รีวิว ควบคุมอารมณ์ได้ เป็นนายชีวิต

รีวิวหนังสือ ควบคุมอารมณ์ได้ เป็นนายชีวิต

Emotion Control

‘ถ้าเราควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เราก็ควบคุมชีวิตไม่ได้’

เพราะอารมณ์ ส่งผลถึงการกระทำ และการกระทำส่งผลต่อถึงผลลัพธ์ในการทำงาน และความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิตเราทุกๆคน การมีความฉลาดทางอารมณ์จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่แล้วก็ตาม

ความฉลาดทางอารมณ์ หมายถึง ‘ความสามารถในการบริหารจัดการอารมณ์ของตัวเอง’ รวมกับ ‘ความสามารถในการสร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง’

หนังสือเล่มนี้เขียนโดยอาจารย์ซ้ง อาจารย์ประจำคณะจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเชิงบวก ส่งตรงจากประเทศจีน นานๆทีจะเจอหนังสือแปลจากจีนซะทีนะครับ เรียกได้ว่าให้อารมณ์แปลกใหม่เหมือนกัน เพราะหนังสือเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์ตรงของอาจารย์ซ้ง ที่ดูเหมือนจะผ่านร้อนผ่านหนาวกับเรื่องอารมณ์มาพอสมควร

วิธีต่างๆที่หนังสือนำเสนอจึงดูจะเป็นเคล็ด (ไม่) ลับของตัวอาจารย์ซ้งเองที่เอาออกมาเผยแพร่ให้ผู้อ่านได้เรียนรู้กัน ดูแล้วเทคนิคการควบคุมอารมณ์ต่างๆที่อาจารย์ซ้งแนะนำดูจะมาจากประสบการณ์อาจารย์เองเป็นหลัก รวมๆเข้ากับหนังสือด้านจิตวิทยา ที่เรียกว่าอาจารย์อ่านมาเยอะมากจริงๆ มีเนื้อหาดีๆจากหนังสือเล่มอื่นแทรกอยู่ตลอดเล่ม สุดท้ายกลั่นกรองออกมาเป็น howto ง่ายๆ 3-4 ขั้นตอน ที่อ่านแล้วก็เอาไปประยุกต์ใช้ได้ในทันที

ขอเล่าประวัติย่อๆของอาจารย์ ที่จริงๆแล้วเรื่องราวเหล่านี้ก็โดนแทรกซึมเป็นเคสตัวอย่างอยู่ในเล่ม เป็นที่มาที่ไปของ howto แต่ละข้อ กล่าวคืออาจารย์ซ้งเป็นคนที่หลงใหลในจิตวิทยาเชิงบวกมาก จึงเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท และปริญญาเอกในคณะจิตวิทยา ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนประจำมหาวิทยาลัย และเขียนบทความด้านจิตวิทยาผ่านบล็อกมากกว่า 1 พันบทความ หรือเรียกง่ายๆว่าเขียนทุกวัน อาจารย์เป็นคนที่หลายครั้งเหมือนจะเป็นถังขยะทางอารมณ์เมื่อได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ คนก็เลยส่งคำถามมาถามอย่างไม่ขาดสาย แต่นั่นก็ทำให้อาจารย์มีตัวอย่างมากมายในการเล่าเทคนิคควบคุมอารมณ์และการบริหารอารมณ์ตัวเองให้เป็นคนอารมณ์ดี นอกจากนี้อาจารย์ยังเจอปัญหาเรื่องนอนไม่หลับเรื้อรังมาเป็นปี รวมไปถึงปัญหาการทำงานที่หนักเกินไป และใช้เวลาในการเดินทางไปกลับมากจนอาจารย์เกิดความเครียด อาจารย์เล่าว่าปัญหาเหล่านี้สุดท้ายแล้วแก้ได้ด้วยการจัดการอารมณ์ตัวเองทั้งนั้น โดยหลักพื้นฐานที่สุดคือการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่การรับรู้เชิงบวก มองโลกในทางบวก ซึ่งจะช่วยให้คนที่ทำได้กลายเป็นคนอารมณ์ดี

เนื้อหาในหนังสือจึงเป็นเรื่องราวของการบริหารจัดการอารมณ์ตัวเองให้เป็นบวก จัดการความเครียด จัดการความรู้สึกต่ำต้อย จัดการอารมณ์โกรธ บริหารความรู้สึกเศร้า ท้อแท้ และวิธีอื่นๆที่เหมือนการฝึกจิตใจให้มีภูมิต้านทานต่ออารมณ์เชิงลบ ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องมายังพฤติกรรมที่เราแสดงออก และแน่นอนว่าไปกระทบต่อหน้าที่การงานและความสัมพันธ์กับคนอื่นอย่างแน่นอน

