top of page
  • Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิว นาโงมิ สุข สงบ สมดุล



สรุป 10 ข้อคิด หลังอ่านหนังสือ นาโงมิ สุข สงบ สมดุล

.

.

1. นาโงมิ หมายถึง ความสงบ สมดุล และความสบายภายในใจ

นาโงมิอาจเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างตัวเรากับสิ่งแวดล้อม

นาโงมิอาจเป็นเรื่องของการสื่อสารระหว่างคนสองคน

นาโงมิอาจเป็นส่วนผสมที่สมดุลและกลมกลืนของวัตถุดิบทำอาหารต่าง ๆ

นาโงมิอาจเป็นสภาวะจิตใจโดยรวมของมนุษย์คนหนึ่ง

.

โดยเป็นความรู้สึกตอนที่เรารู้สึกหลอมรวมกับสิ่งภายนอก รู้สึกเป็นหนึ่งเดียว รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย มีความสมดุลทางอารมณ์ มีความผาสุก

.

สิ่งสำคัญคือนาโงมิต้องมีองค์ประกอบที่แตกต่างหลากหลายตอนเริ่มต้น แล้วองค์ประกอบเหล่านั้นค่อย ๆ มาเรียงตัวเชื่อมต่อกันให้ปรองดองกลมกลืน

.

.

2. นาโงมิ เป็นต้นกำเนิดแนวคิดสำคัญอื่น ๆ ของญี่ปุ่น

ไม่ว่าจะเป็น วะบิ ซะบิ, คินสึงิ, เซน, อิชิโกะ อิชิเอะ, และ อิคิไก

นาโงมิจึงเป็นเหมือนเสาหลักที่สำคัญทางวัฒนธรรมญี่ปุ่น และเป็นสิ่งที่หลอมรวมปรัชญาญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน

.

.

3. นาโงมิในอาหาร คือการจัดกล่องเบนโตะที่มีอาหารหลายอย่าง โดยไม่มีอาหารจานหลัก

อาหารทุกอย่างช่วยประสานซึ่งกันและกัน

เมื่อเวลากินอาหารเหล่านั้นพร้อมข้าว ก็จะให้รสชาติที่กลมกลืน

วัตถุดิบสองอย่างจะไม่ตีกันในปาก แต่จะผสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน

และช่วยให้ประสบการณ์ในการรับประทานอาหารมื้อนั้นดีที่สุด

.

.

4. นาโงมิในตัวตน คือการผสานด้านต่าง ๆ ของชีวิตอย่างสมดุล และร้อยเรียงออกมาเป็นความสุข

หลายคนมักคิดว่า เมื่อเรียนจบสูง ทำงานเงินเดือนดี แต่งงานมีครอบครัว ซื้อบ้านหลังใหญ่โต แล้วจะมีความสุข

แต่หลายคนมักผิดหวัง เมื่อชีวิตไม่ได้เป็นอย่างนั้น

.

ถ้าเปรียบของสองสิ่ง สิ่งหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่คนเรามักตามหาคือ “กระสุนเงิน”

แต่อีกสิ่งเป็นสิ่งที่คนเรามักหลงลืมไปคือ “พรมวิเศษ”

.

คนเรามักคิดว่า ถ้ามีกระสุนเงิน ซึ่งเปรียบเหมือนวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในโลก สามารถใช้แก้ปัญหาทุกอย่างในชีวิตได้

ถ้าเราเจอกระสุนเงินดังกล่าวแล้ว ชีวิตเราจะมีความสุขตลอดไป

แต่ความเป็นจริงก็คือ กระสุนเงินนั้นไม่มีอยู่จริง และมันได้สร้างความผิดหวังให้กับผู้คนมากมายที่ออกตามหา

.

วิธีที่จะทำให้เราค้นเจอความสุขและสงบในชีวิตได้จริง ๆ คือการใช้พรมวิเศษ

ที่จะช่วยให้ชีวิตในทุก ๆ ด้านมาผสานรวมกันเพื่อพัฒนาชีวิต ทำให้เกิดความพึงพอใจในตัวเอง

ด้านต่าง ๆ รวมถึง การงาน ความสัมพันธ์ และวิถีชีวิต

ซึ่งจะช่วยต่อเติมซึ่งกันและกัน และทำให้เรารู้สึกเติมเต็มจนไม่ต้องการที่จะหนีไปหาสิ่งที่ดีกว่าเดิมอีก

.

.

5. นาโงมิในอิโมจิ

การแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องต่าง ๆ เป็นเรื่องพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนล้วนอยากทำ

แต่วัฒนธรรมญี่ปุ่นก็มีแนวคิดเรื่อง “เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับฉัน”

“ฉันไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่มย่ามกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับฉัน”

เรื่องนี้ทำให้คนญี่ปุ่นไม่อยากเปิดเผยตัวตนเพื่อแสดงความคิดเห็น เพราะมันขัดกับวัฒนธรรม “เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับฉัน”

.

แต่สุดท้ายแล้วคนญี่ปุ่นก็หาวิธีผสานสองสิ่งให้ลงตัวได้ นั่นก็คือ การแสดงความคิดเห็นโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน

โดยใช้อิโมจิ แสดงความคิดเห็นแทน

เรื่องนี้นับว่าเป็นนาโงมิแบบหนึ่ง ที่ผสานความต้องการการแสดงความคิดเห็น กับวัฒนธรรมการไม่เปิดเผยตัวตนได้อย่างลงตัว

.

.

6. หัวใจของนาโงมิ คือการแสดงให้เห็นว่าทุกความสัมพันธ์มีคุณค่า และควรค่าแก่การรักษาไว้อย่างยิ่ง

ความสัมพันธ์ที่ว่าหมายรวมถึง ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอง คนอื่น และสิ่งแวดล้อม

.

