top of page
Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิว Disneyland ทำอะไร ทำไมใคร ๆ ก็หลงรัก

Updated: Jun 16, 2022



13 เวทมนตร์การทำงานฉบับดิสนีย์

จากหนังสือ Disneyland ทำอะไร ทำไมใคร ๆ ก็หลงรัก

.

.

1) ถ้าท้อใจ ให้ลองทำตัวเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์

หลายคนอาจคิดว่า เจ้าหญิงดิสนีย์คือคนที่ทำตัวอ่อนแอ และเอาแต่รอให้เจ้าชายมาช่วย

แต่ความจริงแล้ว ตัวละครเจ้าหญิงดิสนีย์ทุกตัวล้วนถูกสร้างขึ้นมาให้คนเข้มแข็งที่กล้าเผชิญหน้ากับโชคชะตา

เช่น ซินเดอเรลล่า ที่ต้องอยู่กับแม่เลี้ยงใจร้าย และลูกพี่ลูกน้องที่คอยกลั่นแกล้งสารพัด

แต่เธอก็อดทน มีความหวัง และทำสิ่งตรงหน้าให้ดีที่สุด อย่างการตัดเย็บเศษผ้าเพื่อไปงานเลี้ยงเต้นรำ

.

ในบางจังหวะของชีวิต เราทุกคนก็อาจเป็นเหมือนเจ้าหญิงดิสนีย์ ที่ต้องเจอกับอุปสรรคและความท้อแท้

ถ้าเรายอมแพ้ต่อโชคชะตา ทุกอย่างก็คงจบ

แต่ถ้าเราลุกขึ้นสู้ ใช้ความเด็ดเดี่ยวของตัวเองยืนหยัดขึ้นมาเผชิญหน้ากับงานที่เป็นอุปสรรคตรงหน้าอย่างจริงจัง

เราก็จะค่อย ๆ เติบโตเป็นคนที่แกร่งขึ้น

และวันหนึ่งโอกาสดี ๆ ก็อาจวิ่งเข้ามาหาเรา เหมือนเจ้าชายที่ขี่ม้ามาหาเจ้าหญิงดิสนีย์ก็เป็นได้

.

.

2) คิดอยู่เสมอว่ากำลังแสดงโชว์

เวลาอยู่ในที่ทำงาน เราต้องตั้งใจทำงานให้เต็มที่

คิดอยู่เสมอว่า มีคนมองดูเราอยู่ เราจะเป็นตัวของตัวเองแบบที่ทำในเวลาส่วนตัวไม่ได้

ที่ดิสนีย์มีกฎที่เคร่งมาก เช่น ขนมในดิสนีย์ก็ต้องเป็น ขนมเวทมนตร์เท่านั้น

คนที่ทำงานในสวนสนุกดิสนีย์ก็ต้องพยายามทำให้แขกเห็นว่า ขนมทุกชิ้นคือขนมที่มีเวทมนตร์ จะมาเอายี่ห้อขนมจริงให้ดูคงไม่เหมาะสม

.

.

3) ทำสิ่งทีเหนือความคาดหมายให้อีกฝั่ง

เราล้วนต้องทำงานร่วมกับคนอื่น สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้การทำงานราบรื่นขึ้นได้

คือการมองหาวิธีทำให้คนใกล้ตัวมีความสุข

วิธีหนึ่งคือการทำให้เหนือความคาดหวังของอีกฝ่าย

.

เช่น ในสวนสนุกดิสนีย์ มีเด็กที่เล่นตุ๊กตาจนพังยับเยิน เดินมาขอให้พนักงานช่วยรักษาตุ๊กตาตัวนี้ให้หน่อย

แทนที่พนักงานจะไปเอาตุ๊กตาตัวใหม่มาให้

เธอเอาตุ๊กตาตัวเดิมไปเช็ดทำความสะอาด เย็บส่วนที่ขาดให้เรียบร้อย

แล้วบอกกับเด็กน้อยว่า ตุ๊กตาไปหาหมอมาเรียบร้อย

แม้สภาพตุ๊กตาจะไม่ได้ดูดีเท่าตัวใหม่ แต่ความประทับใจของเด็กน้อยคงมีมากกว่าหลายเท่านัก

.

.

4) ผ่อนคลายอยู่เสมอ อย่าจริงจังกับตัวเองมากเกินไป

โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญ ที่เรารู้สึกตื่นเต้น เราควรหาวิธีผ่อนคลายตัวเองไว้หลายวิธี

เพราะถ้าเรารู้สึกผ่อนคลาย คนอื่นก็จะรู้สึกผ่อนคลายด้วย และเราจะมอบความสุขให้คนอื่นได้มากกว่าตอนผ่อนคลาย

.

