รีวิว Great Ted Talks : Creativity
- หลังอ่าน: รีวิวหนังสือ
- Aug 31, 2021
- 2 min read

รีวิว Great Ted Talks : Creativity
.
.
‘จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ด้วย Ted Talk’
.
ขอขอบคุณหนังสือจาก สำนักพิมพ์ Heartwork
.
เราน่าจะได้ยินเรื่องราวของ Ted Talk กันมาอย่างยาวนาน เป็นการเปิดเวทีให้คนพูดได้แชร์ไอเดียที่คิดว่าดีกับผู้เข้าฟัง คอนเซ็ปต์หลักของงานคือ ‘ideas worth spreading’
.
แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องเป็นคนฟังในห้องส่งเท่านั้น แต่พอพูดเสร็จแล้วมีการอับโหลดคลิปลงออนไลน์ ใครๆก็เข้าฟังได้
.
หลายๆครั้งกดเข้าไปฟังก็จะได้รับแรงบันดาลใจ หลายๆครั้งก็ทำให้ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ
.
จะว่าไปแล้ว หลายๆคนก็ได้แจ้งเกิดหนังสือที่ตัวเองจาก Ted Talk เช่น Angela Duckworth ผู้เขียนหนังสือ Grit หรือ Carol Dweck ผู้เขียนหนังสือ Mindset
.
แต่ปัญหาที่เราอาจเจอได้คือ พอกดเข้าไปเลือกวิดีโอฟัง ตัวเลือกมันมีเยอะเกินไปจนเลือกไม่ถูก
.
อะไรที่เยอะเกินไปก็ใช่ว่าจะส่งผลดีอย่างเดียว แต่ยังก่อให้เกิดผลเสียคือ พอไม่รู้จะฟังอะไร ก็เลยไม่ฟังมันเลย
.
หนังสือ Great Ted Talks: Creativity จึงเข้ามาทำหน้าที่เป็น ‘ผู้ช่วยแนะนำ’ Ted Talk ตอนที่น่าฟัง พร้อมคอนเซ็ปต์หลักคือแรงบันดาลใจที่ได้จากการฟัง Ted Talk
.
แน่นอนว่า 100 ตอนที่ถูกคัดเลือกมาใส่ไว้ในหนังสือเล่มนี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆของมหาสมุทร Ted Talk อันกว้างใหญ่ แต่นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มเข้ามาในมหาสมุทรดังกล่าว หรือคนที่กำลังตามหาแรงบันดาลใจ
.
หนังสือเล่มนี้รวม Ted Talk 100 ตอนที่ทรงฟลัง เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ และเจิดจรัสไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ
.
ใครกำลังมองหาไอเดีย หรือแรงบันดาลใจ เล่มนี้ตอบโจทย์แน่นอนครับ
.
สุดท้ายนี้ผมขอยกตัวอย่าง 15 ตอนของ Ted Talk ที่ชอบเป็นพิเศษมาฝากกันเป็นน้ำจิ้มนะครับ
.
1. รับฟังคนอายุน้อยกว่า
ไม่ใช่แค่คนแก่ที่สมารถสอนคนอายุน้อยกว่าได้
.
คนต่างวัยมักจะไม่เชื่อใจกันมากพอที่จะแลกเปลี่ยนภูมิปัญญาในเรื่องต่างๆ
จาก Ted Talk ตอน: ‘What Baby Boomers can learn from Millennials at work and vice versa’ โดย Chip Conley
.
2. ท้ายทายภูมิปัญญาเดิม
ไม่ชอบที่ต้องทำแบบนี้เหรอ เปลี่ยนมันซะสิ!
.
หลายๆภูมิปัญญาดั้งเดิมมีแต่ความดั้งเดิม แต่ไม่มีภูมิปัญญาอยู่ในนั้น
จาก Ted Talk ตอน: How I accidentally changed the way movies get made โดย Franklin Leonard
.
.
3. ลองใช้เครื่องมือผิดประเภท
หาวิธีทำงานจากเครื่องมือผิดประเภทอาจช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้
.
บ่อยครั้งมากที่ปัญหายุ่งยากนำมาซึ่งผลงานอันยอดเยี่ยมได้
จาก Ted Talk ตอน: How frustration can make us more creative โดย Tim Harford
.
4. ทำอย่างไรให้มีช่วงเวลา “อาฮ้า”
สร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยกระตุ้นไอเดียเจ๋งๆให้เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ
.
การลงมือทำซ้ำก็อาจช่วยให้เกิดโมเม้น “อาฮ้า” ได้ง่ายขึ้น
จาก Ted Talk ตอน: The search for "aha!" moments โดย Matt Goldman
.
5. อย่าวิจารณ์ จงล้อเลียน
การล้อเล่นสนุกๆ แต่สร้างขึ้นมาเป็นผลงานก็อาจนำมาซึ่งความคิดสร้างวรรค์อันยอดเยี่ยมได้
.
ศิลปินที่แทนที่จะวิจารณ์และระบายความผิดหวังลงโซเชียลมีเดีย มาใช้มันในการออกแบบงานศิลปะที่เหนือเมฆแทน
จาก Ted Talk ตอน: How I became 100 artists โดย Shea Hembrey
.
6. สลัดปุ่มสนูซทางอารมณ์ทิ้งไปซะ
เพื่อการพัฒนาไอเดียความคิดสร้างสรรค์ เราจะต้องแข็งขืนต่อธรรมชาติของความขี้เกียจหรือไม่อยากทำ
.
