.
.
หนังสือชื่อดังอีกเล่มจากผู้เขียนคุณคัตสึยุกิ อิเกโมโตะ ที่นำเทคนิคการพักผ่อนแบบได้ประสิทธิภาพมาแชร์ให้ฟังผ่าน 34 บทเรียน ที่ย่อยง่าย แต่ใช้ได้จริง
.
ยอมรับว่าตอนแรกที่ผมได้ฟัง podcast รีวิวหนังสือ 34 วิธีพักผ่อนของคน Productive ของคุณเบสท์ ลงทุนศาสตร์ ก็ค่อนข้างรู้สึกแปลกใจที่ว่าหนังสือไม่ได้เน้นหลักการอะไรมากมาย แต่เป็นการแชร์เทคนิคส่วนตัวของผู้เขียนว่าเขาทำกิจกรรมอะไรบ้างในวันหยุด
.
.
พอมาอ่านจริงๆก็เห็นด้วยกับคุณเบสท์พอสมควรเลย แต่ก็รู้สึกได้ว่าอาจเป็นสไตล์ของหนังสือแปลญี่ปุ่นหลายๆเล่ม ที่ต่างจากหนังสือแปลจากชาติตะวันตกที่เน้นผลการวิจัยและหลักการ หนังสือญี่ปุ่นจะเน้นไปที่การแชร์ประสบการณ์มากกว่า แต่ละบท แต่ละข้อคิดเลยอาจไม่ได้สอดคล้องไปทั้งหมด แต่ก็ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่เขาคิดว่าคนญี่ปุ่นมีแนวคิดต่อการทำงาน หรือการใช้ชีวิตอย่างไร
.
เล่มนี้ก็เช่นเดียวกัน 34 วิธีพักผ่อนของคน Productive เป็นเหมือนการเล่าไดอารี่ของผู้เขียนว่า วันหยุดเขาทำอะไรมาบ้าง ที่มันดูจะเป็นกิจกรรมที่ช่วยเขาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน มีตั้งแต่หมวดการสร้างนิสัย การปรับ mindset จนไปถึงการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพกาย และการท่องเที่ยว
.
.
โดยรวมผมคิดว่าบางข้อก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ของเราได้ แต่บางข้อก็อาจไม่ถูกจริตกับบางคน ถ้ารู้สึกไม่ตรงเสปค ก็ลองอ่านผ่านๆไปครับ แต่อันไหนยังไม่แน่ใจก็ต้องลองเอาไปใช้กับตัวเองดู ก
.
หนังสืออ่านง่าย อ่านรวดเดียวจบ เหมือนอ่านบันทึกไดอารี่ของใครคนหนึ่งนั่นแหละครับ บางครั้งจะมีเรื่องส่วนตัวของผู้เขียนปะปนอยู่เยอะ แต่ถ้าไม่อินก็อ่านแค่บทเรียนก็พอครับ
.
ผมขอเลือก 5 ข้อที่ผมชอบที่สุดจากการอ่านหนังสือเล่มนี้มาฝากเช่นเคยนะครับ
.
1) ยิ่งรู้ว่ามีเวลาจำกัด ก็ยิ่งต้องลงมือทำอย่างเต็มที่
.
.
ในหลาๆครั้ง ถ้าเรารู้สึกว่ายังมีเวลาเหลืออีกมาก เราก็คงจะไม่ได้ลงมือทำอะไรสักที แต่ถ้าเรารู้สึกว่าเราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว เราก็คงจะต้องจัดตารางเวลาของเราอย่างพิถีพิถัน และพยายามให้ทุกช่วงเวลาของเราเกิดประสิทธิภาพ
.
เราจึงควรตระหนักอยู่เสมอว่า เราไม่ได้มีเวลาอยู่ตลอดไป คนทุกคนมีเวลาที่จำกัด และยิ่งช่วงที่ทำงานได้อย่างเต็มที่นั้นยิ่งมีจำกัด ไม่ต่างกับกิจกรรมและงานอดิเรกหลายๆอย่างที่เรามีเวลาในการทำอย่างจำกัดในวันหยุดงานเท่านั้น
.
