top of page
  • Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิว Money Mindset



สรุป 20 ข้อคิดการเงินส่วนบุคคล จากหนังสือ Money Mindset

.

.

1. ปลายทางคือความมั่นคงทางการเงิน

ความมั่นคงทางการเงิน (financial stability) จะเกิดก็ต่อเมื่อ

1) มีรายได้ที่พอกินพอใช้ มีสภาพคล่องทางการเงินที่โอเค ครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้หมด

2) สะสมความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามแผนที่วางไว้

3) มีความพร้อมในการรับมือกับความเสี่ยง เมื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ก็ไม่ทำให้ชีวิตการเงินพังทลาย

.

2. มีสูตรบริหารเงินเป็นของตัวเอง

สามารถปรับอัตราส่วนเงินออม: เงินใช้จ่ายได้ตามใจชอบเช่น 5:95

หรือจะเป็น 10:90 หรือ 50: 50 ก็ได้ เอาที่พอไหว

.

นอกจากนี้ควรแบ่งตระกร้าเงินออกเป็น

- ตะกร้าเงินสำรองฉุกเฉิน ที่ควรมีไว้ขั้นต่ำสำหรับค่าใช้จ่าย 6 เดือน

- ตะกร้าเกษียณรวย ค่อย ๆ สะสมความมั่งคั่งอย่างปลอดภัย

- ตะกร้าเกษียณเร็ว ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อเพิ่มโอกาสเกษียณเร็วขึ้น

.

3. รายได้มาก ไม่ได้หมายความว่าจะมีความมั่งคั่งมาก

เพราะหลายคนเมื่อรายได้เยอะ ก็มีค่าใช้จ่ายเยอะตามไปด้วย

ความมั่งคั่ง เป็นเรื่องของการสะสมรายได้ที่เข้ามา และค่อย ๆ ต่อยอดลงทุนให้งอกเงย

.

แท้จริงแล้วรายได้คือ สิ่งที่เรามอบมูลค่าบางอย่างให้กับสังคมด้วยทักษะของเรา แล้วได้ตอบกลับมาเป็นตัวเงิน

รายได้จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้เราสะสมความมั่งคั่งได้มากกว่า

รายได้ที่มากยังช่วยให้เรามีโอกาสใช้ชีวิตได้ตามไลฟ์สไตล์ที่เราต้องการได้มากขึ้น

มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีเครดิตทางการเงินที่สูงขึ้น และนำไปสร้างหนี้ก้อนโตเพื่อลงทุนระยะยาวได้มากขึ้น

.

4. เก็บเงินไม่ต้องเยอะ แต่เน้นความสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความรู้สึก “ดีต่อใจ” ให้ตัวเอง

ออมเดือนละ 2% หรือ 3% ไม่สำคัญ

แต่ถ้าเราทำได้อย่างต่อเนื่อง เราจะมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น

รู้สึกภูมิใจที่เราเก็บออมเงินได้

ถ้าใครเป็นหนี้และต้องออมเงินเพื่อแก้หนี้

ความรู้สึกดีต่อใจตัวเองเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมันจะสร้างกำลังใจในระยะยาว

.

5. ตัดออมอัตโนมัติ 10% ในทันทีที่ได้เงินเดือน

อย่าใช้ก่อนแล้วออมทีหลัง

.

6. ก่อนจะตัดสินใจกู้หนี้ก่อนใหญ่เพื่อสร้างตัว เช่น กู้ซื้อบ้าน

ให้ลองถามตัวเองก่อนว่าเงินกู้ก้อนนี้จำเป็นจริง ๆ รึเปล่า เช่น ถ้าเราจะกู้ซื้อบ้าน เราจะยังอาศัยอยู่บ้านเช่าไปก่อนได้มั้ย

ถ้าจะซื้อรถ เราจำเป็นต้องซื้อรถราคาแพงจริงมั้ย

.

และต้องถามตัวเองด้วยว่าเราพร้อมที่จะชำระคืนได้หมดรึเปล่า

ถ้าเรามีรายได้ทางเดียวอยู่ เราควรจะหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มมั้ย

.

7. อย่าแก้ปัญหาทางการเงิน ด้วยการใช้อารมณ์ว่าอยาก “ตบหน้า” ใครบางคน

หลายคนโดนดูถูกว่าไม่มีทางหาเงินได้มาก ไม่มีทางประสบความสำเร็จได้

ต้องพึ่งญาติคนนั้นคนนี้

เลยเกิดความรู้สึกอยากแก้แค้น ตบหน้าคนพวกนั้น เมื่อตัวเองยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ และประสบความสำเร็จกว่าคนพวกนั้นแล้ว

.