ปัญหาของเราคือการไม่ลงมือทำ จำไว้ว่า เราต้อง ‘Just Do It’ เพราะไม่มีใครมาทำแทนเราได้แน่นอน
จาก Ted Talk ตอน: How to stop screwing yourself over โดย Mel Robbins
.
7.จงเบื่อ
วางโทรศัพท์ลงซะ แล้วดูความคิดสร้างสรรค์ที่ถาโถมเข้ามา
.
หยุดพักแล้วเบื่อให้มากๆเข้าไว้ การไม่ทำอะไรเลยอาจนำมาซึ่งความคิดสร้างสรรค์ก็เป็นได้
จาก Ted Talk ตอน: How boredom can lead to your most brilliant ideas โดย Manoush Zomorodi
.
8. จงปิดไฟ
ในความมืด จินตาการของเราจะส่องสว่าง
.
ถ้าในห้องที่สว่างเราอาจมีแนวโน้มที่จะหาเหตุผลมาอธิบานสิง่ต่างๆด้วยตรรกะ แต่ในความมืดมิดเราอาจได้ใช้จินตนาการอย่างเต็มที่
จาก Ted Talk ตอน: How darkness influences imagination โดย Holley Moyes
.
9. สร้างสมดุลระหว่างใช้แรงบันดาลใจกับลอกเลียนแบบ
ไม่มีไอเดียไหนที่ original โดยถ่องแท้ แต่เราก็ต้องบาลานซ์สมดุลไว้เช่นกัน
.
อย่ากลัวที่จะหยิบยืมแรงบันดาลใจของคนอื่น แต่ก็จงสร้างแรงบันดาลใจในแบบตัวเองเช่นกัน
จาก Ted Talk ตอน: How sampling transformed music โดย Mark Ronson
.
10. สร้างมุมมองใหม่ด้วยเวลาเพียง 10 นาที
ใช้การเจริญสติเพียงไม่กี่นาทีเพื่อปลุกชีพสมอง
.
เป็นการถอยออกจากสิ่งรบกวนทั้งหลาย แล้วทบทวนสิ่งที่เราทำ ทิ้งอารมณ์ทั้งหมด และใช้จิตอันผ่อนคลายเพ่งพินิจ
จาก Ted Talk ตอน: All it takes is 10 mindful minutes โดย Andy Puddicombe:
.
11. จงเรียนรู้ที่จะพูดเพื่อตัวเอง
ถ้ามีคนสนับสนุนสิ่งที่เราต้องการ เราก็มีแนวโน้มที่จะยอมรับสิ่งที่เราต้องการได้มากขึ้น
.
เป็นการลองเอาทัศนคติของคนอื่นมาใส่ในตัวเรา เพื่อสนับสนุนสิ่งที่เราต้องการ และทำให้เรามั่นใจมากขึ้น
จาก Ted Talk ตอน: How to speak up for yourself โดย Adam Galinsky
.
12. วิธีรับมือกับทางตัน
การเตรียมพร้อมที่จะยอมรับว่าตัวเองผิดเป็นจุดแข็งไม่ใช่จุดอ่อน
.
สำหรับคนที่ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิด เราต้องลองก้าวออกจากจุดนั้นและลองมองโลกให้กว้างขึ้นบ้าง การยอมรับว่าตัวเองก็ผิดได้ยังช่วยให้ความรู้สึกเป็นอิสระสุดๆจากความคาดหวังว่าตัวเองต้องถูกเสมอ
จาก Ted Talk ตอน: On being wrong โดย Kathryn Schulz
.
13. เลิกตำหนิตัวเองเสียที
จงจำไว้ว่าการคิดสร้างสรรค์คือการได้ลองเอื้อมมือออกไป ไม่ใช่การไปให้ถึง
.
เลิกตำหนิงานสร้างสรรค์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่จงโอบรับความพยายามที่จะอุดช่องระหว่างที่เรายืนอยู่กับช่องทีเราต้องการไป
จาก Ted Talk ตอน: Embrace the near win โดย Sarah Lewis
.
14. ออกจากที่ทำงานเพื่อจะได้ทำงานได้มากขึ้น
ออฟฟิศเป็นแนวคิดที่ล้าสมัย ตอนนี้ถึงยุคที่ทำงานที่ไหนก็ได้แล้ว
.
ส่วนใหญ่แล้วเวลาเราปั่นงาให้เสร็จ เรามักต้องหาพื้นที่พิเศษของเรา ที่หลายๆครั้งไม่ใช่ออฟฟิศอันน่าเบื่อ
จาก Ted Talk ตอน: Why work doesn't happen at work โดย Jason Fried
.
15. อย่าสนใจอายุ
เราประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม
.
ความคิดที่ว่าโอกาสในการประสบความสำเร็จจะลดลงไปตามอายุที่มีเป็นเรื่องไร้สาระ จงไล่ตามความฝันไปไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม
จาก Ted Talk ตอน: The real relationship between your age and your chance of success โดย Albert-László Barabási
.
.
.
...................................................................................
ผู้เขียน: Tom May
ผู้แปล: ตวงทอง สรประเสริฐ
จำนวนหน้า: 192 หน้า
สำนักพิมพ์: Heart Work, สนพ.
...................................................................................
.
.
สั่งซื้อหนังสือได้ที่
.
.
.
#หลังอ่าน #หนังสือควรอ่านก่อนอายุ30 #GreatTedTalks

Comments