top of page
Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิว 51 ศาสตราวุธสู่จุดสูงสุดของชีวิต




รีวิวหนังสือ 51 ศาสตราวุธสู่จุดสูงสุดของชีวิต

51 Weapons of The Wise

.

.

ผมขอไม่ไปยุ่งเรื่องข่าว หรือเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับตัวฌอนนะครับ แต่จะรีวิวแค่หนังสือ จริงๆคิดอยู่นานมากว่าจะหยิบเล่มนี้มารวมใน 100 เล่มควรอ่านก่อน 30 มั้ย ตอนแรกผมเองก็ไม่เคยอ่านหนังสือของฌอนมาก่อนครับ แต่หนังสือดังมากๆเลยลองไปหามาอ่านดู พออ่านจบก็รู้สึกได้อย่างที่เคยเห็นรีวิวเป๊ะ คือ หนังสือไม่ได้มีอะไรใหม่ เป็นเหมือนการเอาหนังสือเล่มอื่นมายำๆ และใส่ประสบการณ์ตัวเองเข้าไป บางอันก็น่าสนใจ บางอันก็ไม่ แต่พอดูโดยรวมแล้ว ผมว่ามันโอเคนะ น่าสนใจกว่าหนังสือไทยหลายๆเล่มที่กลวงกว่านี้อีก

.

ผมก็เลยคิดว่าอยากเอามาใส่รวมใน 100 เล่ม จะได้ทำให้เห็นสเกลการให้คะแนนของตัวผมด้วยครับว่า ถ้า 9 คะแนนกว่าๆนี้ต้องหนังสือระดับไหน ถ้า 7 คะแนนนี่ต้องเป็นหนังสือระดับไหน และถ้าต่ำกว่า 7 แต่ถูกเอามารวมอยู่ใน 100 เล่มก็คือถือว่ายังน่าอ่าน แต่ถ้ามีเวลาน้อย ก็ควรไปอ่านเล่มที่คะแนนสูงกว่าจะดีกว่าครับ

.

หนังสือ 51 ศาสตราวุธสู่จุดสูงสุดของชีวิต ของฌอนถูกเขียนขึ้นในปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่อาชีพ Life Coach ของเขากำลังบูมมาก และอาจกำลังอยู่ในจุดสูงสุดเหมือนชื่อหนังสือ เพราะตอนนั้นคนติดตามเขาหลายล้านแล้วทั้งใน Facebook และในช่อง Youtube เองก็มีคนดูคลิปเขากว่าล้านครั้ง เป็นจำนวนหลายคลิป นี่ก็อาจเป็นเหตุผลให้ฌอนตัดสินใจเขียนหนังสือเรียบเรียงบทเรียนของตัวเองออกมา ว่าตัวเองเรียนรู้อะไรมาบ้างถึงก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้

.

หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเหมือนบันทึกบทเรียนสั้นๆ ที่มีคำอธิบายและตัวอย่างเหตุการณ์เล็กน้อย บางเรื่องก็หยิบมาจากหนังสือเล่มอื่น บางเรื่องก็เป็นเรื่องของตัวเขาเองที่จริงๆ ก็เรียกได้ว่าเก่งนะ ที่ใช้ความสามารถดิ้นรนในการย้ายมาอยู่ไทย และหาเวทีแจ้งเกิดให้ตัวเองได้

.

ขอยกตัวอย่าง ‘ศาสตราวุธ’ ที่ฌอนหมายถึงกันนะครับ เช่น การต้อนรับความกลัว การเพิกเฉยต่อเสียงวิจารณ์ การมองการณ์ไกล การเลือกคนที่จะอยู่ใกล้ตัว การเห็นเพชรในตัวคนอื่น การเข้าใจคน การเขียนเป้าหมาย การทำ ไปจนถึงสังเกตสัญญาณชีวิต

.

