รีวิวหนังสือ กฎ 3 ข้อของการผลิตโชคด้วยตัวคุณเอง
Hustle
.
.
ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ Amarin How-to สำหรับหนังสือดีๆอีกเล่มนะครับ
.
.
คำว่า Hustle ถ้าเอาคำที่ใช้ในหนังสือคือคำว่า ‘ช่วงชิงลงมือ’ ซึ่งถ้าเอาตามความเข้าใจของผมเองแล้ว มันก็คือการ ‘ลงมือทำแผนการต่างๆ’ ที่เราวางไว้เพื่อไปสู่เป้าหมาย
.
ซึ่งถ้าเอาตามชื่อภาษาไทยของหนังสือก็คือ ‘การผลิตโชคขึ้นมานั่นเอง’
.
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนว how-to ที่แนะนำวิธีการในการผลิตโชค หรือการช่วงชิงลงมือทำตามแผนการที่ตัวเองตั้งไว้ โดยหนังสือบอกว่า ส่วนประกอบสำคัญ 3 ประการในการผลิตโชคขึ้นมานั้นได้แก่ ‘หัวใจ’, ‘สมอง’ และ ‘พฤติกรรม’
.
.
ส่วนที่ 1 หัวใจ
.
ส่วนแรกการจะช่วงชิงลงมือทำอะไรสักอย่าง เราต้องมี ‘ความฝัน’ เป็นของตัวเองก่อน ที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคือที่เขาเขียนไว้ว่า ‘อย่าเช่าความฝันของคนอื่น’ ผู้คนมากมายที่แค่ดำเนินชีวิตในแต่ละวันเพื่อคนอื่น เพื่อความคาดหวังของสังคม ควรจะเปลี่ยนมาเลือกความฝันของตัวเอง มิฉะนั้นแล้วคนอื่นก็จะเป็นคนมาเลือกความฝันให้เราแทน
.
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับบทนี้คือ เรื่องสูตรความสำเร็จ ที่หนังสือเขียนไว้ว่า
- - - --ความสำเร็จ = การช่วงชิงลงมือ x โชค x ความสามารถเฉพาะตัว -- -- - --
.
อธิบายได้ว่าการช่วงชิงลงมือทำนั้นสำคัญ และการรู้ความสามารถเฉพาะตัวเราเองก็สำคัญเช่นกัน เรื่องนี้เหมือนเน้นย้ำไปที่การรู้จุดแข็งของตัวเอง และนำจุดแข็งของตัวเองออกมาใช้ ผมรู้สึกเหมือนได้กลับมาอ่าน strength finder อีกครั้ง เราควรใส่ใจพัฒนาจุดแข็ง และปล่อยผ่านจุดอ่อนบางอย่างทิ้งไป เพราะเราไม่มีรทรัพยากรมากพอที่จะทำได้ทุกอย่าง
.
หนังสือยังอธิบายถึงสิ่งที่ขัดขวางการช่วงชิงลงมือทำ อันได้แก่ ‘ความเสี่ยง’ ทีมักจะพ่วงมากับการเริ่มทำสิ่งต่างๆ และการไล่ลาหา ‘ความสมบูรณ์แบบ’ ก่อนที่จะช่วงชิงลงมือ ที่ผมชอบมากคือ เขาบอกว่าความเสี่ยงเป็นเหมือนอากาศรอบๆตัวเรา เราจำเป็นที่จะต้องสูดดมมันเข้าไป ใช้มันเข้าไป เพราะยิ่งเราเสี่ยงกับชีวิตตัวเองมากขึ้นเราก็ยิ่งมีความเสี่ยงในชีวิตที่ลดลง!
.
ส่วนในเรื่องของการไล่ล่าหาความสมบูรณ์แบบนั้น มันจะค่อยๆเกิดขึ้นเมื่อเราช่วงชิงลงมือ นั่นคือไม่มีแผนที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่ต้น มีแต่แผนที่ถูกขัดเกลาจนดีขึ้นเรื่อยๆ และมันก็เกิดหลังจากที่เราช่วงชิงลงมือไปแล้ว
.
.
.
.
