รีวิว Niksen
ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย
.
.
‘อยู่เฉยๆบ้างแบบชาวดัตช์ ชีวิตดีขึ้นจริงๆนะ’
.
เรียกว่าเป็นหนังสืออีกเล่มที่สวนกระแสหนังสือพัฒนาตัวเองที่พยายามให้เราใช้เศษเวลามาก่อให้เกิดประโยชน์ เช่น ระหว่างรถติดก็ฟังพอดแคสท์ ระหว่างรอเข้าประชุม 5 นาทีก็หยิบหนังสือมาอ่าน
.
หนังสือเล่มนี้บอกว่าพอๆ ไอเดียเหล่านั้นบางครั้งก็ดี แต่บางครั้งก็ทำให้ชีวิตเหนื่อยเกินไป ลองดูมุมต่างกันบ้าง เราอาจไม่ต้องเคร่งเครียด และปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการไม่ทำอะไรเลยบ้าง
.
นี่แหละที่เรียกว่า นิกเซน (Niksen)
.
นิกเซนถูกใช้เป็นคำกริยากันอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวดัตช์ มันหมายถึงการพักเพื่อชาร์จพลัง พักแบบพักจริงๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย
.
ชาวดัตช์ใช้เคล็ดลับการทำนิกเซนเป็นประจำเพื่อช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ช่วยให้สมองปลอดโปร่งและกลับมาคิดงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดสิ่งรบกวนต่างๆออกจากชีวิตของเรา
.
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือออกใหม่ที่อ่านง่าย สบาย รูปภาพประกอบคือดีงามมาก สวยเหมือนรูปแมวบนปกหน้าเลย คือส่วนตัวแอดมินถูกดึงดูดด้วยงานวาดประมาณนี้อยู่แล้ว อ่านละเพลินตา จดจำเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
.
ต้องบอกว่า หนังสืออาจไม่ได้นำเสนอแนวคิดอะไรที่แปลกใหม่ การพักผ่อนเพื่อชะโลมจิตใจตัวเองเป็นเรื่องที่รู้ๆกันอยู่แล้ว แต่หนังสือออกมาในช่วงที่ตรงกับยุคสมัยที่ต้องการมันมากๆ เพราะปัจจุบันนี้เราบูชาความยุ่ง เวลาใครตอบว่าทำอะไรอยู่ ถ้าไม่ยุ่งเหมือนจะเป็นความผิด
.
หลายๆครั้งเราเลยต้องทำตัวเองให้ยุ่งอยู่เสมอ และกดดันตัวเองด้วยงานต่างๆที่ถาโถมเข้ามา เรื่องนี้สุดท้ายแล้วไม่ได้ส่งผลดีกับตัวเราเลย เรากลายเป็นคนเครียด ทำงานได้ไม่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่แย่
.
นิกเซน เข้ามาตอบโจทย์เรื่องพวกนี้ได้ และอาจเปลี่ยนมุมมองของเราต่อการทำตัว busy ตลอดเวลา
.
ทั้งนี้ผมอยากจะนำเทคนิคการทำนิกเซนดีๆมาฝากกัน ย่อยเป็น 5 ข้อดังต่อไปนี้
.
1) เข้าใจความสำคัญของนิกเซน
สิ่งแรกที่เราต้องปรับก่อนคือmindset เราจะติดอยู่กับชีวิตยุ่งๆไปตลอดไม่ได้
.
เราต้องเข้าใจว่า การทำนิกเซน ไม่ได้เท่ากับ ขี้เกียจ
.
นิกเซนเป็นเหมือนการฝึกสติ ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆมากขึ้น ช่วยให้เรามีสมาธิ และเกิดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
.
