top of page
Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิว 11 เคล็ดลับทะยานสู่ความมั่งคั่งในยุค NEXT NORMAL




รีวิว 11 เคล็ดลับทะยานสู่ความมั่งคั่งในยุค NEXT NORMAL

.

.

‘บ้านที่ขาดเสาเข็มไม่นานคงล้มตึง ระเนระนาด คล้ายคนที่ขาดหลักยึด จะยืนอยู่ได้อย่างไร’

.

โดยรวมแล้วเป็นหนังสือที่นำหลักพุทธศาสนามาผสานเข้ากับคู่มือการใช้ชีวิต เพื่อให้ชีวิตเราทะยานสู่ความมั่งคั่งในโลกยุค New Normal

.

ซึ่งแน่นอนว่าอีกไม่นาน New Normal ที่ว่าก็จะกลายเป็น Next Normal ที่เป็นสิ่งที่พบเจอได้ธรรมดาทั่วๆไปแล้ว

.

ส่วนความมั่งคั่งที่หนังสือกล่าวถึงก็ไม่ใช่เพียงแค่ ความมั่งคั่งด้านสินทรัพย์และความร่ำรวยทางการเงิน แต่เป็นความมั่งคั่งภายในจิตใจของเรา ซึ่งรวมถึง ความร่ำรวยทางความสุข และการให้

.

หนังสือแบ่งออกเป็น เคล็ดลับ 11 ข้อ ซึ่งแต่ละข้อมีใจความหลักที่เข้ากับยุคสมัย แต่สามารถนำมาผูกเชื่อมกับหัวใจของพระพุทธศาสนาอย่างลงตัว

.

สำหรับคนที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในทางศาสนา อ่านๆแล้วอาจมีส่วนที่ไม่เก็ทบ้าง งงๆบ้าง แต่ด้วยความที่หนังสือผูกโยงกับเคล็ดลับทั่วๆไปในการใช้ชีวิตอยู่แล้ว จึงน่าจะพอเกลาๆคอนเซ็ปต์ได้

.

ตัวแอดมินเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนาพุทธ ความรู้ที่มีอันน้อยนิดก็ได้ถูกเพิ่มเติมบ้างจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ แต่แน่นอนว่าอาจจะไม่ใช่คนที่สรุปเนื้อหาในหนังสือออกมาได้ดีที่สุด แต่ยังไงก็ยังอยากจะมาป้ายยาทุกคนอยู่ดีครับ

.

สรุปแบบคร่าวๆกับเคล็ดลับ 11 ข้อสู่ความมั่งคั่งทางจิตใจในโลกยุค Next Normal

.

เคล็ดลับที่ 1: รู้จักตัวเอง

.

เริ่มจากการหมั่นตั้งคำถามกับตัวเองก่อน ว่า

1) เราเกิดมาเพื่ออะไร

2) ชีวิตของเราที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง และเราได้ทำประโยชน์อะไรบ้างทั้งต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น และต่อสังคม

3) เมื่อเวลาเราตาย เราจะเอาอะไรกลับไปได้บ้าง

4) อะไรที่เราอยากเห็นในตัวเอง ก่อนตาย

.

การรู้จักตัวเองมักจะเป็นขั้นตอนแรกในทางพุทธจิตวิทยา เพื่อช่วยให้เราได้ตระหนักได้ว่าเราเป็นคนกำหนดเส้นทางการเดินของตัวเอง และถ้าเราเข้าใจมันดี เราก็จะทำมันออกมาได้ง่ายที่สุด

.

การรู้จักตัวเองในทางพุทธจิตวิทยายังครอบคลุมในหลายแง่มุม

- ทั้ง ‘รูปขันธ์’ หรือการรู้จักร่างกายของเราเอง

- ‘นามขันธ์’ หรือการรู้จักจิตใจของเราเอง ซึ่งรวมถึงการรับรู้ จดจำ และคิดแยกแยะสิ่งที่รู้สึกหรือจดจำได้ ซึ่งเป็นสาเหตุของความทุกข์ทั้งปวง

- ‘วิญญาณขันธ์’ หรือการรับรู้อารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นแล้วมากระทบจิตใจเรา

.

