top of page
Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิวหนังสือ: Marketing 3.0

รีวิว Marketing 3.0 .

. …... ส่วนตัวผมได้รู้จักกับหนังสือเล่มนี้ผ่านวิชา Consumer Behavior ที่อาจารย์ได้นำแนวคิดการตลาด 3.0 ในหนังสือเล่มนี้มาบรรยายในห้องเรียน และทำให้ผมสนใจอยากศึกษาต่อเลยลองไปซื้อมาอ่านดู (ส่วนตัวเป็นคนสนใจวิชาการตลาดอยู่แล้ว) ก็พบว่ารายละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดการตลาด3.0นี้มีเยอะมาก แต่ล้วนสามารถทำความเข้าใจได้โดยไม่ยาก เพราะหนังสือมีการยกตัวอย่างประกอบอยู่ตลอด จึงถือว่าเป็นหนังสืออีกเล่มที่คุ้มค่าแก่การสละเวลามาอ่านอย่างมาก . .....Marketing 3.0 สุดยอดหนังสือการตลาดยุคใหม่ ที่เขียนโดยปรมาจารย์แห่งวงการการตลาดอย่าง Philip Kotler ที่พัฒนาแนวคิดและแนวปฏิบัติทางการตลาดแบบใหม่ที่เรียว่า การตลาด 3.0 หรือ การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยค่านิยม (Value-Driven Marketing) ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก การตลาด 1.0 (Product-centric Marketing หรือ การตลาดที่เน้นการขายสินค้า) และ การตลาด 2.0(Consumer-oriented Marketing หรือ การตลาดที่เน้นสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า) โดยในตัวหนังสือนั้นได้แบ่ง หัวเรื่องออกเป็น 3 ตอนหลักๆ คือ แนวโน้ม,กลยุทธ์ และ การประยุกต์ใช้ . ....ในส่วนแรก แนวโน้มนั้นได้อธิบายแยกยอ่ยเป็น 2 บท บทแรกคือนิยามการตลาด 3.0 และที่มาที่ไปของแนวคิดนี้ ซึ่งในบทนี้สามารถสรุปได้ว่าการตลาด 3.0 มีที่มีจากรากฐานมาจากสาเหตุสำคัญ3 ปรการ คือ เป็นยุคแห่งการมีสว่นร่วม (พวกโซเชียลมีเดียทั้งหลาย), ยุคแห่งโลกาิวัตน์ขัดแย้ง (ในด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจต่างๆ), ยุคแห่งสังคมสร้างสรรค์และการตลาดจิตวิญญาณ ส่วนบทที่สองนั้นก็เป็นการนำโมเดล 3i ของการตลาด3.0 มานำเสนอ โดยที่มาของโมเดลนี้ก็คือการพยายามเข้าถึงจิตวิญญาน (Spirit) ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยใน 3i ก็จะมี Brand Identity, Brand Integrity และ Brand Image ที่นำมาทำงานประสานกัน นอกจากนี้ยังการอธิบาย การเผยแพร่แนวคิดขององคืกร ผ่าน พันธกิจ,วิสัยทัศน์ และ ค่านิยม . ... ส่วนที่ 2 ของหนังสือ เป็นการอธิบายถึงการนำแนวคิดและโมเดลในบทที่ 1 มาปรับเป็นกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับผู้เกี่ยวข้องกับองค์กร หรือบริษัททั้งหลายทั้งปวง ก็คือทำการตลาดกับทุกคนรอบด้าน ผู้บริโภคหรือลูกค้าขององค์กร, พนักงานภายในบริษัท, คู่ค้าทางช่องทางจัดจำหน่าย (พวก Suppliers,Dealer) รวมไปถึงผู้ถือหุ้น โดยในแต่ละด้านก็จะมีกลยุทธ์ที่ใช้แตกต่างกันไป เช่นกับผู้บริโภค องค์กรก็ควรคิดและถ่ายทอดพันธกิจที่ดี มีเรื่องราว และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคว่าองค์กรทำได้จริงตามพันะกิจที่โม้ไว้ , หรือในส่วนพนักงานภายในบริษัท องค์กรก็ควรปลูกฝังค่านิยมร่วมขององค์กร และสร้างพฤติกรรมร่วมที่ดีขึ้นมา โดยในแต่ละด้านนั้นหนังสือยกตัวอย่าง องค์กรหรือบริษัทที่ได้นำกลยุทธ์มาใช้จริงๆให้เห็นกันชัดๆ เข้าใจได้อย่างดี . .. ส่วนสุดท้ายของหนังสือ เป็นการทำการตลาดที่นอกเหนือไปจากการหากำไรให้องค์กร คือเป็นการทำการตลาดเพื่อหวังพัฒนาโลกใบนี้โดยแท้จริงตามวัตถุประสงค์ของนิยามการตลาด 3.0 "ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น" โดยในหนังสือได้กล่าวเป็นประเด็นหลักไว้ 3 ประเด็นคือ สร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม, การทำการตลาดเพื่อคนจน เปลี่ยนสังคมที่มีลักษณะเป็นพีระมิดให้กลายเป็นเพชร ด้วยการเพืิ่มโอกาสการเป็นผู้ประกอบการให้คนจน และ การทำการตลาดสีเขียว หรือ สร้างบทบาทอย่างใดอย่างหนึ่งที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้หบทสุดท้ายของหนังสือยังเป็นการสรุปหลักการ 10 ประการของการตลาด 3.0 ตบท้ายขายของให้เลิศอีกด้วย . . ถือว่าเป็นหนังสือแนววิชาการจ๋ามากอีกเล่มหนึ่ง ที่เขียนได้ครอบคลุมเรื่องราวการตลาดแทบทุกด้าน พร้อมการยกตัวอย่างประกอบตลอดเล่ม (มีเนื้อหาที่เป็นการยกตัวอย่างมากกว่าการบรรยายเฉยๆซะอีก) และ ที่เด็ดสุดคือมีบทสรุปท้ายเล่มสำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านเยอะ ส่วนตัวผมว่าหนังสือละเอียดมาก ออกแนวเกิดความขี้เกียจขึ้นมาบ้างเหมือนกันในบางรายละเอียด แต่พออ่านละพอนั่งสรุปดูก็คิดว่าได้อะไรเยอะเหมือนกัน . . . . เหมาะกับ : - ผู้ที่มีหน้าที่การงานที่เกี่ยวข้องกับการตลาด หรือแนวคิดทางการตลาด - ผู้ที่สนใจในศาสตร์การตลาดแบบเจาะลึกและครอบคลุมหลายๆด้าน - ผู้สนใจแนวคิดและแนวปฏิบัติใหม่ๆทางการตลาด . ผู้เขียน : Philip Kotler, Hermawan Kartajaya และ Iwan Setiawan สำนักพิมพ์ : Nation Books ราคาหลังปก : 250.- แนวหนังสือ : การตลาด #รีวิวหนังสือ #reviewหนังสือ #การตลาด3.0 #การตลาด #แนวคิดทางการตลาด #philipkotler #หนังสือการตลาด

82 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page