top of page
Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิวหนังสือ เมื่อพรสวรรค์ไม่อาจค้ำจุนความฝันของคุณได้


รีวิวหนังสือ เมื่อพรสวรรค์ไม่อาจค้ำจุนความฝันของคุณได้

.

.

ผมลองหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน เพราะเห็นว่าเขียนโดยคนจีน ซึ่งปกติแล้วหนังสือแปลแนวพัฒนาตัวเองส่วนใหญ่ของไทยจะเป็นหนังสือแปลจากฝั่งตะวันตก และญี่ปุ่น ไม่ค่อยเห็นจีนเท่าไหร่ เท่าที่อ่านๆมานะครับ ผมเลยอยากอ่านดูว่าถ้าหนังสือพัฒนาตัวเองที่เขียนโดยคนจีนจะให้อารมณ์ออกมาแนวไหน

.

ต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนหนังสือรวมบทความสั้นๆ 2-3 หน้าของคุณเท่อลี่ตู๋สิงเตอเมา ที่เขียนข้อคิดให้กำลังใจคนวัยหนุ่มสาวไว้เยอะมาก ผมอ่านจบแล้วก็นึกถึงหนังสือ เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวดของอาจารย์คิมรันโดขึ้นมาทันที เพราะเนื้อหามีหลายส่วนที่เป็นข้อคิดดีๆฝากถึงน้องๆที่กำลังเรียนอยู่ในมหาลัย และกำลังเผชิญกับปัญหาช่วงการเปลี่ยนถ่ายจากเด็กไปผู้ใหญ่

.

ไอเดียของผู้เขียนอาจไม่ได้ตกผลึกออกมาเป็นแง่คิดสอนชีวิตเหมือนเพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด แต่สิ่งที่แตกต่างจากหนังสือเล่มดังกล่าว ในมุมมองของผมมีอยู่ 2 ข้อหลักๆนอกเหนือจากที่เป็นหนังสือแปลจากจีนคือ

.

1) หนังสือเล่มนี้เขียนโดยคนที่เพิ่งผ่านพ้นวัยรุ่นไปไม่นาน ผู้เขียนอยู่ในวัยกำลังสร้างชีวิต ตอนที่เขียนเล่มนี้ก็เห็นว่าอายุประมาณเกือบๆ 30 ทำงานด้าน PR มาได้ 7-8 ปี และเพิ่งมีลูกคนแรก เพิ่งเริ่มสร้างชีวิตครอบครัว

.

2) ผู้เขียนเป็นผู้หญิง ทำให้ได้ข้อคิดที่สะท้อนจากคนวัยหนุ่มสาวที่มองจากฝ่ายผู้หญิงบ้าง เพราะอย่างที่ทราบๆกันว่า ผู้ชายกับผู้หญิงอาจไม่ได้เจอปัญหาเดียวกันไปซะหมด ผู้หญิงอาจมีปัญหาหาหลายๆอย่างๆที่ผู้ชายหลายคนอาจไม่เคยพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ ที่ผู้หญิงดูจะใส่ใจและให้ความสำคัญมากกว่าผู้ชาย เรื่องค่านิยมในสังคมที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่าย จากเมื่อก่อนที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายทำงานที่บ้านเต็มตัว ไปสู่การออกมาทำงานเป็น working woman เต็มตัว

.

ผมรู้สึกได้ชัดเจนว่า ทั้งสองข้อนี้ ถูกสะท้อนผ่านความคิดของผู้เขียน โดนแทรกอยู่ในบทต่างๆ บทละนิด บทละหน่อย ซึ่งทำให้หนังสือออกมากลมกล่อมและลงตัว

.

เนื้อหาในหนังสือจะมีหลากหลายตั้งแต่ แง่คิดการทำงาน การใช้ชีวิต ความสัมพันธ์ การแต่งงาน การใช้เวลากับพ่อแม่ การแบ่งเวลาไปทำงานอดิเรก และข้อความชวนคิดพร้อมให้กำลังใจอีกเยอะมาก ต้องยอมรับว่าผู้เขียนมี case study เยอะมาก มีเรื่องราวของคนวัยหนุ่สาวมาเล่าให้ฟังอย่างหลากหลาย และล้วนเป็นเรื่องที่น่าสนใจทั้งนั้น

.

หนังสือสั้นครับ อ่านประมาณชั่วโมงนิดๆก็จบแล้ว แต่นับว่าได้ข้อคิดดีๆเยอะอยู่ ถ้าใครสนใจอยากรู้ความคิดของ คนวัยหนุ่มสาวชาวจีน อายุประมาณ 30 โดยมองชีวิตจากมุมมองของฝ่ายหญิง ต้องลองหาอ่านกันดูครับ

.

