1. TRIZ (ทรีซ)= Theory of Innovation Problem Solving หรือทฤษฎีแก้ไขปัญหาเชิงนวัตกรรม

มีถิ่นกำเนิดมาจากภาษารัสเซีย ซึ่งถูกคิดค้นมาตั้งแต่ปี 1950 โดย เกนริค อัลทชูเลอร์ และบรรดาลูกศิษย์

โดยได้ศึกษาจุดร่วมของศาสตร์แขนงต่าง ๆ จากสิทธิบัตรกว่าสองแสนฉบับ

.

TRIZ ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือที่ใช้แก้ไขปัญหาในเชิงนวัตกรรม

และส่วนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของทฤษฎีนี้คือ ตารางเก้าช่อง

.

.

2. ตารางเก้าช่อง แบบ TRIZ คืออะไร

ตารางเก้าช่องแบบ TRIZ คือผัง 3 x 3

หรือแกนนอน 3 ช่อง แกนตั้งอีก 3 ช่อง

.

โดยแกนนอน = ลำดับเวลา

ไล่จากซ้าย – ขวา

ตั้งแต่ อดีต – สถานการณ์ในปัจจุบัน – ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

.

ส่วนแกนตั้ง = แกนระบบ ที่บอกความใหญ่ – เล็ก

ไล่จากบน – ล่าง

คือระบบใหญ่ที่สุด อาจเป็นสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่ใหญ่กว่าตัวเรา อยู่ด้านบน

บริษัทของเรา ตัวเรา ผลิตภัณฑ์หรือสิ่งอื่นที่เราสนใจ อยู่ตรงกลาง

และส่วนประกอบ หรือปัจจัยในสิ่งที่เราสนใจ อยู่ด้านล่าง

.

.

3. การทำตาราง 9 ช่องแบบ TRIZ มีประโยชน์อย่างไร

การทำตาราง 9 ช่องจะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของสถานการณ์ได้เข้าใจง่ายมากขึ้น

ทำให้เราสื่อสารกับคนอื่นได้ชัดเจน และตรงประเด็น

และยังทำให้เราจัดระเบียบความคิดของตัวเองได้ดีขึ้นด้วย

.

นอกจากนี้ การทำตารางแบบ TRIZ ยังช่วยให้เรานำเสนอผลงานได้อย่างเข้าใจง่าย และมีระเบียบแบบแผน

ซึ่งจริง ๆ แล้ว ตาราง 9 ช่อง สามารถถูกปรับแต่งได้หลายแบบ ขึ้นกับการประยุกต์ใช้งาน

.

.

4. ช้อดีของการทำตาราง 9 ช่องแบบ TRIZ เมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ

ไม่ว่าจะเป็น การเขียนเป็นข้อ ๆ การแบ่งส่วน หรือการคิดเชิงตรรกะ

คือ การที่เราทุกคนสามารถฝึกฝนเองได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

การคิดในมุม ความสัมพันธ์แบบรวมกลุ่ม x เส้นเวลา ทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถลองคิดหาไอเดีย และตั้งสมมติฐานของตัวเองได้

และช่วยให้เราถ่ายทอดความคิดของเราให้คู่สนทนาได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

.

.

5. หลักการสำคัญในการแบ่ง อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต

สิ่งสำคัญสำหรับแกนนอน – เส้นเวลา ในตาราง 9 ช่องแบบ TRIZ คือ การแยกให้ออกระหว่าง ข้อเท็จจริง (fact) กับการคาดคะเน (guess)

- อดีตเป็นข้อเท็จจริงที่เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้

- ปัจจุบันเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และเราสามารถลงมือทำได้

- อนาคตเป็นเรื่องสมมติที่เกิดจากการคาดคะเน และความตั้งใจในการทำปัจจุบันให้ดี

.

.

6. การใช้ตารางแนวนอนด้วย ประวัติ -> สถานะปัจจุบัน -> อนาคต

เช่น สินค้าตัวแรก สินค้าที่เคยนิยม ผู้ก่อตั้ง (ประวัติ) -> สินค้าหลัก ยอดขาย ผลกำไร (สถานะปัจจุบัน) -> ภารกิจ สิ่งที่บริษทกำลังพัฒนา แผนการลงทุนในอนาคต (อนาคต)

.