วิธีหนึ่งที่หนังสือแนะนำคือ ถ้าเราเริ่มตระหนักรู้ถึงความต้องการของตัวเองแล้วให้จดบันทึกไว้ แล้วลองมาเปิดอ่านบ่อยๆเพื่อทบทวนให้ระลึกถึงความหมายของชีวิตตัวเองไว้เสมอๆ

.

.

เคล็ดลับที่ 2: ทำวันนี้ให้มีความสุข

.

ความสุขในทางพุทธศาสนาแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับได้แก่

.

1) กามสุข หรือความสุขทางกาย

เป็นความสุขเบื้องต้นของมนุษย์เกิดจากการได้มีสิ่งที่อยากมี เป็นในสิ่งที่อยากเป็น รวมถึงความปรถนา ความใคร่ต่างๆในชีวิตประจำวันของเรา

.

2) ฌานสุข หรือความสุขที่เกิดจากการตั้งสมาธิที่แน่วแน่ และมีจิตใจที่มั่นคง ตั้งอยู่ในฌาน

.

3) นิพพานสุข ซึ่งเป็นสภาวะที่จิตใจเราปลอดโปร่ง เป็นอิสระจากความทุกข์ร้อนและวิตกกังวลทั้งหลายทั้งปวง

.

แน่นอนว่าหลายๆครั้งความสุขที่เราได้มาอยู่เพียงแค่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว เพราะมันเป็นความสุขแบบกามสุขหรือความสุขทางกายในระยะสั้นๆ

.

เราควรตั้งเป้าให้สามารถข้ามพ้นไปสู่นิพพานสุข หรือความสุขที่แท้จริงที่ไม่ยึกติดกับกิเลส ปล่อยว่างสิ่งต่างๆออกจากตัว และมีใจที่สุขสงบ

.

มีหลายเทคนิคที่หนังสือแนะนำในการค้นพบนิพพานสุขของตน เริ่มจากการกำหนดจิตอยู่กับปัจจุบันขณะ ยอมรับในตัวเอง ตามหาเป้าหมายของชีวิตที่ชัดเจน มองหาวิธีการ และบริหารความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างสม่ำเสมอ

.

.

เคล็ดลับที่ 3: ลับคมคิดในวันที่มีการเปลี่ยนแปลง

.

แน่นอนว่าในยุคสมัย Next Normal มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งโลกภายนอกที่หมุนตามเทคโนโลยี โรคระบาดและเทรนด์ต่างๆ รวมถึงแนวคิดของคนในสังคมที่มีแนวคิดใหม่ๆผุดออกมาทุกวัน

.

หนังสือแนะนำ 2 วิธีหลักๆในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

1) หยุดความคิดลบ

มักเป็นเรื่องปกติที่เวลาเราพบเจอกับความเปลี่ยนแปลง ความกลัวและความกังวลมักจะเข้ามาครอบงำเรา

.

เราจึงต้องรู้จักหยุดความคิดเหล่านั้นไว้ที่นั่น อย่าให้มันลุกลาม

.

มีหลายวิธีที่หยุดความคิดลบได้ ไม่ว่าจะเป็น การตะโกนออกมาดังๆให้ได้สติ การกำหนดลมหายใจเข้าออกเพื่อเรียกสติตัวเองคืนมา การเดินไปสูดอากาศด้านนอกอาคาร รับแสงแดดอ่อนๆ การขยับร่างกายและเปลี่ยนกริยาท่าทางที่ทำอยู่

.

2) เปลี่ยนมุมมองใหม่ (reframing)

พยายามมองหาคุณค่าจากสิ่งที่ผ่านมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลบหรือบวก

.

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงหลายๆครั้งอาจนำมาซึ่งสิ่งที่เราไม่อยากได้ แต่ถ้าเราเชื่อว่าทุกสิ่งล้วนสอนบทเรียนให้เราได้ เราก็อาจพยายามมองหาคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นจนเจอ

.

.

เคล็ดลับที่ 4: ทำงานที่ทรงพลัง

.

มองหางานที่มีคุณค่า ลงมือทำอย่างเต็มที่ด้วยเส้นทางที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม

.

