รีวิวหนังสือ สร้างคอนเน็กชั่นแกร่งด้วยจุดแข็งของมนุษย์อินโทรเวิร์ต
.
.
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของหนังสือเล่มนี้ก็คือ การที่สองสิ่งที่ดูขัดแย้งกัน อย่างกันเป็นมนุษย์ Introvert กับการสร้างคอนเนคชั่นถูกนำมาเชื่อมเข้าด้วยกัน และต้องบอกว่า หนังสือเล่มนี้ทำตัวเป็นสะพานเชื่อมได้ดีมาก
.
หลายคนคงเคยสงสัยว่า ถ้าไม่ชอบเข้าหาผู้คน ชอบอยู่คนเดียว เกลียดการสร้างความสัมพันธ์ จะหาเพื่อน หาคอนเนคชั่นได้อย่างไร
.
ผู้เขียนอย่างนักอ่านใจ (mentalist Daigo) ก็เป็นหนึ่งในคนที่โคตรจะ Introvert กับการชอบขลุกตัวอยู่กับหนังสือ และแมว เขาจึงน่าจะเข้าใจสภาวะที่หลายคนเผชิญดี แต่สิ่งหนึ่งที่เขาค้นพบก็คือ เขาหนีการให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเนคชั่นไม่พ้น เพราะยังไงก็ตามชีวิตคนเราต้องติดต่อกับคนอื่นอยู่ดี
.
ด้วยความใครรู้ใคร่สงสัยของผู้เขียน เขาจึงอ่านงานวิจัยเชิงวิชาการหลากหลายงาน และเรียบเรียงออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้
.
.
โดยส่วนตัวหลังอ่านจบ ผมพบว่าเนื้อหาในหนังสือมีหลักการที่น่าสนใจอยู่ 3-4 ข้อ แต่อีกหลายๆส่วนเป็นเหมือนเทคนิคประกอบที่ส่งเสริมเนื้อหาหลัก
.
แต่ที่ชอบจริงๆของหนังสือเล่มนี้คือ ปกติไม่ค่อยได้เห็นหนังสือญี่ปุ่นที่อ้างอิงงานวิจัยเชิงวิชาการมากมายขนาดนี้ เพราะส่วนใหญ่จะเน้นเขียนเองจากประสบการณ์
.
เล่มนี้ก็ยังคงสไตล์ความเป็นหนังสือญี่ปุ่นอยู่ คือสรุปเป็นใจความสั้นๆ ง่ายๆ ไม่เยิ่นเย้อ เน้นแต่ละหัวข้อเป็น 5 ข้อ 10 ข้อสั้นๆ แต่แทรกเรื่องงานวิจัยที่อ้างอิงมาส่งเสริมให้เนื้อหาดูมีน้ำหนักมากขึ้น
.
.
.
ตัวอย่างการนำเสนอข้อมูลงานวิจัยที่น่าสนใจก็เช่น
o แค่มีเพื่อนเกิน 3 คน ระดับความพึงพอใจในชีวิตก็เพิ่มมากขึ้นถึง 96%
o สายสัมพันธ์ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการทำงานได้มากถึง 700%
o เทียบกับคนที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว คนที่ใช้ชีวิตโดยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างมีอายุยืนมากขึ้น 15 ปี
.
นอกจากจะช่วยดึงดูดความสนใจผู้อ่านแล้ว ข้อมูลเหล่านี้ยังเป็นการย้ำถึงความสำคัญของการมีเพื่อน มีคอนเนคชั่นนั่นเอง
.
.
เรื่องที่ผมอยากจะแชร์จากหนังสือ มีหลักๆ 3 เรื่องคือ
.
1) ชีวิจะดีถ้ามี super connector
.
เรื่องนี้แทบจะเป็นหัวใจหลักของหนังสือเล่มนี้ เพราะมนุษย์ Introvert ไม่ได้อยากจะคบใครไปทั่ว แต่ต้องการคบคนที่จะเป็นกุญแจในการเปิดประตูบานอื่นๆ ไปหาคนอื่นๆ เหมือนเป็นการสร้างคอนเนคชั่นต่อยอดออกไปอีกระลอก
.