.

7. การใช้ตารางแนวนอนด้วย ของเดิม -> ของใหม่ -> การคาดคะเน

ในการประยุกต์ใช้ตารางแนวนอนแบบนี้มีพื้นฐานมาจากเทคนิคแบบ โฮเรนโซ (Hourensou) ซึ่งหมายถึงการบอกเล่าที่แยกระหว่างข้อเท็จจริง (ของเก่า และของใหม่) กับข้อสังเกต (การคาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้น)

เทคนิคนี้สามารถใช้โฆษณาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ได้

เช่น น้ำยาซักผ้าแบบเก่าขจัดคราบฝังแน่นไม่ออก ต้องใช้น้ำยาซักผ้าแบบใหม่ที่ช่วยขจัดคราบฝังแน่นจนผ้าขาวสะอาดเหมือนซื้อใหม่ !

.

หรืออาจใช้กับการคาดการณ์ทิศทางธุรกิจในอนาคต

เช่น ละครทีวีทั่วไป (ของเดิม) -> เกมส์โชว์ที่ทางบ้านมีส่วนร่วมได้ (ของใหม่) -> ละครสั้นที่ตัวละครเปลี่ยนได้ตามทิศทางของผู้ชม (การคาดคะเน)

.

.

8. การใช้ตารางแนวนอนด้วย ข้อเท็จจริง -> นามธรรม -> รูปธรรม

เป็นการใช้ข้อมูลในอดีตที่เป็นข้อเท็จจริงมาเป็นกรณีศึกษาหาลักษณะพิเศษที่ต่อยอดเป็นไอเดียธุรกิจใหม่ได้

เช่น ช็อกโกแลตแท่งที่หักได้ (ข้อเท็จจริง) -> ทำให้คนกิน/ใช้ หักสินค้าได้เอง (นามธรรม) -> ใบมีดคัตเตอร์ที่ทำร่องไว้ให้หักได้เอง (รูปธรรม)

.

.

9. การใช้ตารางแนวนอนด้วย ความสำเร็จ -> ของขวัญ -> เป้าหมาย

ใช้สำหรับตอนที่ต้องแนะนำตัวเองภายใน 30 วินาที

โดยอาจเล่าให้เป็นลำดับดังต่อไปนี้ เรื่องที่ทำมาในอดีต จนสำเร็จ (ความสำเร็จ) -> บทเรียนที่ได้ หรือสิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน (ของขวัญ) -> สิ่งที่อยากจะทำต่อไปในอนาคต เพื่อบรรลุเป้าหมายที่สูงกว่า (เป้าหมาย)

.

.

10. ตารางแกนตั้งมีวัตถุประสงค์และผลลัพธ์หลักดังต่อไปนี้

1) พิจารณาเรื่องแต่ละเรื่องอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่มองเห็นภาพรวมกว้าง ๆ จนไปถึงรายละเอียด

2) แยกปัจจัยที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ออกจากกัน

3) ปรับแต่งรายละเอียดของสิ่งที่คิดได้ดีขึ้น

.

.

11. วิธีในการคิดวิเคราะห์ตารางแกนตั้ง

1) มองหาระบบเป้าหมาย ข่องตรงกลาง จากสิ่งที่อยู่รอบตัว และระบุขอบเขตของระบบเป้าหมายให้ชัดเจน (ระบบเป้าหมาย)

2) มองหาขอบเขตที่ระบบเป้าหมายเป็นส่วนหนึ่ง (ระบบบน)

3) มองหาส่วนประกอบของระบบเป้าหมาย (ระบบล่าง)

.

.

12. การใช้ตารางแนวตั้งด้วย ระบบบน -> ระบบเป้าหมาย-> ระบบล่าง

กาแล็กซี่ (ระบบบน) -> ระบบสุริยะ (ระบบเป้าหมาย)-> โลกกับดวงจันทร์ (ระบบล่าง)

ระบบบริหารจัดการ (ระบบบน) -> ระบบบัญชี (ระบบเป้าหมาย)-> ระบบคำนวณค่าเดินทาง (ระบบล่าง)


.