โดยสรุปแล้ว นิกเซนช่วยให้
- มีเรี่ยวแรงมากขึ้น เพราะได้รับการเติมพลังกายและพลังใจ
- สุขภาพดีขึ้น บริหารพลังงานได้ดีขึ้น มีสมาธิ และป้องกันภาวะหมดไฟ
- ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น ใครมีลูกก็ใช้เวลาที่มีค่ากับลูกได้มากขึ้น
- สมองแข็งแรงขึ้น เพราะได้หยุดพักจากความเสียหาย
- เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการทำงานและการบริหารเวลา
- เพิ่มความตระหนักรู้ในตัวเอง ให้เวลาตัวเองได้ทบทวนว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ
- เกิดการตื่นรู้ เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ
- มีการวางแผนระยะยาวได้มากขึ้น
- มีการนอนหลับที่ดีขึ้น ความเครียดลดลง
.
.
2) กล้าที่จะเฉื่อย
นอกจากเข้าใจความสำคัญของการทำนิกเซนแล้ว เรายังต้องทลายความเชื่อผิดๆที่เราใช้เป็นข้ออ้างในการขัดขวางการทำนิกเซนอีกด้วย
.
ความเชื่อดังกล่าวมีอยู่ 3 ประการได้แก่
1. ‘ฉันยุ่งเกิดกว่าจะอยู่เฉยๆ’
นั่นก็เพราะเราไม่ให้เวลากับตัวเอง และคิดว่าเวลาที่จะให้ตัวเองได้พักไม่มีความสำคัญ
.
2. ‘อยู่เฉยๆแปลว่าขี้เกียจ’
จริงๆแล้วมันอาจเป็นโลกต่างหากที่บีบให้เราทำอะไรหลายอย่างจนเกินไป ไหนจะตอบอีเมล ไหนจะการประชุม ไหนจะข้อความ ไหนจะแชทต่างๆ ลองหาเวลาปลีกวิเวกออกมาบ้าง มันไม่นับว่าเป็นความขี้เกียจหรอก
.
3. ‘การพักเป็นเรื่องไม่ดี เพราะคนอื่นต้องการฉัน’
เรายืนอยู่บนความต้องการคนอื่นมากเกินไป เราแคร์คนอื่นมากเกินไป อาจถึงเวลาแล้วที่เราจะหันกลับมาแคร์ตัวเองบ้าง เราควรลงทุนเวลากับคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรานั่นก็คือ ตัวเราเอง
.
.
เพราะฉะนั้นแล้ว เราต้องกล้าที่จะทำตัวเฉื่อยบ้าง
.
.
3) จัดลำดับความสำคัญใหม่
.
เราต้องลองเพิ่มนิกเซนเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน รวมไปถึงการจัดห้องให้เราได้นิกเซนอย่างสงบ หนังสือให้ไอเดียไปไกลถึงการวางแปลนบ้านใหม่ โดยให้แบ่งห้องทำงาน ห้องนอน ห้องนั่งเล่นรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องนิกเซน!!
.
ห้องนิกเซนคือห้องที่ทำให้เราได้หมั่น ทบทวนตัวเอง ฝัน และอยู่เฉยๆ
.
แต่แน่นอนว่าทุกอย่างต้องสมดุล เช่นเดียวกันกับการจัดห้อง การจัดเวลาก็ต้องสมดุล เราต้องลองให้คะแนนกิจวัตรต่างๆที่เราทำ แล้วดูว่าเราได้คะแนนสูงที่กิจกรรมไหน ต่ำที่กิจกรรมไหน เช่น ดูทีวีให้ 7 คะแนนความสุข นอนให้ 9 คะแนนความสุข ถ้าสิ่งไหนได้คะแนนต่ำกว่า 5.5 ลงไปก็อาจต้องปรับตารางใหม่ โดยอาจเพิ่มเวลาพัก เวลาทำนิกเซนเพื่อให้ตารางสมดุลมากขึ้น
.
.
4) ใช้วิถีแห่งชาวดัตช์ในการทำนิกเซน
วันอาทิตย์เป็นวันที่ชาวดัตช์จะได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ร้านค้าปิดหมด ไม่มีใครต้องทำงาน ทุกคนพักผ่อนสบายใจ และทำให้เวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ นี่เป็นวิถีแห่งนิกเซนที่แท้จริง
.