ลองมองหาดูว่าเราทำงานไปเพื่ออะไร งานของเราสร้างคุณค่าให้ใครบ้าง แล้วเราต้องพัฒนาทักษะใดบ้างถึงจะตอบโจทย์งานเหล่านั้นได้

.

.

เคล็ดลับที่ 5: กัลยาณมิตรในโลกใหม่

.

ความมั่งคั่งทางจิตใจของเราเองก็หนีไม่พ้นที่จะมีส่วนประกอบคือคนรอบๆตัวเรา เราจึงควรหมั่นมองหากัลยาณมิตรดีๆไว้เสมอ

.

ถ้าในทฤษฎีของเพลโตสมัยกรีกโบราณ เราอาจแบ่งความรัก และมิตรภาพออกได้เป็น 3 ระดับใหญ่ๆ ได้แก่

1. Eros หรือความรักแบบปราถนา เป็นความรักที่เราต้องการครอบครองสิ่งๆนั้น คนๆนั้น

.

2. Philia หรือ ความรักแบบครอบครัวและแบบเพื่อน ไม่มีความปราถนาที่จะครอบครองมาเกี่ยวข้อง แต่คงไว้ซึ่งความเคารพในตัวบุคคลหรือสถาบันต่างๆ

.

3. Agape หรือความรักระดับปัญญา เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข เป็นความรักสูงสุดในทางศาสนาที่คนมีความรักพร้อมจะเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง

.

แน่นอนว่า กัลยณมิตรที่ดดีต้องไม่ใช่เพียงแบบ Eros แต่ต้องความรักในแบบครอบครัว แบบเพื่อน และอยากให้อีกฝ่ายอย่างแท้จริง

.

เราจึงควรค้นหากัลยาณมิตรที่ดีไว้ข้างตัว แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องหมั่นสำรวจตัวเราเองให้ทำตัวเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อผู้อื่นด้วย

.

.

เคล็ดลับที่ 6: โลกใหม่ อารมณ์ใหม่

.

มี 2 เทคนิคพิเศษที่ทำให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในโลกยุคใหม่

.

1) รู้จักซาบซึ้ง สร้างพลังเชิงบวก

รู้จักขอบคุณสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ตื่นเช้าด้วยอารมณ์เชิงบวกเพื่อกำหนดมูดแอนด์โทนของวันนั้น และออกมารับแสงแดดจ้าๆบ้าง

.

2) มีสติรับมือกับอารมณ์เชิงลบที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง

ทั้งความกลัว ความโกรธ แม้กระทั่งความตื่นเต้นก็ล้วนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การรู้จักมีสติรู้เท่าทันอารมณ์เหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

.

มีหลายวิธีมากในการช่วยเรียกสติตัวเองกลับมาทั้งการหยิกตัวเองเบาๆ ไปจนถึงการตบหน้าตัวเองเพื่อให้ได้สติ

.

.

เคล็ดลับที่ 7: การจัดการเวลา

.

เวลาคือทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุขในโลกยุคใหม่ เราจึงต้องใช้เวลาของเราอย่างคุ้มค่าที่สุด

.

5 ขั้นตอนง่ายๆที่หนังสือแนะนำคือ

1) Prioritising – จัดลำดับความสำคัญของงานแต่ละชิ้น ตามเป้าหมายของตัวเรา

2) Organising – วางแผนสิ่งที่จะทำในแต่ละวัน

3) Streaming – พิจารณาดูว่าสิ่งไหนควรทำอย่างไร

4) Economising – จัดเวลาในแต่ละวันเพื่อทำสิ่งต่างๆให้เกิดประสิทธิภาพ

5) Contributing – เวลาทำอะไรก็ตาม ให้ทำอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง ผู้อื่น และสังคม

.

และที่สำคัญที่สุดคือ จงจำไว้ว่าเวลาที่มค่ามากที่สุดคือ ปัจจุบัน

.

.

เคล็ดลับที่ 8: สันติสุขจรรโลงจิตเมื่อความคิดไม่เหมือนเดิม

.