ส่วนที่ 2 สมอง
เรื่องที่ผมชอบมากก็คือเรื่องการฝึกให้สมองทนพิษบาดแผลทีละน้อยๆ เหมือนกับการยกเหวดเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทุกครั้งที่เราไปยกเหวด แน่นอนว่ามันปวด มันเมื่อย มันล้า แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น ทนทานมากขึ้น และเมื่อต้องใช้กล้ามเนื้อเหล่านี้ก็จะใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรื่องนี้ไม่ต่างอะไรเลยกับสมองคน
.
เราควรจะยอมแบกรับความเสี่ยงน้อยๆในแต่ละวันเพื่อที่เมื่อวันที่เราเจอความเสี่ยงลูกใหญ๋นั้น เราจะได้จัดการมันอย่างอยู่หมัด ทั้งนี้หนังสือแนะนำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ ให้สมองของเราได้ฝึกทนพิษบาดแผลมากขึ้นในแต่ละวัน เช่น การฝึกใช้คำใหม่ๆ การเปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง การวิดพื้นหรือเล่นโยคะวันละ 5 นาที หรือการตื่นเช้าขึ้นเพื่อออกไปเดินเล่นก่อนไปทำงาน
.
.
มาถึงเรื่องของโชค ซึ่งเป็นชื่อหนังสือเล่มนี้กัน หนังสือก็แบ่งโชคออกเป็น 4 ประเภท ตั้งแต่ประเภทแรกที่เรียกว่า โชคส้มหล่น หรือโชคที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ได้รับอิทธิพลใดๆจากเราเลย
.
ส่วนประเภทที่ 2-4 นั้นเป็นโชคที่ล้วนเกิดจากการช่วงชิงลงมือทำ ประเภทที่สองคือ โชคจากากรช่วงชิงที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อเราลงมือทำอะไรสักอย่างและมันเกิดเป็นแรงเหวี่ยง
.
โชคตประเภทที่ 3 คือโชคแอบแฝงที่มักจะแฝงตัวมาในชีวิตประจำวันของเรา และจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราเตรียมพร้อมและเปิดรับการเข้ามาของมัน
.
ส่วนโชคประเภทสุดท้ายคือ โชคแบบพลิกผันที่เกิดขึ้นจากลักษณะ ‘ประหลาดแบบเฉพาะตัว’ ของเราแต่ละคน
.
จริงๆแล้วเรื่องการผลิตโชคนั้นหนังสือให้เคล็ดง่ายๆว่า ยิ่งเราช่วงชิงลงมือทำเยอะเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสสร้างโชคมากขึ้นเท่านั้น เหมือนตัวเลขทางสถิติการตีเบสบอลที่หนังสือนำมาอ้างอิง คนที่ตีแม่นน้อยกว่า แต่ตีจำนวนมากกว่าก็มีโอกาสในการตีลูกโดนมากกว่านั่นเอง
.
ในส่วนนี้หนังสือยังนำเสนอ กฎ 3 ข้อที่มองไม่เห็นของการช่วงชิงด้วย ซึ่งนั่นได้แก่
- การทำในสิ่งที่ชอบเพราะเราจะซึมซาบพลังงานและความกระตือรือร้นที่เอาไว้สร้างแรงเหวี่ยงได้
- การเชิดหน้าชูตา โอบรับความเสี่ยง พร้อมสร้างโชคให้ตัวเอง
- การปิดดีลให้ได้ หรือคือการเปลี่ยนโอกาสนั้นๆให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
.
.
.
ส่วนที่ 3 พฤติกรรม
.
ส่วนสุดท้ายสำหรับการช่วงชิง หนังสือแนะนำเทคนิคที่เรียกว่า POP ที่เอาไว้ใช้ในการผิดดีล ซึ่งหลังจากที่เราช่วงชิงลงมือทำจนได้รับโอกาสต่างๆแล้ว เราก็ต้องนำ POP (personal opportunity portfolio) ที่จัดเก็บและรวบรวมผลงานต่างๆของเราออกมาใช้เป็นเครื่องมือในการนำไปเป็นของแลกเปลี่ยนกับโอกาสที่เราต้องการเล่านั้น
.