ถ้าเราไม่ได้ตระหนักว่าเรามีเวลาจำกัดในการทำงานอดิเรกเหล่านี้ เราก็คงจะปล่อยเวลาผ่านไป โดยไม่ได้ทำอะไรเลย และรู้ตัวอีกทีก็วนมาวันจันทร์ใหม่อีกรอบหนึ่งแล้ว และเราก็คงจะผัดวันประกันพุ่ง บอกไปว่าจะเริ่มทำงานอดิเรกชิ้นโปรดสัปดาห์หน้า
.
แต่ถ้าเราตระหนักได้ว่า เวลาของเรามีเพียงแค่สองวันต่อสัปดาห์เท่านั้นในการทำงานอดิเรกสุดโปรดของเราได้ เราก็อาจจะวางแผนในการใช้เวลาสองวันนี้อย่างเต็มที่
.
เรื่องนี้ยังประยุกต์ใช้ได้กับทั้งการทำงาน และการทำตามความฝัน งานไหนที่เราอยากทำ เราต้องตระหนักว่าเวลามีจำกัด ถ้าเรามีเวลาเหลือ มีเศษเวลาอย่าลืมจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพมาทำงานนั้น ส่วนเรื่องการทำตามความฝันนั้น อย่าลืมว่าเวลาทั้งหมดในชีวิตของคนเราก็มีอยู่เพียงแค่สองหมื่นกว่าวันเท่านั้นเอง
.
2) แต่ละวันของเราไม่ได้เริ่มต้นในวันรุ่งขึ้น แต่เริ่มต้นตั้งแต่ ในคืนวันก่อนหน้า
.
.
การวางแผนการใช้วันหยุดอย่างคุ้มค่า เป็นอีกเรื่องที่ผู้เขียนเน้นย้ำในหลายบทของหนังสือเล่มนี้
.
โดยเทคนิคหนึ่งที่ส่วนตัวผมชอบมาก คือการวางแผนว่าวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ที่จะถึงนี้จะทำอะไรบ้าง โดยอาจเริ่มคิดตอนคืนวันก่อนหน้า เพื่อให้ตอนเช้าวันเสาร์ที่เราตื่นขึ้นมาไม่สับสน งุนงงกับชีวิตว่าต้องทำอะไรบ้าง
.
นอกจากนี้การวางแผนที่ดียังช่วยให้เราใช้เวลาในวันหยุดได้คุ้มค่ามากขึ้น เพราะถ้าไม่วางแผนเลย เราก็อาจจะกลายเป็นคนเฉื่อย และสุดท้ายสิ่งที่คิดว่าอยากทำก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรสักอย่างก็เป็นได้
.
ก่อนนอนคืนวันก่อนหน้า การคิดไว้คร่าวๆ ว่าเราควรจะลงมือทำอะไรบ้าง จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้วันหยุดของเราอย่างคุ้มค่า
.
3) กอล์ฟสอนให้รู้จักรับผิดชอบตัวเอง
.
.
การเล่นกอล์ฟนั้น นอกจากทำให้เราสนุกและได้พักผ่อนแล้ว มันมีความพิเศษอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมากๆเป็นการส่วนตัว คือการรู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
.
เพราะแต่ละครั้งที่เราตีลูกกอล์ฟออกไป ก็จะเป็นตัวเราเองที่ต้องตามไปตีช๊อตถัดไป ตีแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งหมดรอบ
.
นั่นหมายความว่า เราต้องรู้จักวางแผนว่าจะตียังไงให้ลูกเข้าใกล้หลุมเรื่อยๆ และต้องรูจักรับผิดชอบว่า ถ้าเราตีพลาดไปแล้วในช๊อตที่แล้ว เราเองนี่แหละที่ต้องรับผิดชอบ และหาทางตีให้ถดีขึ้นในช๊อตถัดมา
.
นี่คือการรับผิดตัวเอง ในการทำงานเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมาก คือถ้าเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมา เราจะมัวแต่โทษลูกหน้า โทษหัวหน้า หรือโทษเพื่อนร่วมงานไม่ได้ แต่เราควรจะรับผิดว่าเราเป็นคนตัดสินใจเอง เราต้องยอมรับผลการกระทำของเรา
.
4) สงบนิ่ง และเคลื่อนไหวให้ถูกจังหวะ
.
.
