รีวิวหนังสือ Talented Genius
เผยรหัสลับ DNA คนเก่ง เปลี่ยนตนเองสู่ยอดมนุษย์ Hi-Po
.
.
ขอขอบคุณหนังสือดีๆอีกเล่มจากสำนักพิมพ์ Make a Wish นะครับ
.
Talented Genius เขียนโดยคุณนงลักษณ์ ธนรักษ์ อดีต CEO บริษัท Headhunter ข้ามชาติ โดยเนื้อหาจะเป็นเคล็ดลับของคนที่มีศักยภาพสูง ที่ปกติบรรดา Headhunter จะพยายามตามล่าเพื่อยื่นขอเสนอตำแหน่งงานดีๆให้
.
หนังสือ นิยามคนที่มีศักยภาพสูงว่า มนุษย์ Hi-Po ซึ่งย่อมาจากคำว่า High Potential หรืออีกคำที่หนังสือใช้สลับกันก็คือ Talented Genius ซึ่งแปลว่าคนเก่งอัจฉริยะและมากด้วยพรสวรรค์ กลุ่มคนเหล่านี้คือกลุ่มคนที่บริษัทชั้นนำมองหาเพื่อจะนำไปปั้นต่อเป็นผู้นำองค์กร (future leader) ต่อไปในอนาคต
.
หนังสือเล่มนี้นำเคล็ดลับของการพัฒนาตัวเองให้เป็นมนุษย์ Hi-Po มาเรียบเรียงเป็นบทย่อยๆ จบในตัว พร้อมตัวอย่างประกอบจากคนที่อดีตเคยเป็นมุนษย์ Hi-Po และปัจจุบันประสบความสำเร็จไปแล้วมากมาย ทั้งในต่างประเทศ และคนไทย!!
.
โดยส่วนตัว ผมอยากจะขอแบ่งเคล็ดลับต่างๆในหนังสือเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆก็คือ กลุ่มแรกประมาณสัก 60% ของหนังสือเป็นเคล็ดลับเชิงทัศนคติและลักษณะเฉพาะตัวที่มนุษย์ Hi-Po ต้องมี และกลุ่มหลังอีกประมาณ 40% เป็นเรื่องเทคนิคการสัมภาษณ์งาน การสร้าง Resume และทักษะที่ต้องมีในโลกยุคหลังโควิดนี้
.
เนื้อหาในช่วง 60% แรกก็จะเป็นเหมือนการรวบรวมกรอบแนวคิดและคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับคนในยุคปัจจุบัน ที่รวบรวมมาจากหนังสือชื่อดังเล่มต่างๆ ตัวอย่างเช่น เรื่องความทรหดอดทน (Grit) เรื่องการมี Growth Mindset เรื่องการมีล้มแล้วลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว (Resilience) รวมไปถึงเรื่องการใช้แบบทดสอบค้นหาจุดแข็งจากพรสวรรค์ที่มี
.
ผมเชื่อว่าเรื่องพวกนี้ เหล่าบรรดานักอ่านน่าจะเคยเห็นผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้ว เพราะหนังสือต้นฉบับที่เขียนเรื่องเหล่านี้ก็ดังมากซะจน มีการนำคอนเซปต์ไปใช้พูดในรายการต่างๆมากมาย รวมไปถึงถูกอ้างอิงมาใช้ในหนังสือเล่มอื่นๆอีกมาก การอ่านหนังสือเล่มนี้จึงเป็นเหมือนการทบทวนเรื่องพวกนี้อีกครั้งหนึ่ง อาจไม่ได้มีอะไรใหม่มาก แต่การรวมคุณสมบัติเด่นๆที่คนอยากพัฒนาตัวเองควรมีก็เป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของเรื่องพวกนี้ว่าเราไม่ควรจะหลงลืมมันไป
.
ส่วนเทคนิคการเขียน Resume การสัมภาษณ์งาน ผมว่าประมาณ 40% หลังของหนังสือคือดีจริง เพราะมาจากประสบการณ์ของคนทำงาน Headhunter โดยตรง ผู้เขียนเล่าได้ครบเครื่องและมีเทคนิคดีๆแฝงอยู่เยอะมาก
.