ชิ้นส่วนทั้ง 4 ของเครื่องมือ POP ประกอบด้วย
1) Potential – ศักยภาพที่มี หรือหนังสืออธิบายว่า ตอนที่เราสมัครงาน ชิ้นส่วนศักยภาพคือสิ่งที่ ‘นายจ้างเห็นว่าเรามีพื้นที่ให้เติบโดตได้’
2) People - ผู้คน ความสัมพันธ์ เครือข่าย connection ต่างๆที่เรารู้จัก
3) Project - โครงการต่างๆที่เราทำ ตั้งแต่งานประจำ งานพิเศษ งานอดิเรก และโปรเจคอื่นๆมายมายที่เราเคยทำ
4) Proof – หลักฐานที่แสดงความน่าเชื่อถือ เช่น ถ้าเราจะบอกว่าเราสามารถเขียนเว็บได้ ก็ไม่ต้องใส่ skill coding ลงในเรซูเม่ แต่ให้โชว์ผลงานเว็บไซต์หน้าตาตะการตาไปให้คนที่สัมภาษณ์เราแทน
.
.
หนังสือยังอธิบายถึง เรื่องของ ‘กฏ 10 นาที’ ที่ว่าด้วยการจะช่วงชิงลงมือทำอะไร ให้เราลงมือทำไปก่อน 10 นาที เพราะถ้าผ่าน 10 นาทีแรกไปได้แล้ว เราก็จะทำสิ่งนั้นต่อไปอย่างไหลลื่น จนสำเร็จ เช่นการไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า จุดที่ยากที่สุดคือการลากตัวเองลงจากเตียงเพื่อไปวิ่ง แต่ถ้าเริ่มวิ่งไปได้ 10 นาทีแล้ว เราก็จะวิ่งไปได้ต่อเนื่องนั่นเอง เรื่องนี้เหมือนกับการลงมือทำโครงกสารทุกๆอย่างในชีวิตเรา
.
.
เรื่องสุดท้ายที่ผมชอบคือ เรื่องของการหาความหมายในสิ่งที่เราทำ เชื่อว่าเด๋ยวนี้เรื่องการตามหาความหมายเป็นเรื่องที่พูดกันมากในหนังสือแทบทุกเล่ม แต่เล่มนี้ก็มีมุมที่น่าสนใจคือ
.
1) เราต้อง balance ดีๆระหว่างการตามหาความหมาย และการตามหาเงินทอง การตามหาแต่สิ่งใดสิ่งหนึ่งอาจทำให้เราละเลยอีกสิ่งหนึ่งไป และชีวิตของเราก็อาจจะไม่ถูกเติมเต็ม
.
2) ความหมายที่เราตามหาเกิดจากประสบการณ์ในสิ่งที่เราช่วงชิงลงมือทำ เกิดจากผู้คนที่เราพบเจอ เกิดจากความซาบซึ้งในสิ่งต่างๆที่เราได้เป็นส่วนหนึ่ง การตามหาคำว่า ‘ทำไม’ ไม่มีทางเกิดจากการที่เรานั่งเทียน หรือรอให้รู้ขึ้นมาเองเฉยๆ
.
.
.
สุดท้ายนี้ผมชอบหนังสือเล่มนี้ในระดับนึงเลย เรียกว่ามีครบทั้ง วิธีการ how-to, ตัวอย่างเคสต่างๆ และข้อคิดดีๆเรื่องความหมาย แม้จะสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมบางอย่างของอเมริกันที่อาจไม่ได้เหมือนกับวัฒนธรรมไทยมากนัก แต่หลายๆอย่างผมคิดว่าเราเอามาประยุกต์ใช้ได้แน่นอนครับ
.
.
.
………………………………………………………………………….
✍🏻ผู้เขียน: Neil Patel, Patrick Vlaskovits, Jonas Koffler
✍🏻ผู้แปล: นุชนาฎ เนตรประเสริฐศรี
🏠สำนักพิมพ์: Amarin How-to
📚แนวหนังสือ : พัฒนาตัวเอง, จิตวิทยา
…………………………………………………………………………..
.
.
📚สั่งซื้อหนังสือได้ที่
.
.
#หลังอ่าน #รีวิวหนังสือ #หนังสือ2020 #หนังสือ2563 #reviewหนังสือ #กฎ3ข้อของการผลิตโชคด้วยตัวคุณเอง#Hustle #NeilPatel #PatrickVlaskovits #JonasKoffler #สำนักพิมพ์AmarinHow-to #AmarinHow-to #นุชนาฎเนตรประเสริฐศรี #หนังสือจิตวิทยา #หนังสือพัฒนาตัวเอง
Commenti