ดิสนีย์ใช้วิธีการสัมภาษณ์เพื่อเลือกพนักงานเข้าทำงาน โดยไม่ได้อ่านใบสมัครเลย

เพราะดิสนีย์อยากได้คนที่อยู่ด้วยแล้วผ่อนคลาย ไม่ตื่นเต้นกับการสัมภาษณ์มากเกินไป จนทำอะไรไม่ถูก

เพราะถ้าทำงานในดิสนีย์ แล้วมัวแต่ตื่นตระหนก จะทำให้แขกรู้สึกไม่ดีได้

คนที่เข้าสัมภาษณ์ทำงานกับดิสนีย์จึงมีแต่ความผ่อนคลาย และความรู้สึกดี ๆ หลังสัมภาษณ์ แม้จะได้หรือไม่ได้งานก็ตาม

.

.

5) คิดว่าทุกวันคือการทำงานวันแรก

เพราะเมื่อเราคิดถึงวันแรกของการทำงาน เราก็จะทำงานอย่างกระตือรือร้นได้ทันที

วันแรกที่เข้างาน เรามักตื่นเต้น มีพลังเต็มเปี่ยม และตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่

แต่ทำงานไปสักพักก็อาจเบื่อ และรู้สึกเฉย ๆ กับงานตรงหน้า

.

เราต้องคิดว่า แม้เราจะทำงานเดิมมานานแค่ไหน แต่สำหรับลูกค้า นี่เป็นวันพิเศษสำหรับพวกเขา

พวกเขาอาจมีวันแบบนี้แค่ไม่กี่วันในชีวิตก็ได้

เราจึงต้องเติมเต็มวันของพวกเขาให้ดีที่สุด

และทำเหมือนกับนั่นเป็นการแสดงโชว์ครั้งแรกของเราที่สุดจะพิเศษสำหรับตัวเราเองเช่นกัน

.

.

6) ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ ทำตัวเป็นคนอารมณ์ดีอยู่เสมอ ๆ

ความโกรธจริง ๆ แล้วอาจอยู่กับเรานานสุดแค่ 6 วินาที แล้วก็ผ่านพ้นไป

ถ้าเราคุมตัวเองไม่ได้ ให้ลองหายใจเข้าออกลึก ๆ ตั้งสติ ทำให้ใจตัวเองสงบลงให้ได้

คนที่อารมณ์ดีมักจะมีคนเข้าหา และมอบโอกาสดี ๆ ให้เสมอ

.

.

7) พูดเสียงสูงแบบมิกกี้ เมาส์

การที่มิกกี้ เมาส์มีเสียงสูง เป็นความตั้งใจของ วอลต์ ดิสนีย์

เพราะการใช้เสียงสูงจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีและสบายใจ

เหมือนเวลาเราพูดกับเด็กทารก หรือสัตว์เลี้ยง แล้วทำเสียงสอง

สำหรับผู้ใหญ่ เราอาจลองหาสถานการณ์ที่พูดเสียงสูงขึ้นนิดนึง เพื่อทำให้คนรอบข้างสบายใจ

คนอื่นก็จะชื่นชมตัวเรามากขึ้น

ส่วนโทนเสียงต่ำนั้น ใช้ตอนที่เราต้องการโน้มน้าวใจ หรือสร้างความไว้วางใจกับคนอื่น

.

.

8) แทนที่จะใส่ใจกับการพูด ให้ตั้งใจฟังเพิ่มเป็น 2 เท่า

ทักษะสำคัญอีกทักษะของพนักงานในดิสนีย์แลนด์คือ การตั้งใจฟังแขกอยู่เสมอ

เวลาพูดคุยกับแขก ไม่ใช่เราเป็นฝ่ายพูดอธิบายอย่างเดียว

แต่เราต้องตั้งใจรับฟัง และเปิดใจกับสิ่งที่แขกพูด

เราอาจได้เจอรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราและงานที่เราทำอยู่ได้

.

.

9) ถ้าจะตอบปฏิเสธ ให้เสนอแผนการอื่นควบคู่ไปด้วย

อย่าตอบปฎิเสธไปเฉย ๆ เพราะจะดูเหมือนการปัดความรับผิดชอบ และทำให้ภาพลักษณ์ของเราแย่ลง

อย่างน้อย ๆ เวลาเราเจอปัญหาที่เราไม่รู้จะแก้ยังไง เราควรพูดไปว่า เราจะตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม

แต่ถ้าให้ดีกว่า คือเสนอทางเลือกอื่นในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

.