หนังสือยังสอดแทรกการอธิบายความแตกต่างของ Headhunter และ Recruiter ไว้ในเล่มอีกด้วย เป็นอีกเรื่องที่ผมเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน สิ่งหลักๆที่ต่างคือ Headhunter จะตามล่าคนที่มีศักยภาพสูงๆ ที่เหมาะสมกับงานที่มีคุณลักษณะเฉพาะเจาะจงที่บริษัทอยากได้ ซึ่งส่วนมากไม่ใช่ทักษะทั่วไปที่หากันได้ง่ายๆตามท้องตลาด ไม่ใช่แค่เรียนจบด้านนี้มา หรือมีประสบการณ์ด้านนี้มาก็จะมาทำงานตำแหน่งแบบนี้ได้ แต่ต้องมีคุณสมบัติหลายๆอย่างที่เหมาะสมจริงๆ ในขณะที่ Recruiter จะเป็นการจับคู่งานทั่วๆไปกับคนที่มีคุณสมบัติเบื้องต้นเหมาะสมกัน พูดสั้นๆง่ายคือ recruiter จับคู่คนกับงานทั่วไป ในขณะที่ Headhunter จับคู่งานกับคนที่มีลักษณะเฉพาะในท้องตลาด
.
ที่ผมชอบอีกอย่างคือในแต่ละบทจะมีหน้าสรุป ซึ่งช่วยย่อสาระสำคัญของบทนั้นๆมาให้อ่านทวนอีกรอบก่อนขึ้นบทถัดไป ช่วยให้เราตกผลึกเนื้อหาในบทนั้นๆได้ดีขึ้นด้วยครับ
.
หนังสืออ่านง่าย เนื้อหาไม่ได้ละเอียดอะไรมาก อ่านไม่นานก็จบ ผมแนะนำให้เน้นอ่านเพื่อทบทวนคุณสมบัติสำคัญๆที่ควรรู้ไว้สำหรับคนอยากพัฒนาตัวเองในยุคหลังโ COVID-19 และอ่านเพื่อหาเทคนิคดีๆในการไปสมัครงานครั้งต่อไปครับ
.
และอีกเช่นเคย ผมขอเลือก 5 ข้อที่ผมชอบมากที่สุดจากหนังสือมาเล่าให้ฟังครับ
.
1) การเปลี่ยนอาชีพใหม่ เปรียบได้กับการออกแบบชีวิตตัวเองใหม่
.
.
เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะหลายคนกลัวการเปลี่ยนอาชีพ กลัวการออกจากพื้นที่คุ้นเคย แต่จริงๆแล้วคนเขียนเล่าว่าชีวิตของเราก็เป็นเหมือน Resume ถ้าเราอยากให้ Resume ของเราดูดีเราก็ต้องออกแบบมันให้ดี เราจึงต้องออกแบบชีวิตตัวเองให้ตัวเองพึงพอใจ และการออกไปค้นหาอาชีพใหม่ที่ตอบโจทย์ตัวเองมากกว่าก็อาจจะเป็นสิ่งสำคัญที่ควรลงมือทำ
.
จริงๆแล้ว ผู้เขียนแนะนำว่าถ้าเรามองเรื่องการเปลี่ยนอาชีพคือการออกแบบชีวิตให้ตอบโจทย์กับตัวเราเอง เราควรเปลี่ยนอาชีพตั้งแต่ก่อนอายุ 40 เพราะเราจะได้มีเวลาที่มากพอในการดื่มด่ำกับความสุขที่ได้จาการทำงานที่ชอบในอาชีพนั้นๆ
.
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ได้มีกฎอะไรตายตัว ทุกอย่างขึ้นกบัสถานการณ์ และความจำเป็นที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละคน
.
.
2) มนุษย์ Hi-Po 20% สามารถเพิ่มผลผลิตให้กับองค์กรได้มากถึง 80%
.
กฎ Pareto ชื่อดังที่ใครๆก็น่าจะเคยได้ยินกัน เป็นกฎงง่ายๆที่บ่งบอกถึงความสำคัญของมนุษย์ Hi-Po และเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทถึงควรรับมนุษย์ Hi-Po และเราในฐานะผู้สมัครงานควรพัฒนาตัวเองให้เป็นมนุษย์ Hi-Po
.
เหตุผลเรียบง่ายเลยก็เพราะว่าการมีอยู่ของมนุษย์ Hi-Po มันสำคัญมากๆต่อบริษัท ศักยภาพที่เขามีสามารถแปรเปลี่ยนออกมาสร้างผลลัพธ์อันมหาศาลให้กับองค์กรได้ เมื่อเทียบกับพนักงานธรรมดาคนอื่นๆ ในสัดส่วนถึง 4 ใน 5
.
.
3) Good Attitude + Grit + Resilience เป็นลักษณะเฉพาะของคนที่จะประสบความสำเร็จในการทำงาน
.
สามคำสุดฮิตในโลกยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในโลกยุคหลังการระบาดของ COVID-19
.