ศาตราวุธเหล่านี้ ฌอนก็ได้แบ่งออกเป็นหมวดย่อยๆหลายหมวด บางหมวดก็ค่อยข้างทั่วไป ไม่ได้มีอะไรใหม่เท่าไหร่ เช่นพวกการเขียนเป้าหมาย การลงมือทำ แต่ที่ผมชอบเป็นพิเศษคือหมวดสุดท้าย หมวดจิตวิญญาณ แม้ผมจะเคยเห็นจากเล่มอื่นมาแล้ว แต่ยอมรับว่าฌอนเขียนออกมาได้ดี และน่าสนใจ อย่างเช่นการฟังเสียงของหัวใจตัวเองจริงๆที่ไม่โดนรบกวนจากเสียงคนอื่น มักจะเกิดขึ้นตอนที่เราใช้เวลาอยู่กับตัวเองอย่างตอนอาบน้ำ หรือตอนเดินเล่นหน้าบ้าน ซึ่งหลายๆครั้งช่วงเวลาเหล่านี้เป็นช่วงที่ทำให้เรามีไอเดียดีๆพุ่งเข้ามาหา

.

หนังสือฌอนอ่านง่ายมากครับ เขาทำเป็นสองภาษา มีภาษาอังกฤษอยู่ในหน้าด้านซ้าย ภาษาไทยอยู่ด้านขวา ระดับภาษาที่ใช้ไม่ยาก เข้าใจง่าย สำนวนก็กลางๆพอโอเค อ่านเพลินอยู่ บางอันก็ไม่ค่อยได้อะไร บางอันก็แปลกดี

.

หลังอ่านจบเอาจริงๆก็คือ เหมือนอ่านฌอนเล่าชีวิตตัวเองให้ฟังพอสมควร และรู้สึกว่าฌอนชีวิตเขาก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องที่เขาเล่าว่าสำเร็จส่วนใหญ่ก็จะเป็นแต่เรื่องการเป็น Youtuber หรือ Influencer แต่เรื่องอื่นๆไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ส่วนตัวที่ผมชอบจริงๆก็อย่างที่บอกครับ เป็นหมวดสุดท้าย

.

โดยรวมแล้ว ลองอ่านดูก็ไม่เสียหายอะไรครับ ถ้าไม่ชอบอันไหนก็อ่านผ่านๆไป แต่ผมเข้าใจได้เลยนะว่าทำไมหนังสือถึงเป็น best sellers ติดต่อกันมายอ่างยาวนาน คนไทยยังต้องการหนังสือสูตรไปสู่ความสำเร็จมาอ่านอยู่เรื่อยๆครับ

.

เหตุผล 3 ข้อสำหรับความควรอ่านก่อน 30

.

1) รู้จักศาตราวุธที่ไม่ลับของฌอนในการประสบความสำเร็จด้าน Youtuber และ Infleuncer พร้อมฝึกภาษาอังกฤษ

2) รู้จักเรื่องของจิตวิญญาณที่แอบทรงพลังและน่าขนลุก

3) ลองอ่านหนังสือของคนที่เป็น กระแสดังในโลกโซเชียล และลองใช้วิจารณญาณดูว่า คิดเห็นอย่างไรกับตัวเขาและหนังสือของเขา

.

.


51 ศาสตราวุธ ฉบับฌอน

.

วันนี้หยิบ 51 ศาสตราวุธจากหนังสือ 51 ศาสตราวุธสู่จุดสูงสุดของชีวิต : 51 Weapons of the Wise ที่เขียนโดย ฌอน บูรณะหิรัญ มาฝากกันนะครับ

.

1. ควบคุมความคิดอัตโนมัติ เพราะมันจะส่งผลต่อการกระทำของตัวเรา

.

2. ต้อนรับความกลัว

ความกลัวนั้นมี 2 ประเภท คือความกลัวที่ทำให้เราหยุดนิ่ง กับความกลัวที่ทำให้เราเคลื่อนไหว จงใช้ความกลัวประเภทหลังให้เป็นประโยชน์และกระตุ้นมันให้เราลองลงมือทำ

.