.

13. การใช้ตารางแนวตั้งด้วย ความต้องการของลูกค้า -> ผลิตภัณฑ์/สินค้า -> องค์ประกอบและเทคโนโลยีของสินค้านั้น ๆ

เริ่มจากการระบุสินค้าที่จะพิจารณาก่อน เช่น พัดลม

ให้ความเย็น ช่วยคูลดาวน์หลังกลับจากข้างนอก (ความต้องการของลูกค้า) -> พัดลม (ผลิตภัณฑ์/สินค้า) -> มีขนาดกระทัดรัด พกพาได้ มีช่องเสียบ USB แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 6 ชั่วโมง (องค์ประกอบและเทคโนโลยีของสินค้านั้น ๆ)

.

.

14. การใช้ตารางแนวตั้งด้วย สภาพแวดล้อม -> บริษัท -> องค์ประกอบ

เอาไว้ใช้วิเคราะห์สภาพการณ์บริษัท ณ จุดเวลาหนึ่ง

คู่แข่ง ลุกค้า ผู้ถือหุ้น (สภาพแวดล้อม) -> คุณค่าที่บริษัทนำเสนอ (บริษัท) -> เทคโนโลยี ระบบการผลิต บริษัทในเครือ (องค์ประกอบ)

.

.

15. การใช้ตารางแนวตั้งด้วย Why -> What -> How

เป็นการนำเสนอไอเดียอย่างเป็นระบบ เหมาะกับการพูดคุยกันในลิฟต์

โดยเริ่มจาก ทำไม What ถึงเกิดผล (Why) -> สิ่งที่อยากนำเสนอ (What) -> องค์ประกอบที่เป็นรูปธรรม (How)

.

.

สุดท้ายแล้วเมื่อเราเอาทั้งแกนนอนและแกนตั้งมาเขียนรวมกันก็จะได้ออกมาเป็นตารางเก้าช่องแบบ TRIZ

.

รีวิวสั้น ๆ หลังอ่าน

แนะนำให้ลองซื้อเล่มจริงมาอ่าน หรือลองเปิด Youtube เพื่อให้เห็นรูปตาราง TRIZ จริง ๆ

เพราะอธิบายผ่านตัวหนังสือค่อนข้างยาก

แต่โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าตารางแบบ TRIZ ก็คือเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้เราเรียบเรียงความคิดให้เป็นระบบนั่นเอง

โดยมองแกนเวลา – ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น กับแกนระบบจากเล็กไปใหญ่

โดยเราสามารถดีไซน์ให้ตาราง 9 ช่องนี้ เป็นหัวข้ออื่น ๆ ก็ยังทำได้

.

สุดท้ายมองว่าตาราง 9 ช่องแบบ TRIZ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับแทบทุกเรื่อง

ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราล้วน ๆ

แต่ตอนแรกคงต้องค่อย ๆ ฝึกจัดระเบียบความคิดให้เข้าที่เข้าทางก่อน

.

สำหรับตัวหนังสือ มองว่าเล่มนี้หนาเกินไป

เทียบกับเนื้อหาหลักที่หนังสือต้องการนำเสนอ

ส่วนตัวคิดว่า สามารถเปิดอ่านข้าม ๆ ได้ และเน้นทำความเข้าใจส่วนสำคัญของตาราง 9 ช่อง

และลองเปิดดูตัวอย่างให้เห็นภาพก็น่าจะเพียงพอแล้ว

.

.

พิกัดสั่งซื้อ: https://shope.ee/6Uo2f7r9iD

.

.

...............................................................................

ผู้เขียน: Takagi Yoshinori (ทาคางิ โยชิโนริ)

ผู้แปล: ธนัญ พลแสน

จำนวนหน้า: 426 หน้า

สำนักพิมพ์: อมรินทร์ How To, สนพ.

เดือนปีที่พิมพ์: 5/2022

...............................................................................

.

.

#หลังอ่าน #TRIZ #คิดออกทุกอย่างด้วยตาราง9ช่อง



789 views0 comments
Post: Blog2_Post
bottom of page