.

10) สร้างความประทับใจด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่เจอกัน

รอยยิ้มจะช่วยเพิ่มความสนิทสนมเป็นกันเอง ไม่ว่าเราจะเดินเจอใครก็ตาม จงทักทายด้วยรอยยิ้มเสมอ

นอกจากนี้ อวัจนภาษาอื่น ๆ ก็มีส่วนช่วยอย่างมาก ในการทำให้คนอื่นประทับใจ

เช่น การพยักหน้าตามเวลาฟังคนอื่นพูด เพื่อแสดงความสนใจ

.

.

11) ลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

อาจเป็นสิ่งเล็ก ๆ ก็ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันจะค่อย ๆ กลายเป็นตัวเราที่ดีขึ้นเอง

ช่วงวัย 20 เป็นช่วงหนุ่มสาวที่เรามีกำลังวังชา มากพอที่จะเริ่มทำหลายสิ่งอย่าง

ให้ลองหลาย ๆ งาน จนได้เจองานที่เราสนใจ

พอถึงวัย 30 เราจะได้ใช้ประสบการณ์ สร้างความเชี่ยวชาญ และเริ่มพัฒนาการทำงานในแบบของตัวเองต่อไปได้

.

.

12) ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องบังเอิญ เราจึงต้องจัดการกับเรื่องบังเอิญตรงหน้าอย่างเต็มที่

มีคนกล่าวไว้ว่า 80% ของชีวิตการทำงานนั้นมีที่มาจากความบังเอิญที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ทั้งสิ้น

เราจึงควรใช้ประโยชน์จากเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นตรงหน้าให้ดีที่สุด

โดยยึดแนวทางในการ หมั่นสนใจใคร่รู้ อดทนรอเวลา มองโลกในแง่ดีเสมอ ยืดหยุ่นปรับตัวไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และกล้าเสี่ยงให้ถูกจังหวะ

.

.

13) ใช้เวทมนตร์แห่งการใส่ใจ

สุดท้ายแล้วเคล็ดลับของการทำงานที่ดิสนีย์อยู่ที่ “การใส่ใจ” คนอื่นนั่นเอง

การใส่ใจในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น

และทำให้การทำงานสนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดังนั้นลองเริ่มจากใส่ใจคนที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ดู

.

.

รีวิวสั้น ๆ หลังอ่าน

หนังสือเขียนโดย ซากุราอิ เอริโกะ อดีตผู้ฝึกอบรมพนักงานของดิสนีย์แลนด์ในญี่ปุ่น

ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นอาจารย์มหาลัย สอนด้านจิตวิทยา

ผู้เขียนเคยเทรนพนังานที่ดิสนีย์มาแล้วกว่าหนึ่งแสนคน

จึงเป็นคนที่เข้าใจปรัชญาการทำงานของดิสนีย์ดีมาก

และเธอก็เขียนถ่ายทอดออกมาผ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย

.

ส่วนตัวตอบได้เต็มปากเต็มคำว่าหนังสือมีความแปลกใหม่

และข้อคิดต่าง ๆ ที่หนังสือนำเสนอ ล้วนนำไปใช้ได้จริง

.

เคล็ดลับการทำงานที่มาจากดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกแห่งความสุขที่หลายคนเคยใฝ่ฝันอยากเข้าไปทำงาน

เป็นปรัชญาที่ว่าด้วยความใส่ใจในตัวคนอื่น ทั้งแขกผู้มาเที่ยวสวนสนุก และพนักงานด้วยกันเอง

หนังสือเขียนออกมาเป็นเคล็ดลับสั้น ๆ แต่ลึกซึ้ง พร้อมตัวอย่างประกอบที่ช่วยให้เห็นภาพมาก

.

เล่มนี้อ่านเพลินมาก ไม่หนาจนเกินไป ลองไปหาอ่านกันดูนะครับ

.

.

............................................................................................................

ผู้เขียน: ซากุราอิ เอริโกะ

ผู้แปล: ภัทรวรรณ ศรประพันธ์

จำนวนหน้า: 248 หน้า

สำนักพิมพ์: วีเลิร์น, สนพ.

............................................................................................................

.

สั่งซื้อหนังสือได้ที่

.

.

#หลังอ่าน #หนังสือควรอ่านก่อนอายุ30 #Disneylandทำอะไรทำไมใครๆก็หลงรัก



261 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page