การเล่นกีฬาในวันหยุด ยังช่วยให้เราได้ฝึกทักษะการเลือกที่จะสงบนิ่งและเคลื่อนไหวให้เป็นจังหวะ
.
ทักษะนี้สามารถนำไปใช้ได้กับการทำธุรกิจเช่นกัน เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา เราจะได้รู้ว่าตอนไหนที่เราควรจะหยุดนิ่ง และตอนไหนที่เราควรจะเริ่มเคลื่อนไหว
.
เพราะในบ้างครั้ง ถ้าปัญหาเพิ่งเกิดขึ้นมา เราควรค่อยๆใจเย็นลง แล้วคิดไตร่ตรองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้ถี่ถ้วนก่อน อะไรคือสาเหตุจริงๆของปัญหา อะไรคือข้อบกพร่อง อะไรคือวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ก่อนจะตัดสินใจลงมือแก้
.
มิฉะนั้นแล้ว การบุ่มบ่ามจะแก้ปัญหาอย่างเดียวอาจเป็นเหมือนการเติมน้ำมันลงบนกองไฟ และทำหัปัญหายิ่งใหญ่โตขึ้นไปอีก
.
5) ขอบคุณโชคชะตา และความผูกพัน
.
.
ข้อที่ผมอ่านแล้วรู้สึกแปลกใจเมื่อเจอครั้งแรก คือการเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของผู้เขียน
.
ผู้เขียนเล่าว่าจริงๆแล้วเกิดในต่างจังหวัด แต่ก็เติบโตและได้งานในกรุงโตเกียว จึงใช้เวลาในกรุงโตเกียวซะเป็นส่วนใหญ่ การได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของตัวเองจึงนับเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆสำหรับเขา และผมเชื่อว่าผู้อ่านหลายๆคนก็คงเป็นเหมือนกัน
.
การได้เดินทางไปในที่ที่เราอาศัยในวัยเด็ก ที่ที่เราเริ่มตั้งเป้าหมาย เริ่มมีความฝัน และเริ่มออกเดินทาง ทำให้เราได้คิดทบทวนว่า ตอนนี้เราเดินทางมาไกลแค่ไหนแล้ว ความรู้สึกยังอบอวลอยู่ทุกครั้ง
.
ส่วนตัวผมนึกถึงตอนที่กลับไปมหาลัยที่เรียนตอนป.ตรี ในทุกครั้งที่ก้าวเท้าเข้าไปในสถานที่ที่คุ้นเคย ผมก็มันจะนึกถึงความรู้สึกเก่าๆ ช่วงวัยที่มีความฝัน ช่วงวัยที่ตั้งเป้าหมาย อยากทำนู่นนี่ อยากเป็นคนนู้นคนนี้ รู้สึกเหมือนว่าชีวิตเพิ่งได้เริ่มต้น
.
การกลับมายังที่ที่ตัวเองเคยยืน จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทบทวนชีวิตที่ผ่านมา ว่าเรากำลังทำอะไนอยู่ เรากำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางไหน เรายังคงอยู่ในเส้นทางที่เราเคยวาดฝันไว้รึเปล่า
.
นอกจากนี้แล้วผู้เขียนยังบอกอีกว่า การทบทวนตัวเองแบบนี้ยังทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณต่อโชคชะตาที่เกิดขึ้น และรู้สึกผูกพันกับคนรอบตัวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรามากขึ้นด้วย
.
.
.
.
………………………………………………………………………….
ผู้เขียน: Katsuyuki Ikemoto (คัตสึยุกิ อิเกโมโตะ)
ผู้แปล: ทินภาส พาหะนิชย์
สำนักพิมพ์: Welearn
แนวหนังสือ: จิตวิทยา, พัฒนาตัวเอง
…………………………………………………………………………..
.
.
สนใจสั่งซื้อหนังสือได้ที่
https://bit.ly/3kLvlWK
.
.
#หลังอ่าน #รีวิวหนังสือ #หนังสือ2020 #หนังสือ2563 #reviewหนังสือ #34วิธีพักผ่อนของคนProductive #คัตสึยุกิอิเกโมโตะ #ทินภาสพาหะนิชย์ #สำนักพิมพ์Welearn #Welearn #หนังสือจิตวิทยา #หนังสือพัฒนาตัวเอง
Comments