13 เวทมนตร์การทำงานฉบับดิสนีย์
จากหนังสือ Disneyland ทำอะไร ทำไมใคร ๆ ก็หลงรัก
.
.
1) ถ้าท้อใจ ให้ลองทำตัวเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์
หลายคนอาจคิดว่า เจ้าหญิงดิสนีย์คือคนที่ทำตัวอ่อนแอ และเอาแต่รอให้เจ้าชายมาช่วย
แต่ความจริงแล้ว ตัวละครเจ้าหญิงดิสนีย์ทุกตัวล้วนถูกสร้างขึ้นมาให้คนเข้มแข็งที่กล้าเผชิญหน้ากับโชคชะตา
เช่น ซินเดอเรลล่า ที่ต้องอยู่กับแม่เลี้ยงใจร้าย และลูกพี่ลูกน้องที่คอยกลั่นแกล้งสารพัด
แต่เธอก็อดทน มีความหวัง และทำสิ่งตรงหน้าให้ดีที่สุด อย่างการตัดเย็บเศษผ้าเพื่อไปงานเลี้ยงเต้นรำ
.
ในบางจังหวะของชีวิต เราทุกคนก็อาจเป็นเหมือนเจ้าหญิงดิสนีย์ ที่ต้องเจอกับอุปสรรคและความท้อแท้
ถ้าเรายอมแพ้ต่อโชคชะตา ทุกอย่างก็คงจบ
แต่ถ้าเราลุกขึ้นสู้ ใช้ความเด็ดเดี่ยวของตัวเองยืนหยัดขึ้นมาเผชิญหน้ากับงานที่เป็นอุปสรรคตรงหน้าอย่างจริงจัง
เราก็จะค่อย ๆ เติบโตเป็นคนที่แกร่งขึ้น
และวันหนึ่งโอกาสดี ๆ ก็อาจวิ่งเข้ามาหาเรา เหมือนเจ้าชายที่ขี่ม้ามาหาเจ้าหญิงดิสนีย์ก็เป็นได้
.
.
2) คิดอยู่เสมอว่ากำลังแสดงโชว์
เวลาอยู่ในที่ทำงาน เราต้องตั้งใจทำงานให้เต็มที่
คิดอยู่เสมอว่า มีคนมองดูเราอยู่ เราจะเป็นตัวของตัวเองแบบที่ทำในเวลาส่วนตัวไม่ได้
ที่ดิสนีย์มีกฎที่เคร่งมาก เช่น ขนมในดิสนีย์ก็ต้องเป็น ขนมเวทมนตร์เท่านั้น
คนที่ทำงานในสวนสนุกดิสนีย์ก็ต้องพยายามทำให้แขกเห็นว่า ขนมทุกชิ้นคือขนมที่มีเวทมนตร์ จะมาเอายี่ห้อขนมจริงให้ดูคงไม่เหมาะสม
.
.
3) ทำสิ่งทีเหนือความคาดหมายให้อีกฝั่ง
เราล้วนต้องทำงานร่วมกับคนอื่น สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้การทำงานราบรื่นขึ้นได้
คือการมองหาวิธีทำให้คนใกล้ตัวมีความสุข
วิธีหนึ่งคือการทำให้เหนือความคาดหวังของอีกฝ่าย
.
เช่น ในสวนสนุกดิสนีย์ มีเด็กที่เล่นตุ๊กตาจนพังยับเยิน เดินมาขอให้พนักงานช่วยรักษาตุ๊กตาตัวนี้ให้หน่อย
แทนที่พนักงานจะไปเอาตุ๊กตาตัวใหม่มาให้
เธอเอาตุ๊กตาตัวเดิมไปเช็ดทำความสะอาด เย็บส่วนที่ขาดให้เรียบร้อย
แล้วบอกกับเด็กน้อยว่า ตุ๊กตาไปหาหมอมาเรียบร้อย
แม้สภาพตุ๊กตาจะไม่ได้ดูดีเท่าตัวใหม่ แต่ความประทับใจของเด็กน้อยคงมีมากกว่าหลายเท่านัก
.
.
4) ผ่อนคลายอยู่เสมอ อย่าจริงจังกับตัวเองมากเกินไป
โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญ ที่เรารู้สึกตื่นเต้น เราควรหาวิธีผ่อนคลายตัวเองไว้หลายวิธี
เพราะถ้าเรารู้สึกผ่อนคลาย คนอื่นก็จะรู้สึกผ่อนคลายด้วย และเราจะมอบความสุขให้คนอื่นได้มากกว่าตอนผ่อนคลาย
.