3. กำจัดความเชื่อจำกัด

ลองใส่ยางที่ข้อมือตัวเองดู ทุกครั้งที่เราคิดว่าทำอะไรสักอย่างไม่ได้ ให้ดีดยางใส่ข้อมือตัวเองเบาๆดู และให้พูดใหม่ว่า “ฉันทำได้”

.

4. เพิกเฉยต่อคำวิจารณ์

แทนที่จะใส่ใจกับคำวิจารณ์ของคนรอบตัวทุกๆคน เอาเวลามาใส่ใจกับการพัฒนาชีวิตตัวเองจะดีกว่า

.

5. หยุดเปรียบเทียบตัวเอง

คนเดียวที่เราควรเปรียบเทียบด้วยคือตัวเราเองเมื่อวานนี้ หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะทุกๆคนก็ล้วนพบเจอปัญหาในรูปแบบของตัวเองกันทั้งนั้น

.

6. เคารพตัวเอง

เริ่มให้เกียรติตัวเอง ก่อนที่จะคาดหวังให้คนอื่นมาให้เกียรติ

.

7. ปล่อยวางอดีต และคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเดินมาจนถึงวันนี้

.

8. ปรับตัว โดยเฉพาะเวลาเราไปเข้าสังคมใหม่ สถานที่ใหม่ ให้รู้จักเรียนรู้วัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ

.

9. เปิดใจ ยอมรับการเรียนรู้ใหม่ๆตลอดเวลา ถ้าเราเก่งที่สุดในห้อง ก็แปลว่าเราควรจะเปลี่ยนห้องเรียนได้แล้ว

.

10. ตั้งคำถามกับตัวเอง โดยเฉพาะทำยังไงเราถึงจะดีกว่าเดิมได้ เก่งขึ้นมากกว่าเดิมได้

.

11. คิดอย่างแตกต่าง ลองปล่อยใจให้ล่องไปกับไอเดียแปลกๆดูบ้าง

.

12. มองการณ์ไกล นึกถึงว่าการกระทำของเราจะทำให้คนจดจำเรายังไงเมื่อเราตายไป

.

13. ทุกอย่างขึ้นอยู่กับบริบทและสถานการณ์ ความคิดและเดียต่างๆอาจถูกหรือผิดกันได้ทั้งนั้น

.

14. เลือกคนที่คุณจะอยู่ใกล้ให้ดี เพราะร้อยละ 90 ของความโชคดีมาจากคนอื่น ลองอมงกลับไปในอดีตแล้วลองสังเกตว่า มีใครเคยหยิบยื่นโอกาสอะไรให้กับเราบ้าง

เราควรเลือกที่จะอยู่ใกล้กับคนที่จะดึงเราขึ้น ไม่ใช่คนที่จะฉุดเราลง

.

15. การวางตัว มารยาท และน้ำใจจะพาเราไปยังที่ที่เราต้องการได้

.

16. ทักษะการเข้าสังคม

สิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในการเข้าสังคมคือการสังเกตคนรอบตัว ดูว่าเขาสนใจเรื่องอะไร และต้องการจะทำอะไรบ้าง

.

17. ที่ปรึกษา

หาที่ปรึกษาดีๆในชีวิตไว้สักคน เพราะข้อมูลดีๆที่เราได้รับจะเป็นตัวพาเราไปสู่ตัวตนของเราในอีก 5 ปีข้างหน้า

.

18. การตั้งคำถาม สำคัญมากสำหรับการคุยกับคนอื่น เพราะจะเป็นตัวกำหนดปฏิกริยาที่คนอื่นมีต่อเรา

.

19. ความอ่อนน้อมถ่อมตน

อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ถ้าเรายิ่งอยู่สูง เราต้องยิ่งอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้ เพราะมันจะช่วยให้เราได้รับโอกาสดีๆอีกมากมายในชีวิต

.

20. ให้การกระทำดังแทนคำพูด

การกระทำเสียงดังกว่าคำพูดเสมอครับ

.

21. สงบปากสงบคำ

เลือกจังหวะเวลาที่จะพูดให้ดี รู้ว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด

.