ตัวอย่างของเนื้อหาที่ผมว่าน่าสนใจก็เช่น การเลิกแนวคิดสมบูรณ์นิยม, การหยุดใช้คำว่าแต่, การเผชิญหน้ากับความโดดเดี่ยว, การกล้าที่จะถูกเกลียด, การปฏิเสธคำขอที่ไม่มีเหตุผล, การรู้จักนำแนวคิดแบบเผด็จการมาใช้, วิธีจัดการกับความเครียด, เคล็ดลับการบริหารพลังงาน, การสร้างแรงจูงใจสำหรับทำงานที่น่าเบื่อ, 5 ขั้นตอนที่จะช่วยสลายความโกรธ, เทคนิคการทำสมาธิที่ช่วยให้มีชีวิตชีวามากขึ้น

สำหรับเนื้อหาเด่นๆ เดี๋ยวยังไงผมจะรวบรวมมาใส่ไว้ในอีกโพสต์นึงนะครับ

แต่โดยรวมแล้วหนังสืออ่านง่าย อ่านสนุก เหมือนเป็นการรวมบทความที่อาจารย์ซ้งเขียนไว้ในบล็อกออนไลน์ แล้วมาจัดหมวดหมู่ให้เข้ากับเรื่องการบริหารอารมณ์ ที่จริงๆแล้วมันต้องเปลี่ยนกันตั้งแต่แนวคิด การเลิกแนวคิด perfectionist (สมบูรณ์นิยม) การใส่แว่นตาของกรอบความคิดเชิงบวก การยอมรับการโดนเกลียด ไปจนถึงเทคนิตช่วยควบคุมอารมณ์ในสถานการณ์ที่ตัวเองโกรธจัด และเคล็ดลับในการจัดระเบียบความคิดเมื่อมีความต้องการลาออกจากงาน หรือรู้สึกงงงวยว่าชีวิตจะเดินต่อไปในทางไหนดี

สุดท้ายแล้วหนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแต่ให้ความเข้าใจเรื่องการใช้จิตวิทยาเชิงมาบริหารอารมณ์ตัวเองให้เป็นคนอารมณ์ดีเท่านั้น แต่ยังเน้นการลงมือปฏิบัติและการลงมือทำอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

ทั้งหมดในหนังสือเป็น howto ง่ายๆ ไม่เกิน5-6 ข้อที่เอามาปรับใช้ได้ทันที มีตัวอย่างจากประสบการณ์ของอาจารย์ที่ชัดเจน และข้อคิดของตัวอย่างแต่ละอันที่เห็นภาพชัดอยู่ ไม่มีทฤษฎีจิตวิทยายากๆ แม้อาจารย์จะใส่อ้างอิงจากหนังสือดังๆจำนวนมาก แต่โดยรวมแล้วหนังสืออ่านง่ายจริงครับ อ่านเพลินสุดๆ เล่มนี้จัดว่าแนะนำมากๆ

ส่วนเหตุผล 3 ข้อสั้นๆสำหรับคนที่ควรอ่านก่อนอายุ 30 มีดังนี้ครับ

1) การควบคุมและบริหารอารมณ์ตัวเองเป็นสิ่งจำเป็นที่คนในวัย 20 กว่าๆที่เริ่มทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Millennials และ GenZ จำนวนมากยังทำได้ไม่ดี ลองมาอ่านเรื่องนี้กันให้ตกผลึกและทำความเข้าใจกันดูอีกสักรอบนึงนะครับ ว่าเราควรบริหารอารมร์เชิงบวกยังไงให้ชีวิตงอกงาม

2) บางคนเข้าใจหลักพื้นฐานในการบริหาร แต่ไม่รู้จะเริ่มลงมือปฏิบัติยังไง เล่มนี้ให้คำแนะนำด้านการลงมือทำที่ดีมากและน่าจะได้ผลดีในระยะยาวด้วยครับ

3) เคสตัวอย่างมากมายช่วยให้เห็นภาพ และเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกันของการกระทำที่เกิดจากอารมณ์ที่ถูกควบคุมได้อย่างต่างกัน ตัวอย่างพวกนี้จะช่วยให้จำและไปประยุกต์ใช้ได้โดยตรงครับ