ดิสนีย์ใช้วิธีการสัมภาษณ์เพื่อเลือกพนักงานเข้าทำงาน โดยไม่ได้อ่านใบสมัครเลย
เพราะดิสนีย์อยากได้คนที่อยู่ด้วยแล้วผ่อนคลาย ไม่ตื่นเต้นกับการสัมภาษณ์มากเกินไป จนทำอะไรไม่ถูก
เพราะถ้าทำงานในดิสนีย์ แล้วมัวแต่ตื่นตระหนก จะทำให้แขกรู้สึกไม่ดีได้
คนที่เข้าสัมภาษณ์ทำงานกับดิสนีย์จึงมีแต่ความผ่อนคลาย และความรู้สึกดี ๆ หลังสัมภาษณ์ แม้จะได้หรือไม่ได้งานก็ตาม
.
.
5) คิดว่าทุกวันคือการทำงานวันแรก
เพราะเมื่อเราคิดถึงวันแรกของการทำงาน เราก็จะทำงานอย่างกระตือรือร้นได้ทันที
วันแรกที่เข้างาน เรามักตื่นเต้น มีพลังเต็มเปี่ยม และตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่
แต่ทำงานไปสักพักก็อาจเบื่อ และรู้สึกเฉย ๆ กับงานตรงหน้า
.
เราต้องคิดว่า แม้เราจะทำงานเดิมมานานแค่ไหน แต่สำหรับลูกค้า นี่เป็นวันพิเศษสำหรับพวกเขา
พวกเขาอาจมีวันแบบนี้แค่ไม่กี่วันในชีวิตก็ได้
เราจึงต้องเติมเต็มวันของพวกเขาให้ดีที่สุด
และทำเหมือนกับนั่นเป็นการแสดงโชว์ครั้งแรกของเราที่สุดจะพิเศษสำหรับตัวเราเองเช่นกัน
.
.
6) ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ ทำตัวเป็นคนอารมณ์ดีอยู่เสมอ ๆ
ความโกรธจริง ๆ แล้วอาจอยู่กับเรานานสุดแค่ 6 วินาที แล้วก็ผ่านพ้นไป
ถ้าเราคุมตัวเองไม่ได้ ให้ลองหายใจเข้าออกลึก ๆ ตั้งสติ ทำให้ใจตัวเองสงบลงให้ได้
คนที่อารมณ์ดีมักจะมีคนเข้าหา และมอบโอกาสดี ๆ ให้เสมอ
.
.
7) พูดเสียงสูงแบบมิกกี้ เมาส์
การที่มิกกี้ เมาส์มีเสียงสูง เป็นความตั้งใจของ วอลต์ ดิสนีย์
เพราะการใช้เสียงสูงจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีและสบายใจ
เหมือนเวลาเราพูดกับเด็กทารก หรือสัตว์เลี้ยง แล้วทำเสียงสอง
สำหรับผู้ใหญ่ เราอาจลองหาสถานการณ์ที่พูดเสียงสูงขึ้นนิดนึง เพื่อทำให้คนรอบข้างสบายใจ
คนอื่นก็จะชื่นชมตัวเรามากขึ้น
ส่วนโทนเสียงต่ำนั้น ใช้ตอนที่เราต้องการโน้มน้าวใจ หรือสร้างความไว้วางใจกับคนอื่น
.
.
8) แทนที่จะใส่ใจกับการพูด ให้ตั้งใจฟังเพิ่มเป็น 2 เท่า
ทักษะสำคัญอีกทักษะของพนักงานในดิสนีย์แลนด์คือ การตั้งใจฟังแขกอยู่เสมอ
เวลาพูดคุยกับแขก ไม่ใช่เราเป็นฝ่ายพูดอธิบายอย่างเดียว
แต่เราต้องตั้งใจรับฟัง และเปิดใจกับสิ่งที่แขกพูด
เราอาจได้เจอรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราและงานที่เราทำอยู่ได้
.
.
9) ถ้าจะตอบปฏิเสธ ให้เสนอแผนการอื่นควบคู่ไปด้วย
อย่าตอบปฎิเสธไปเฉย ๆ เพราะจะดูเหมือนการปัดความรับผิดชอบ และทำให้ภาพลักษณ์ของเราแย่ลง
อย่างน้อย ๆ เวลาเราเจอปัญหาที่เราไม่รู้จะแก้ยังไง เราควรพูดไปว่า เราจะตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม
แต่ถ้าให้ดีกว่า คือเสนอทางเลือกอื่นในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
.