22. ฝึกเห็นเพชรในผู้อื่น

พลังของเราจะมีคุณค่าเมื่อเราดึงคนอื่นขึ้น ไม่ใช่ตอนที่เราฉุดคนอื่นลง พยายามมองหาจุดดีของคนแต่ละคน และร่วมสร้างทีมที่แข็งแกร่งไปด้วยกัน

.

23. การเป็นเนื้อแท้ (authenticity)

เป็นตัวของเราเองจริงๆ ไม่เสแสร้ง

.

24. การพูดความจริง

หยุดหลอกตัวเอง หยุดหลอกคนอื่น การพูดแต่ความจริงช่วยให้จิตใจเราสงบขึ้น รู้สึกตัวเบา และได้พลังชีวิตเพิ่มขึ้นมา

.

25. อารมณ์ขัน

อารมณ์ขันช่วยลดความตึงเครียดในหลายๆสถานการณ์ได้

.

26. พูดว่า ‘ไม่’ ให้เป็น

พูดไม่กับคนอื่น เพื่อพูดใช่กับตัวเอง

.

27. หลงใหลในสิ่งที่ตัวเองทำ

หาสิ่งที่ตัวเองหลงใหลและนึกถึงมันไปตลอด 24 ชั่วโมง

.

28. ทำเกินหน้าที่

ฝึกหนักกว่าคนอื่น และเราจะก้าวหน้าไปไกลกว่าที่คนอื่นยืน

.

29. สังเกตการณ์

สังเกตและเลียนแบบ เพราะเราไม่สามารถเลียนแบบใครได้ 100% อยู่แล้ว สุดท้ายสิ่งที่เราเลียนแบบมาก็จะกลายมาเป็นแบบฉบับของเราเอง

.

30. วินัยและการไม่ละทิ้งความตั้งใจ

ตั้งคำมั่นสัญญากับตัวเอง (commitment) และสร้างวินัยที่จะลงมือทำมันอย่างต่อเนื่องให้สำเร็จ

.

31. ความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

การทำอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวย่อมดีกว่าการทำอย่างหักโหมในระยะสั้น

.

32. ผูกมิตร แม้แต่กับศัตรู

ให้เพื่อนอยู่ใกล้เรา แต่ให้ศัตรูอยู่ใกล้เรามากว่า และเราอาจจะพบว่าเราไม่ได้เป็นคู่แข่งกันก็ได้ เราสามารถร่วมมือกันได้ และที่สำคัญคนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีมิตรเลยคือคนที่อยู่อย่างอ่อนแอที่สุด

.

33. เพื่อนคู่คิด หาให้เจอและสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ให้ได้

.

34. เพิ่มโอกาสแห่งความโชคดี

ความโชคดีมากจากคนอื่น มาจากการอยู่ถูกที่ถูกเวลา และมาจากการทำตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ

.

35. เข้าใจคน

พยายามทำความเข้าใจคนแต่ละแบบ จากสิ่งที่เขาพูดและทำ

.

36. เห็นจุดร่วมในทุกๆสิ่ง เพื่อนำมาเชื่อมต่อกันไปสู่ความสำเร็จ

.

37. เป็นเพื่อนกับความล้มเหลว และเรียนรู้จากมัน

.

38. การเขียนเป้าหมาย

.

39. ลงมือทำ ไม่ใช่แค่รู้แต่ไม่ทำ

.

40. ทะลุขีดจำกัดของตัวเอง เป็นตัวเองในแบบที่ดีกว่าเดิมอยู่เสมอ

เมื่อไปถึงยอดเขาแล้ว เรามีอยู่สองทางคือ พิชิตยอดเขาและอยู่ตรงนั้นให้นานที่สุด พิชิตยอดเขาและเดินทางไปสู่ยอดเขาถัดไป

.

41. ยอมจำนนกับสิ่งที่เหนือกว่าตัวเรา บางครั้งก็มีเสียงจากสิ่งยิ่งใหญ่กว่าเราเรียกร้องให้เราทำแบบนู้นแบบนี้ บางครั้งลองทำแบบนั้นดูบ้าง และดูว่าชีวิตจะพาเราไปถึงจุดไหน

.