เรื่องนี้รวมถึงการต้องพูดตรงๆเพื่อปฎิเสธคนที่มาขอเวลาจากเรา เราอาจลองใช้วิธีของชาวดัตช์คือการพูดตรงๆมากขึ้น ว่าเราต้องการเวลาให้ตัวเอง พูดอย่างจริงใจ เปิดเผย เพราะอีกฝ่ายก็อาจกำลังคิดเหมือนกับเราก็ได้ ว่าไม่ได้อยากเจอกัน อยากใช้เวลากับตัวเองให้มากกว่านี้
.
แต่ถ้าเรามีเวลาน้อยจริงๆ เราก็ยังทำนิกเซนได้ อาจใช้เวลาเพียง 5 นาที 10 นาที หรือ 20นาที ก็ล้วนทำได้ทั้งสิ้น การนั่งเฉยๆแล้วผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ จะช่วยทำให้เรารีเฟรชตัวเองได้ตลอดวัน
.
.
5) นิกเซนด้วยการลดเวลาบนโลกออนไลน์
ภาวะติดโซเชีลยมีเดียแพร่กระจายไปทั่วโลก เราทุกคนต่างหยิบมือถือมาเช็คตลอดเวลาที่เราว่าง เช่นตอนเข้าห้องน้ำ รอนัดหมอฟัน เดินทางไปทำงาน หรือรอประชุม เราอยากติดตามความเคลื่อนไหวของโลกใบนี้ ซึ่งหลายๆครั้งมีแต่จะทำให้เราเกิดความอิจฉา (เมื่อเห็นคนอื่นอวดชีวิตที่ดีของตัวเอง) ความเครียด (เมื่อเห็นข่าวการเมือง ข่าวคนตาย) หรือความกังวล (เมื่อเห็นเรื่องราวต่างๆของคนที่กำลังลำบาก)
.
มันอาจดีกว่าถ้าเราลดเวลาเหล่านี้ลงได้ และพักผ่อน ทำนิกเซนเพื่อผ่อนคลายจิตใจ
.
ทริคดีๆที่หนังสือฝากไว้ก้เช่น
- ปิดการแจ้งเตือนกลุ่ม Line/ Facebook หรือกลุ่มไหนที่อาจไม่จำเป็นต่อชีวิตเรา ก็กดออกมาซะ
- ลดแอบพลิเคชันโซเชียลมีเดียออกให้เหลือน้อยที่สุด
- ตั้งโหมดกลางคืนเพื่อตัดเสียงเรียกเข้าและข้อความรบกวน
- หันกลับมาอ่านหนังสือที่เป็นกระดาษ แทนการอ่านออนไลน์
- ลองใช้แอบพลิเคชันที่ทำให้เราออกจากมือถือ เช่นแอบปลูกต้นไม้ (ถ้าเราเล่นมือถือ ต้นไม้จะตาย) หรือแอบที่ปิดกั้นการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเป็นระยะเวลาพักหนึ่งเพื่อให้เราได้จดจ่อกับสิ่งอื่น
- ทุกครั้งที่เราเช็ค IG story ให้ลองถามตัวเองดูว่า มันคุ้มกับเวลามั้ย มีอะไรอย่างอื่นที่ทำให้เราผ่อนคลายได้มากกว่านี้รึเปล่า
.
.
.
โดยรวมแล้วหนังสือเล่มเล็กๆ อ่านไม่ถึงชั่วโมงก็จบแล้ว แต่ภาพสวย แนวคิดดี น่าลองเอามอ่นากันดูครับ
.
.
สั่งซื้อหนังสือได้ที่
.
.
………………………………………………………………………………………………………..
ผู้เขียน: แอนเนท ลาฟไรห์เซน
ผู้แปล: อณรรฆวีร์ เติมสินสุข
จำนวนหน้า: 146 หน้า
สำนักพิมพ์: อมรินทร์ How To, สนพ.
เดือนปีที่พิมพ์: 6/2021
………………………………………………………………………………………………………..
.
.
Comments