.


ผมขอรวม 5 ข้อที่อ่านแล้ว ชอบมากที่สุดในเล่มมาฝากกันเช่นเคยนะครับ

.

.


1) ทำอย่างจริงจังสัก 3 เดือนถึงจะเห็นผล

.

.

ผู้เขียนอธิบายไว้อย่างชัดเจนว่า หลายๆคนชอบมาบ่นให้ฟังว่า ออกแรงพยายามไปแล้วตั้งหลายครั้ง แต่ยังไม่เห็นผลสำเร็จสักที ผู้เขียนจึงบอกว่า ถ้าจะทำเรื่องอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น การฝึกภาษาใหม่ การลดน้ำหนัก การงดสูบบุหรี่ การออกกำลังกาย ถ้าทำแค่ 3 วันก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเลย อย่างน้อยๆเราต้องทำต่อเนื่อง 3 เดือน เป็นอย่างต่ำ สิ่งต่างๆถึงจะเริ่มแสดงผลออกมา

.

แต่ถ้าอยากให้เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนจริงๆ เราอาจต้องทำต่อเนื่องถึง 1 ปี ทุกๆเรื่องในชีวิตเราล้วนต้องใช้เวลา ถึงจะเห็นผลลัพธ์ดีๆ

.

.



2) เรามักมองเห็นแต่ผลลัพธ์ความสำเร็จ แต่ไม่เคยเห็นว่ากว่าคนๆหนึ่งจะสำเร็จได้ เขาต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมาขนาดไหน

.

.

เป็นอีกเรื่องที่ผมชอบมาก และคิดว่าคงสะท้อนความเป็นจริงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลมีเดียได้แพร่กระจายเรื่องราวความสำเร็จของคนวัยหนุ่มสาวมากมายให้พวกเราเห็นอยู่ทุกวัน

.

ความจริงแล้ว เราไม่มีทางรู้เลยว่า เบื้องหลังนั้นเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง เขาต้องเจอปัญหาน่าทุกข์ใจมากแค่ไหน เหมือนตัวอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนยกมาคือ ชายหนุ่มผู้เจริญเติบโตในหน้าที่การงานในบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง ใครๆต่างก็อิจฉาในความสำเร็จและเงินเดือนอันสูงลอบของชายคนนี้ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าชายคนดังกล่าวเคยเดินข้ามเขา และนั่งรถเมล์ 3 ต่อเพื่อไปทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง เคยอาศัยอยู่ในห้องพักเล็กๆใต้ดินในเมืองใหญ่ หรือเคยนอนวันละ 3-4 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อใช้เวลาหลังเลิกงานในการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาตัวเอง

.

คนเรามักจะเห็นแต่ภาพตอนที่เขาสำเร็จแล้ว ทั้งๆที่เบื้องหลังนั้นมีเรื่องราวอีกมากที่เราไม่รู้

.

.



3) เรื่องเล็กๆในชีวิตที่ไม่มีอะไรใหญ่โต มารวมตัวกันก็จะกลายเป็นชีวิตของคนๆหนึ่ง และอาจเป็นตัวบ่งบอกได้ว่าทำไมคนๆนั้นจึงประสบความสำเร็จ

.

.

แน่นอนว่าชีวิตคนเราอาจไม่ได้มีเรื่องราวที่น่าสนใจเหมือนในภาพยนต์หรือในละคร ที่มักจะมีปมเด่นและเรื่องราวที่นำไปสู่การแก้ปมดังกล่าว แต่ว่าชีวิตคนเรามักจะประกอบไปด้วยเรื่องราวสุดธรรมดาต่างๆมากมายในหนึ่งวัน อาจเป็นเรื่องการเดินทางไปทำงาน การพบเจอเพื่อนฝูง การกินข้าวเย็นกับครอบครัว การออกกำลังกาย การทำงานอดิเรก

.

คิดๆดูแล้วก็อาจรู้สึกว่าชีวิตของทุกคนเหมือนๆกันไปหมด แต่สิ่งที่ทำให้มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ กลับมาจากข้อแตกต่างเล็กๆที่คนเหล่านี้ทำในชีวิตคนเหล่านี้ เช่น คนที่หลังจากหลับมาทำงานมานั่งอ่านหนังสือวันละ 1 ชั่วโมงทุกวัน คนที่แทนที่จะเล่นมือถือ ก็เอาเวลาไปใช้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษวันละ 1 ชั่วโมง หรือคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำทุกเช้า

.