‘สันติสุข’ หมายถึง ความสบายทางใจ ปลอดโปร่ง ร่มเย็น มีความเบา ปราศจากความทุกข์ ความกังวลและกิเลสต่างๆ

.

ชีวิตที่ดีที่สุด อาจเป็นชีวิตที่ สงบ ร่มเย็น และเป็นประโยชน์

.

การจะนำมาซึ่งความสงบทางใจและสันติสุขนั้น เราต้องเข้าใจกฏไตรลักษณ์ หรือลักษณะทางธรรมชาติ 3 ประการได้แก่

1) อนิจจัง – ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

2) ทุกขัง – มีความทุกข์ซ่อนอยู่ในทุกๆอย่าง แม้แต่ตอนที่เรามีความสุข ก็ยังมีความทุกข์ซ่อนอยู่ เพราะเราจะกลัวที่จะสูญเสียมันไป

3) อนัตตา - การไม่มีตัวตน ความว่างเปล่า ตรงข้ามกับ อัตตาหรืออีโก้ที่ทำให้เราหยิ่งผยอง

.

การเข้าใจไตรลักษณ์จะเป็นการเตรียมความพร้อมให้จิตใจเราเข้มแข็ง พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่

.

วิธีหนึ่งที่หนังสือแนะนำมากๆคือการเขียนบันทึกสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในวันแต่ละวัน 3 อย่างก่อนนอน ทำทุกๆวันสัก 30 วันแล้วสังเกตดูการเปลี่ยนแปลง

.

.

เคล็ดลับที่ 9: สร้างภาวะผู้นำในตัวเอง

.

หลังจากที่เรารู้จักตัวเองอย่างถ่องแท้แล้ว เราก็สามารถพัฒนาภาวะผู้นำในตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปได้

.

เทคนิคที่หนังสือแนะนำเพิ่มเติมคือ การรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆรวมถึง

- รู้หลักการและเหตุ

- รู้จุดหมายและผล

- รู้จักสถานะและความพร้อมของตน

- รู้ประมาณ รู้ขอบเขต รู้จักความพอดี

- รู้เวลา

- รู้ชุมชน รู้สังคม

- รู้จักบบุคคลที่เกี่ยวข้อง คนรอบตัว เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกค้า และคนอื่นๆ

.

.

เคล็ดลับที่ 10: การตระหนักรู้

.

เคล็ดลับนี้รวมการฝึกจิตให้เข้าใจตัวเอง ผู้อื่น สังคม ความเชื่อมโยงของสรรพสิ่งต่างๆตามธรรมชาติ โครงสร้าง องค์ประกอบ เหตุปัจจัยของทุกสิ่ง และการดำเนินไปของกฎแห่งกรรม

.

.

เคล็ดลับที่ 11: พัฒนาใจให้ก้าวทันยุคเพื่อความมั่งคั่งอันเหลือเฟือ

.

เป็นบทสรุปที่ทบทวนเคล็ดลับในข้ออื่นๆ ตั้งแต่เข้าใจตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างมีสติ หมั่นทบทวนอารมณ์ตัวเองอยู่เสมอ และค้นหาคุณค่าในตัวเองที่สามารถส่งต่อให้ผู้อื่นและสังคมได้

.

.

โดยรวมแล้วหนังสือมีความเป็นวิชาการมากระดับหนึ่ง แต่สามารถแสดงการเชื่อมโยงหลักพุทธจิตวิทยาและหลักการทางพุทธศาสนากับการดำเนินชีวิตในยุค New Normal ได้ดีมากครับ


.

.

.

.

.

…………………………………………………………………………………………

ผู้เขียน: พรรณทิพา ชเนศร์

สำนักพิมพ์: ไรเตอร์โซล

หมวดหมู่: จิตวิทยา การพัฒนาตัวเอง,

จำนวนหน้า: 248 หน้า

เดือนปีที่พิมพ์: 2021

…………………………………………………………………………………………

.

.

สั่งซื้อหนังสือได้ที่:

.

.

#หลังอ่าน #หนังสือควรอ่านก่อนอายุ30 #11เคล็ดลับทะยานสู่ความมั่งคั่งในยุคNEXTNORMAL




84 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page