จากประสบการณ์ตรงของโค้ชหนุ่มที่โดนมาแบบเดียวกัน

ตอนที่สำเร็จแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้อยากไปตบหน้าคนพวกนั้นอยู่ดี

เพราะความสุขจากความสำเร็จของตัวเองนั้นหอมหวานพออยู่แล้ว

ดังนั้นจงโฟกัสกับความสุขของตัวเองและครอบครัวของตัวเองดีกว่า

อย่าไปทำให้การอยากตบหน้าใคร มาทำให้ชีวิตการเงินของเราพังเลย

.

8. อย่าสร้างภาระหนี้ให้ลูก เพียงเพราะคำว่าอยากทิ้งมรดกไว้

เพราะถ้าตัวเองซื้อบ้านที่เป็นหนี้ระดับ 30-40 ปี แล้วผ่อนไม่ไหว สุดท้ายลูกตัวเองจะลำบาก

คุยเปิดอกกันตรง ๆ ดีกว่า

ลูกอาจไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายจากพ่อแม่ก็ได้

.

9. ทำความรู้จักกับ 5 วิธีคิดชนะหนี้

1) เชื่อเสมอว่าชีวิตไม่ได้เลวร้ายทุกวัน

แม้ในวันที่มีหนี้ เราก็ยังมีความสุขได้จากเรื่องอื่น ๆ มีงานทำ ค้าขายได้ แฟนตอบรับรัก

2) คิดว่าปัญหามันคุ้ม ที่จะสู้เพื่อเอาชนะมันได้

3) คิดไปข้างหน้า และคิดแบบมีคามหวังเสมอ

อย่าไปคิดแต่ว่า ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเป็นเรา

4) พาตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมที่สิ้นหวังบ้าง

5) เป็นนักฝัน แต่ฝันอย่างมีแผนการ

.

10. อย่าปล่อยให้หมดวัน โดยที่เราไม่ได้หว่านเมล็ดพันธุ์อะไรเพิ่มเติมเลย

เมล็ดพันธุ์หลายชนิดต้องอาศัยช่วงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ อย่าง แสงแดด น้ำ แร่ธาตุต่าง ๆ

เราต้องรู้จักรอเวลาที่เมล็ดพันธุ์ที่เราหว่านไว้จะงอกงาม

แต่จงอย่าปล่อยเวลาทิ้งไปเฉย ๆ โดยไม่ได้ทำอะไรเลย

จงคิดหาอะไรใหม่ ๆ และลงมือทำอะไรใหม่ ๆ ในทุกวัน

.

11. อย่าเอาหินในกระเป๋าคนอื่นมาใส่ในกระเป๋าเรา

การเดินทางสู่อิสรภาพทางการเงินเป็นการเดินทางอันยาวไกล

อย่าแบกของหนักโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะหินหนัก ๆ ที่เป็นของคนอื่น

.

12. ตระหนักอยู่เสมอว่า โชคร้ายอาจเกิดกับเราได้ในสักวัน

จงวางแผนเตรียมรับมือเรื่องร้าย ๆ ไว้เสมอ

ถ้าเกิดวันไหนเราโชคร้ายจริง จะได้ไม่มากระทบกับเรื่องเงิน ๆ ทองๆ ของเรา

.

13. กล้าใช้เงินบ้าง เพราะเงินคือปัจจัยสนับสนุนการมีชีวิตที่ดี ไม่ใช่เป้าหมาย

การสะสมเงินจึงเป็นการมุ่งสู่เป้าหมายเพื่อให้เรามีชีวิตในแบบที่ต้องการได้

ดังนั้นระหว่างทางจงใช้เงินบ้าง อย่าให้เรากลายเป็นคนกลัวไม่กล้าใช้เงินมากเกินไป

.

เงินที่หามาได้ ลองจัดสรรและวางแผนดี ๆ

บางส่วนก็เอามาตอบ Want ของเราได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องตอบเฉพาะ Need อย่างเดียว

และเมื่อใช้ไปแล้วก็อย่าไปคิดมาก

จงมีความสุขกับการใช้จ่ายของตัวเองอย่างเต็มที่

.

14. เมื่อถึงนาทีวิกฤต หรือในจังกหวะที่โอกาสเข้ามา

จงอย่าปิดโอกาสด้วยความคิดและคำพูดของตัวเอง

ถ้าลองทำได้ จงลอง

เริ่มเท่าที่ทำได้ และคว้าโอกาสนั้นมาให้เป็นของเรา

.