แม้มองผิวเผินชีวิตคนเราก็คงเหมือนๆกัน แต่สิ่งต่างๆเหล่านี้พอเอามารวมกันก็ทำให้คนๆหนึ่ง กลายเป็นคนที่มีวินัย ในขณะที่อีกคนเหมือนใช้ชีวิตไปวันๆเฉยๆ และความมีวินัย หรือการตั้งเงื่อนไขเล็กๆน้อยในชีวิตนี่เองที่จะนำชีวิตของคนๆนั้นไปสู่ความสำเร็จ

.

.


4) นอกจากพรสวรรค์แล้ว จิตใจที่ฝักใฝ่จะเรียนรู้และความอดทนก็ส่งผลต่อการเรียนรู้และการได้มาซึ่งทักษะต่างๆเช่นกัน

.

.

แน่นอนว่าพรวรรค์อาจสร้างความได้เปรียบ ในการได้มาซึ่งทักษะอย่างรวดเร็ว และอาจฟังดูไม่ยุติธรรมอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีพรสวรรค์ในเรื่องที่อยากทำน้อย

.

แต่ผู้เขียนและตัวผมเองรู้สึกได้ชัดเจนว่า สิ่งที่ยุติธรรรมที่สุดก็คือ จิตใจที่ใฝ่เรียนรู้และการมีความอดทน เพราะแต่ละคนสามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ด้วยตนเอง และสามารถนำมันมาสร้างความได้เปรียบในการสร้างทักษะในระยะยาวได้

.

พรสวรรค์จึงเป็นเหมือนตัวที่ทำให้เราออกสตาร์ทได้เร็ว ออกวิ่งได้ก่อนคนอื่นๆ แต่ความมุ่งมั่นและอดทนจะทำให้เราวิ่งไปถึงเส้นชัยได้ในระยะยาว

.

.


5) อย่าลืมตระหนักอยู่เสมอว่า คนแก่ทุกคนล้วนเคยผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นเหมือนเรามาก่อน

.

.

ผู้เขียนนำข้อคิดที่ได้มาจากหนังเรื่อง 20 Once again ซึ่งในไทยก็มีการทำหนังออกมาชื่อว่า 20 ใหม่ยูเทิร์นวัยหัวใจรีเทิร์น ซึ่งนำแสดงโดย ใหม่ ดาวิกา เป็นหนึ่งในหนังไทยที่ผมรู้สึกว่าทำออกมาได้ดีมาก

.

ประเด็นใหญ่ประเด็นหนึ่งของหนังคือ พอแม่เราแก่ตัวลง ลูกๆหลายๆคนก็มีความคิดว่าอยากจะส่งไปอยู่ในบ้านพักคนชรา ซึ่งนั่นก็ทำให้คนแก่รู้สึกสะเทือนใจอยู่ใม่น้อย และจริงๆแล้วต้องนับว่าแม่หลายๆคนต้องยอมเสียสละชีวิตวัยสาวของตน ความฝันที่อยากจะใช้ชีวิตสนุกๆ เพื่อให้ได้เลี้ยงลูกชายมาจนเติบโตและมีชีวิตที่ดี

.

ในหนังฉากที่ผมยังจำได้คือ ตอนสุดท้ายที่คนเป็นแม่เลือกที่จะกลับมาใช้ชีวิตเป็นคนแก่อยู่กับลูกชายและหลานๆ ทั้งๆที่เลือกได้ว่าจะอยู่เป็นสาวไปตลอดกาล และออกไปใช้ชีวิตความฝันของตัวเอง ได้เป็นนักร้อง และได้ไปเจอกับหนุ่มในฝัน

.

การเลือกใช้คำพูด การเลือกการกระทำต่างๆของเราในฐานะลูกกับพ่อแม่ที่เป็นคนแก่ จึงไม่ควรลืมว่าพวกเขาก็เคยเป็นคนวัยหนุ่มสาว เคยมีความฝันแบบเดียวกับเรามาก่อน

.

.

.

.

………………………………………………………………………….

✍🏻ผู้เขียน: เท่อลี่ตู๋สิงเตอเมา

✍🏻ผู้แปล: ชูวัส เลี้ยงพันธุ์สกุล

🏠สำนักพิมพ์: Shortcut

📚แนวหนังสือ: พัฒนาตัวเอง, ให้กำลังใจ

…………………………………………………………………………..

.

.

📚สนใจสั่งซื้อหนังสือได้ที่

.

.

‪#‎หลังอ่าน ‪#‎รีวิวหนังสือ ‪#หนังสือ2020 #หนังสือ2563 #‎reviewหนังสือ #เมื่อพรสวรรค์ไม่อาจค้ำจุนความฝันของคุณได้ #เท่อลี่ตู๋สิงเตอเมา #ชูวัสเลี้ยงพันธุ์สกุล #สำนักพิมพ์Shortcut #หนังสือพัฒนาตัวเอง #หนังสือให้กำลังใจ

.

.

.



115 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page