42. เป็นหนึ่งเดียวกับคลื่นชีวิต

ชีวิตล้วนมีแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิดไว้เสมอ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม และลองลอยไปตามคลื่นชีวิตดู

.

43. ทุกอย่างเกิดขึ้นมีเหตุผลบางอย่างเสมอ

บางสิ่งบางอย่างอยู่เหนือกว่าการควบคุมของตัวเรา เราควรจะคิดแค่ว่า เราเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง

.

44. สิ่งที่คุณต้องการ คือบทเรียน

บางครั้งชีวิตก็ไม่ได้มอบสิ่งที่เราต้องการให้กับเราทุกอย่าง บางครั้งเหตุผลมันก็เพียงเพราะว่า เราไม่ได้เหมากับสิ่งๆนั้น

.

45. สังเกตสัญญาณชีวิต

“สัญญาณอาจเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นจากการที่หลายคนแนะนำคุณในเรื่องเดียวกันซ้ำๆ , ภาพที่คุณเห็นซ้ำๆ หรือ แนวคิดที่คุณได้ยินมันโดยไม่ตั้งใจซ้ำๆ ส่วนตัวผมมักจะลงมือทำเมื่อมีสัญญาณถึง 3 ครั้ง”

.

46. ทุกคนที่คุณพบมีเหตุผลบางอย่างเสมอ

“คนที่คุณจะได้พบเจอในชีวิตแบ่งออกเป็น 3 ประเภท 1. กระจกเงา - คนที่สะท้อนให้คุณได้เห็นสิ่งคุณเป็นอยู่

2. ลูกแก้ววิเศษ - คนที่เป็นแบบอย่างให้คุณได้เห็นว่า คุณอาจจะเป็นแบบเขาในอนาคต

3. เทพประทานพร - คนที่เข้ามาในชีวิตของคุณในช่วงหนึ่ง หรือ อยู่กับคุณไปตลอดชีวิต เป็นของขวัญที่ชีวิตมอบให้คุณ”

.

47. ชะตาชีวิต

จงเชื่อว่าเราเกิดมาเพื่อทำอะไรสักอย่างให้โลกใบนี้

.

48. สร้างเป้าหมาย และ ความหมายในสิ่งที่ทำ

.

49. ภาวนาและส่งสาร

“ภาวนาเมื่อคุณรู้สึกขอบคุณ และ ภาวนาเมื่อคุณพร้อมจะยอมอ่อนข้อต่อพลังอันสูงสุดของชีวิตคุณ”

.

50. ทำสมาธิ และรับสาร

“การทสมาธิสำหรับผมหมายถึงหลายอย่าง มันคือการทำให้ความคิดสงบเงียบจนคุณได้ยินถึงจิตวิญญาณของคุณ มันคือการพักทุกประสาทสัมผัส และเข้าถึงสิ่งที่เหนือกว่าสัมผัสทางกายมันคือการหยุดความคิดที่วิ่งไปมาจากข้อมูลที่อยู่บนโลก และ รับข้อมูลจากปัญญาของโลก”

.

51. ปัญญาญาณ (intuition) / เสียงที่ไม่ได้ยิน (inner voice)

รับฟังเสียงภายในของตัวเอง เสียงที่บ่งบอกว่าเราควรทำยังไงกับชีวิตของเรา บางครั้งเราต้องการความเงียบถึงจะสื่อสารกับจิตวิญญาณของเราได้ หลายๆครั้งไอเดียดีๆจึงมักมาตอนที่เราอาบน้ำ เดินคนเดียว หรือคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยคนเดียว

.

.

.

.........................................................

ผู้เขียน: ฌอน บูรณะหิรัญ

จำนวนหน้า: 336 หน้า

สำนักพิมพ์: THOUGHT LEADERS

ตีพิมพ์ครั้งแรก: 6/2018

.........................................................

.

สั่งซื้อหนังสือที่

.

.

ดูน้อยลง

200 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page