สิ่งนี้ถูกสะท้อนผ่านวิธีสร้างสรรค์ของคนญี่ปุ่น เช่นการจัดสวน

ที่จะมีการตกแต่งสิ่งที่เราเพิ่มเติมเข้าไป (สวนที่เราจัด) ให้ผสมกลมกลืนกับสิ่งที่มีอยู่แล้วรวมถึง ทิวทัศน์ต่าง ๆ แม่น้ำ ภูเขา อย่างลงตัว

.

.

7. นาโงมิในสุขภาพ คือการพยายามรักษาไว้ซึ่งสุขภาพตัวเองด้วยวิธีต่าง ๆ อย่างสมดุล

ไม่ใช่การแก้ปัญหาไปที่จุด ๆ เดียวอย่างการกินยาหรือวิตามิน

.

วิธีหนึ่งที่หนังสือแนะนำคือ ชินริน-โยกุ (การอาบป่า) ซึ่งเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นมักทำกัน

คือการเดินในสวนนอกบ้าน พื้นที่สีเขียว และอาบแสงอาทิตย์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพได้ในระยะยาว

.

.

8. หลัก 3 ข้อของนาโงมิในการเรียนรู้ตลอดชีวิต (หลักการโซโดกุ)

1) สร้างความคุ้นเคยกับสิ่งที่จะเรียนรู้ - ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ โค้ดดิ้ง หรือทักษะต่าง ๆ

เราต้องเริ่มจากการการสร้างความคุ้นเคย แม้จะยังไม่เข้าใจในรายละเอียดทั้งหมดก็ตาม

.

2) สร้างสภาพแวดล้อมที่รู้สึกผ่อนคลาย – เช่นการด้วยกันทั้งครอบครัวในบ้านหลังเดียวกัน และสมาชิกแต่ละคนร่วมเรียนรู้สิ่งที่สนใจไปด้วยกัน

.

3) เราจะค้นพบนาโงมิของสิ่งที่เรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบสิ้น

.

.

9. นาโงมิในความคิดสร้างสรรค์ คือการสร้างความสมดุลและความผสานกลมกลืนของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว จนก่อเกิดเป็นสิ่งสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ขึ้นมา

แนวคิดนาโงมิของญี่ปุ่นจะต่างจากโลกตะวันตกที่มองว่าอัจฉริยะที่สร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาได้ มักได้รับพรจาพระเจ้า และต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว

.

สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว อัจฉริยะในงานสร้างสรรค์ คือ ความสมดุลพอดี ระหว่างความเป็นตัวเองที่จะยัดเยียดคุณค่าความอัจฉริยะให้กับการหักห้ามใจตัวเองไม่ให้สุดโต่งจนเกินไป

นาโงมิในความคิดสร้างสรรค์จึงทำให้เกิดจุดสมดุลที่ผสานการแสดงออกซึ่งความเป็นตัวตนของคน ๆ หนึ่งกับความพอดีที่จะอยู่ในโลกใบนี้ได้

โดยต้องแลกมาซึ่งการปฏิเสธตัวตนบางอย่างไป

.

.

10. นาโงมิ กับความเปลี่ยนแปลง เป็นหลักการที่บอกให้เรายอมรับว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นซับซ้อน

และเราต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับความคลุมเครือ ความไม่แน่นอน และความขึ้น ๆ ลง ๆ ของชีวิต

.

นาโงมิสอนให้รู้ถึงความไม่ยั่งยืนถาวรของชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือร้ายสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนไป

เพราะสิ่งเดียวที่ถาวรยั่งยืนในโลกนั้น คือความเปลี่ยนแปลง

.

.

รีวิวหลังอ่านสั้น ๆ

เป็นหนังสือกึ่งปรัชญาญี่ปุ่นอีกเล่ม ที่คนไม่ค่อยพูดถึงกันเท่าไหร่

เพราะค่อนข้างเข้าใจยาก และอาจเอาไปประยุกต์ใช้ได้อยากด้วย

แต่ต้องยอมรับว่า หลักการนาโงมิ สุข สงบ สมดุล ปรากฎอยู่ในวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่นจริง ๆ

และอาจเป็นตัวขับเคลื่อนวัฒนธรรมสำคัญ ๆ แบบญี่ปุ่นทั้งหมด

.

หนังสือนาโงมิ เขียนโดยอาจารย์เคน โมงิ ผู้เขียนหนังสือขายดี อิคิไก และเล่มอื่นอีกหลายเล่ม

เล่มนี้เป็นเล่มเล็ก แต่อ่านไม่ง่าย

ตลอดเล่มแฝงปรัชญาญี่ปุ่น ที่เชื่อมโยงกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ตลอด

.

แต่ถ้าใครชอบอ่านแนวปรัชญาญี่ปุ่นอยู่แล้ว

ส่วนตัวก็แนะนำให้ลองศึกษานาโงมิดูครับ

อาจให้แง่คิดดี ๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้เหมือนกัน

.

.

พิกัดสั่งซื้อ: https://shope.ee/1AmOEldz4T

.

.

............................................................................................

ผู้เขียน: Ken Mogi (เคน โมงิ)

ผู้แปล: เขมลักขณ์ ดีประวัติ

จำนวนหน้า: 162 หน้า

สำนักพิมพ์: อมรินทร์ How To, สนพ.

เดือนปีที่พิมพ์: 6/2022

ชื่อเรื่องต้นฉบับ: The Way of Nagomi

............................................................................................

.

.

#หลังอ่าน #หนังสือควรอ่านก่อนอายุ30 #นาโงมิสุขสงบสมดุล




40 views0 comments
Post: Blog2_Post
bottom of page