.
10) สร้างความประทับใจด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่เจอกัน
รอยยิ้มจะช่วยเพิ่มความสนิทสนมเป็นกันเอง ไม่ว่าเราจะเดินเจอใครก็ตาม จงทักทายด้วยรอยยิ้มเสมอ
นอกจากนี้ อวัจนภาษาอื่น ๆ ก็มีส่วนช่วยอย่างมาก ในการทำให้คนอื่นประทับใจ
เช่น การพยักหน้าตามเวลาฟังคนอื่นพูด เพื่อแสดงความสนใจ
.
.
11) ลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
อาจเป็นสิ่งเล็ก ๆ ก็ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันจะค่อย ๆ กลายเป็นตัวเราที่ดีขึ้นเอง
ช่วงวัย 20 เป็นช่วงหนุ่มสาวที่เรามีกำลังวังชา มากพอที่จะเริ่มทำหลายสิ่งอย่าง
ให้ลองหลาย ๆ งาน จนได้เจองานที่เราสนใจ
พอถึงวัย 30 เราจะได้ใช้ประสบการณ์ สร้างความเชี่ยวชาญ และเริ่มพัฒนาการทำงานในแบบของตัวเองต่อไปได้
.
.
12) ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องบังเอิญ เราจึงต้องจัดการกับเรื่องบังเอิญตรงหน้าอย่างเต็มที่
มีคนกล่าวไว้ว่า 80% ของชีวิตการทำงานนั้นมีที่มาจากความบังเอิญที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ทั้งสิ้น
เราจึงควรใช้ประโยชน์จากเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นตรงหน้าให้ดีที่สุด
โดยยึดแนวทางในการ หมั่นสนใจใคร่รู้ อดทนรอเวลา มองโลกในแง่ดีเสมอ ยืดหยุ่นปรับตัวไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และกล้าเสี่ยงให้ถูกจังหวะ
.
.
13) ใช้เวทมนตร์แห่งการใส่ใจ
สุดท้ายแล้วเคล็ดลับของการทำงานที่ดิสนีย์อยู่ที่ “การใส่ใจ” คนอื่นนั่นเอง
การใส่ใจในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น
และทำให้การทำงานสนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้นลองเริ่มจากใส่ใจคนที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ดู
.
.
รีวิวสั้น ๆ หลังอ่าน
หนังสือเขียนโดย ซากุราอิ เอริโกะ อดีตผู้ฝึกอบรมพนักงานของดิสนีย์แลนด์ในญี่ปุ่น
ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นอาจารย์มหาลัย สอนด้านจิตวิทยา
ผู้เขียนเคยเทรนพนังานที่ดิสนีย์มาแล้วกว่าหนึ่งแสนคน
จึงเป็นคนที่เข้าใจปรัชญาการทำงานของดิสนีย์ดีมาก
และเธอก็เขียนถ่ายทอดออกมาผ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย
.
ส่วนตัวตอบได้เต็มปากเต็มคำว่าหนังสือมีความแปลกใหม่
และข้อคิดต่าง ๆ ที่หนังสือนำเสนอ ล้วนนำไปใช้ได้จริง
.
เคล็ดลับการทำงานที่มาจากดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกแห่งความสุขที่หลายคนเคยใฝ่ฝันอยากเข้าไปทำงาน
เป็นปรัชญาที่ว่าด้วยความใส่ใจในตัวคนอื่น ทั้งแขกผู้มาเที่ยวสวนสนุก และพนักงานด้วยกันเอง
หนังสือเขียนออกมาเป็นเคล็ดลับสั้น ๆ แต่ลึกซึ้ง พร้อมตัวอย่างประกอบที่ช่วยให้เห็นภาพมาก
.
เล่มนี้อ่านเพลินมาก ไม่หนาจนเกินไป ลองไปหาอ่านกันดูนะครับ
.
.
............................................................................................................
ผู้เขียน: ซากุราอิ เอริโกะ
ผู้แปล: ภัทรวรรณ ศรประพันธ์
จำนวนหน้า: 248 หน้า
สำนักพิมพ์: วีเลิร์น, สนพ.
............................................................................................................
.
สั่งซื้อหนังสือได้ที่
.
.
#หลังอ่าน #หนังสือควรอ่านก่อนอายุ30 #Disneylandทำอะไรทำไมใครๆก็หลงรัก
Comments