15. คุณสมบัติร่วมของคนสำเร็จในการเงิน 3 อย่างได้แก่

1) ความรับผิดชอบทางการเงิน (Money Responsibility)

รับผิดชอบต่อทุกปัญหาทางการเงินด้วยตัวเอง รวมไปถึงเป้าหมายของตัวเอง ไม่โทษปัจจัยแวดล้อม

2) ความรู้ทางการเงิน (Money Literacy)

ทั้งเรื่องการบริหารค่าใช้จ่าย การหารายได้ การออม การลงทุน การประกันความเสี่ยง รวมถึงเรื่องภาษี

3) วินัยทางการเงิน (Money Discipline)

ลงมือทำตามแผนการที่ตัวเองวางไว้อย่างสม่ำเสมอ

.

16. รู้แล้วไม่ทำ มีค่าเท่ากับไม่รู้

พวกคำคมที่เราเห็นตามโซเชียลมีเดีย จะสำคัญจริงก็ต่อเมื่อเราได้ลงมือทำตาม

.

17. การลงทุนไม่มี Best solution หรือคำตอบที่ดีที่สุด

มีแต่ Optimum solution ที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตแต่ละคน ตามเงื่อนไขชีวิตที่แตกต่างกัน

.

18. อะไรที่เหมาะกับตัวเรา ใช้แค่การเล็ง การมองอย่างเดียวไม่พอ

ต้องอาศัยการลองทำด้วย เราถึงจะได้รู้หัวใจตัวเองอย่างแท้จริง

.

19. สนุกไปกับการมีทั้ง Active Income และ Passive Income

อย่าเอาแต่สนใจสร้าง Passive Income จนปล่อยให้ชีวิตเป็นไปอย่างน่าเบื่อ

เพราะบางครั้ง Active Income ก็ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมใจได้จากคุณค่าที่เราได้สร้างด้วยการทำงานเพื่อผู้อื่น

ส่วน Passive Income ก็เป็นเครื่องทุ่นแรงเอาไว้ช่วยให้ชีวิตของเราไปต่อได้ ในวันที่เราเหนื่อยและอยากพัก

.

20. หมั่นเป็นกำลังใจให้กันและกัน

ในวันที่เราลำบาก สิ่งที่ต้องการมากที่สุดอาจเป็นกำลังใจดี ๆ จากคนรอบข้าง

ดังนั้นในวันที่เราเห็นคนอื่นลำบาก ก็จงอย่าลืมที่จะส่งกำลังใจดี ๆ ให้คนรอบข้างด้วยเช่นกัน

.

.

รีวิวสั้น ๆ หลังอ่าน

เป็นหนังสือโค้ชหนุ่มอีกเล่มที่แนะนำให้ทุกคนลองซื้ออ่านกันดู

เล่มนี้เป็นการเล่าเรื่องปรับ mindset ทางการเงินจากเคสการเงินต่าง ๆ ที่โค้ชหนุ่มเคยเจอมา

หนังสือมี 40 บท เป็น 40 เรื่องราวที่ให้ข้อคิดดี ๆ เกี่ยวกับ mindset ทางการเงิน

.

ถ้าถามว่าเล่มนี้ต่างจาก Money 101 ยังไง

ต้องบอกว่า เล่ม Money 101 ค่อนข้างเป็นพื้นฐานด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลมากกว่า

เล่ม Money Mindset เน้นไปที่เคสต่าง ๆ ซะมากกว่า และเป็นการเรียนรู้ผ่านเคสตัวอย่าง

ที่มีทั้งล้มเหลว และน่าชื่นชม

.

ความยาว 400 กว่าหน้า แต่อ่านแล้วไม่เบื่อเลย

หลายบทอ่านแล้วสร้างกำลังใจทางการเงินอย่างดีมาก จนอยากลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับการออกและการลงทุนของตัวเอง

สุดท้ายเรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้ทุกคนลองอ่านหนังสือแนวนี้ดูสักครั้งครับ

.

.

พิกัดสั่งซื้อ: https://shope.ee/20LdbqdMGZ

.

...............................................................................

ผู้เขียน: จักรพงษ์ เมษพันธุ์

จำนวนหน้า: 424 หน้า

สำนักพิมพ์: ซีเอ็ดยูเคชั่น, บมจ.

เดือนปีที่พิมพ์: 2022

...............................................................................

.

.

#หลังอ่าน #MoneyMindset




157 views0 comments
Post: Blog2_Post
bottom of page