คำแรก Good Attitude ก็คือการที่เรามีทัศนคติหรือมีกรอบแนวคิดที่ดี ผู้เขียนเน้นยำถึงความสำคัญของ การคิดบวก และการลงมือทำ เราควรมีสองสิ่งนี้ประกอบกันเสมอเพื่อให้งานที่เราทำแปรเปลี่ยนไปเป็นความสำเร็จในระยะยาว
.
คำที่สอง Grit ซึ่งเกิดจากการรวมกันของคำว่า Passion + Perseverance นั่นคือการที่เราต้องมีความหลงใหลในสิ่งที่ทำ และ มีความบากบั่นอุตสาหะ ไม่ย่อท้อต่อสิ่งที่ทำ การหลงใหลในสิ่งที่ทำอย่างต่อเนื่องจะสร้างแรงขับเคลื่อนให้เราทมำงานได้ชนิดที่ว่า ‘กัดไม่ปล่อย’ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์สำเร็จตามที่ต้องการ
.
คำสุดท้ายคือ คำว่า Resilience หรือภาษาง่ายๆคือ ‘อึด ฮึด สู้’ เป็นคำยอดฮิตในยุคโควิด เพราะไม่ว่าเราจะเจอกับอะไรก็ตาม เราต้องไม่ยอมแพ้ ต้องอึด ต้องฮึดตัวเองขึ่นมาต่อสู้กับอุปสรรคอีกครั้ง จนกว่าเราจะฝ่าฟันอุปสรรคที่เจอไปจนได้
.
4) ใส่คำที่ทรงพลังลงใน Resume
.
เนื่องจากปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่เริ่มนำเอา Applicant Tracking System (ATS) หรือระบบ AI ที่ใช้คัดกรอง Resume ด้วย keyword คำอันทรงพลังอย่างคำว่า spearheaded, ignited, pioneered, piloted
.
เหตุผลก็เพราะคำพวกนี้บ่งบอกถึงศักยภาพในตัวผู้สมัคร และบ่งบอกถงึความพร้อมที่องค์กรจะสามารถบ่มเพาะให้ผู้สมัครสามารถเติบโตขึ้นไปในตำแหน่งสำคัยๆขององค์กรได้
.
เพราะฉะนั้นอย่าลืมใส่คำเหล่านี้ลงใน Resume ด้วยละครับ
.
.
5) ก้าวข้าม Comfort Zone สู่ Action Zone
.
.
การลงมือปฏิบัติจริงๆนั้น เราต้องรู้จักต่อสู้กับธรรมชาติของตัวเราเองที่ชอบทมี่จะอยู่อย่างสบายๆใน Comfort zone
.
ซึ่งโดยปกติแล้วเราต้องพยายามก้าวข้ามผ่าน Fear Zone หรือโซนที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกกลัว เกิดความไม่มั่นใจ เกิดความโลเล แต่ถ้าเราก้าวข้ามผ่านมันได้แล้ว เราก็จะเข้าสู่ Learning Zone ซึ่งจัดเป็นโศนที่จะช่วยให้เราเริ่มเรียนรู้ศัยภาพใหม่ๆ ขีดจำกัดใหม่ๆ ที่ไม่ใช่สิ่งมที่เราคุ้นเคยมาก่อน และพอเราเรียนรู้ไปเรื่อยๆเรนาก็จะเติบโตขึ้น ก้าวเข้าสู่ Growth Zone
.
นอกจากนี้แล้วผู้เขียนยังแถมโซนสุดท้ายไว้ให้คือ Action Zone ซึ่งเป็นโซนที่เราสามารถเอาทักษะที่เรียนรู้มาลงมือปฏิบัติได้จริง และก่อให้เกิดผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงจากทักษะใหม่ที่เราเรียนรู้ขึ้นมา
.
.
.
.
………………………………………………………………………….
✍ผู้เขียน: นงลักษณ์ ธนรักษ์
🏢สำนักพิมพ์: วิช, สนพ.
📚แนวหนังสือ: บริหารธุรกิจ, บริหารบุคคล, พัฒนาตัวเอง
…………………………………………………………………………..
.
.
สนใจสั่งซื้อหนังสือได้ที่
.
.
.
#หลังอ่าน #รีวิวหนังสือ #หนังสือ2020 #หนังสือ2563 #reviewหนังสือ #TalentedGenius #เผยรหัสลับDNAคนเก่งเปลี่ยนตนเองสู่ยอดมนุษย์Hi-Po #นงลักษณ์ธนรักษ์ #สำนักพิมพ์วิช #หนังสือบริหารธุรกิจ #หนังสือบริหารบุคคล #หนังสือพัฒนาตัวเอง
Comments