นอกจากนี้แล้ว ตามผลวิจัยคนเรามสามารถเชื่อมโยงกับผู้อื่นได้อย่างจำกัดเนื่องจากเวลาและพลังงานที่มีอยู่ โดยมีเพดานอยู่ที่ 150 คน การเฟ้นหาคนที่จะเป็น super connector จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
.
คนที่เป็น super connector จะรู้ว่าจะเข้าหาผู้คนยังไง วางตัวเก่ง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ ช่วยให้เรารู้จักคนอื่นๆต่อไปอีกหลายๆทอด
.
หนังสือแนะนำวิธีการหา super connector ไว้หลายวิธี ซึ่งน่าสนใจมาก โดยเฉพาะวิธีแผงผังสายสัมพันธ์ ซึ่งไว้เดี๋ยวผมจะมาเล่าต่อไปอีกทีนะครับ
.
.
2) เน้นสร้างเพื่อน 3 คน เพื่อเพิ่มความสุขให้กับชีวิต
.
งานวิจัยมากมายเห็นพ้องต้องกันว่า การมีเพื่อนช่วยให้มาตรวัดความสุขในด้านต่างๆดีขึ้นมาก เช่นมีเพื่อนที่ทำงานที่รู้ใจแล้ว คนเราจะพอใจกับเงินเดือนที่มีอยู่เพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า
.
หรือคนที่สร้างคอนเนคชั่นทั้งจากภายในและภายนอกบริษัทจะก้าวหน้าในหน้าที่การงานและมีรายได้มากขึ้นภายใน 4 ปี
.
.
หนังสือยังอธิบายถึง 5 เทคนิคในการสร้างเพื่อนที่น่าสนใจมาก เช่น การเปิดเผยตัวเอง การใช้ความคล้ายคลึงกันและการเป็นกลุ่มก้อน รวมถึงการทำงานและหัวเราะร่วมกัน
.
ซึ่งยังไงเดี๋ยวผมจะมาลงรายละเอียดกันอีกทีนะครับ
.
.
3) มองให้ออกว่าคนไหนไม่ควรยุ่ง และถอยห่างออกมา
.
แน่นอนว่า มีคนที่เลือกเข้าหาแล้ว ก็ต้องมีคนที่เลือกถอยห่างออกมา ตัวอย่างเช่นพวกคนที่ชอบสร้างแบรนด์ให้ตัวเองเยอะๆ แต่ความจริงแล้วคือพวกโอ้อวด มั่นใจในตัวเองเกินไป
.
พวกชอบสร้างความปั่นป่วน หรือพวกนักเลงคีย์บอร์ด (trolling) ในโลกออนไลน์ที่มาทำตัวป่วนคนนู้นคนนี้ในโลกจริง และพวกที่ชอบพูดจาแง่ลบกับคนอื่น
.
.
โดยรวมแล้ว หนังสือมีเทคนิคดีๆที่น่าสนใจเยอะมาก ซึ่งเดี่ยวยังไงผมจะมาแชร์อีกทีนะครับ
.
สุดท้ายนี้ ใครที่เป็นมนุษย์ Introvert เล่มนี้พลาดไม่ได้เลยครับ เพราะมีเทคนิคดีๆเขียนแชร์ไว้เยอะมาก เอามาใช้ต่อยอดได้แน่นอน
.
หนังสืออ่านง่ายสไตล์ญี่ปุ่น อ่านเพลินๆ ไม่นานก็จบแล้วครับ
.
.
.........................................................................................................................................
ผู้เขียน: Mentalist DaiGo
ผู้แปล: หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์ How To, สนพ.
แนวหนังสือ: พัฒนาตัวเอง
จำนวนหน้า: 204 หน้า
เดือนปีที่พิมพ์ : 5/2021
.........................................................................................................................................
.
.
สั่งซื้อหนังสือได้ที่:
.
Comments