top of page
Writer's pictureหลังอ่าน: รีวิวหนังสือ

รีวิวหนังสือ: The Internet of Things: อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง

รีวิว The Internet of Things: อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง

. ….... สัปดาห์นี้ลองหยิบหนังสือแนวอื่นมารีวิวบ้างนะครับ เป็นหนังสือเกี่ยกับเทคโนโลยีที่จัดว่าเป็น disruptive technology ตัวแรกที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งก็คือ the Internet of Things (IoT) หรือ อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง หรือจะเรียกว่าอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งก็ยังได้ หนังสือเล่มนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีตัวนี้ได้ดีเลยครับ โดยเฉพาะ quote หลักของหนังสือที่อกว่า ‘คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่า the Internet of Things จะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะเทคโนโลยีนี้ได้เริ่มเข้ามาในชีวิตของพวกเราแล้ว และจะเปลี่ยนแปลงพ้นฐานการใช้ชีวิตและการทำงานของทุกคนอย่างแน่นอน คำถามจึงอยู่ที่ว่า เราจะปรับตัวและรับมือกับการ disrupt ของเทคโนโลยีนี้อย่างไร . …. เป็นที่น่าเสียดายว่าสำนักพิมพ์ Openworlds ได้ทำการปิดตัวลงอย่างเป็นทางการไปเมื่อปีที่แล้ว ทำให้หนังสือที่นำมารีวิวของสำนักพิมพ์นี้ก็จะไม่ได้อับเดทใหม่ล่าสุดขนาดนั้น แต่ผมยังคิดว่าเนื้อหานั้นยังทันสมัยและมีประโยชน์ต่อผู้อ่านหลายๆกลุ่มอยู่ครับ . ….. เล่มนี้จะถือว่าจัดเป็นหนังสือสารคดีก็ว่าได้ เพราะเนื้อหาจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ IoT ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยีนี้ ระบบการใช้งานว่าเทคโนโลยีนี้ทำงานยังไง ตลอดจนการนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ และการคาดการณ์เหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต . .... [เนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ]….. …. the Internet of Things (IoT) คืออะไร คำตอบง่ายๆก็คงจะเป็น การที่ทุกสิ่งอย่างถูกเชื่อมด้วยอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถที่จะส่งถ่ายข้อมูลระหว่างกันได้อย่างรวดเร็วในแบบ real time ….. กลไกเบื้องหลังที่ทำให้เกิดเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาได้คงหนีไม่พ้น ระบบฝังตัว หรือ Embedded System ที่ฝัง sensors ในอุปกรร์อิเล้กทรอนิกส์นั้นๆ แล้วคอยส่งสัญญาณไปยังมือถือของเจ้าของ เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น เช่น ระบบที่ฝังตัวในตู้เย็นก็จะคอยส่งสัญญาณไปเตือนเจ้าของว่า ไข่ไก่กำลังจะหมด เป็นต้น …… เทคโนโลยีsensors ที่ชื่อว่า RFID (Radio-frequency identification)นี้เองที่จัดเป็นพื้นฐานของการทำงานของ IoT เพราะมันเป็นตัวจับสัญญาณจากอุปกรณ์ต่างๆที่ส่งหากันในระยะไกล และทำให้มันพูดคุยกันได้ โดย Kevin Ashton บิดาแห่ง Internet of Things ผู้ทำให้เกิดนิยามคำว่า IoT ได้อธิบายสั้นๆไว้ว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ติด RFID และสามารถพูดคุยกันได้ผ่านอินเทอร์เน็ต นั้นเองที่เรียกว่าเป็น “Things” ….. ต่อมาพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ถูกผลิตออกมาจัดจำน่ายไปทั่วโลก และถูกเรียกว่า ‘Smart’ เราจึงอาจคุ้นเคยกับคำว่า ‘Smart’ ในชีวิตประจำวันของเรา เช่น ‘Smart Phone’, ‘Smart Watch’, ‘Smart Home’, ‘Smart Grid’ จนไปถึง ‘Smart City’ จริงๆแล้วความหมายของคำว่า ‘Smart’ นั้นก็คือ อุปกรณ์เหล่านั้นถูกติดตั้งเทคโนโลยี RFID ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับ Internet ได้ และทำให้อุปกรณ์เหล่านี้สามารถเชื่อมต่อเข้ากันเองได้ด้วย . …….. เทคโนโลยี IoT สามารถนำมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆอีกหลายประเภท โดยเฉพาะ Cloud Computing และ big Data โดยการที่อุปกรณ์ที่มี IoT นั้นสามารถส่งถ่ายข้อมูลผ่าน Internet ได้ตลอดเวลา ข้อมูลเหล่านั้นจึงถูกเก็บไว้ใน Cloud (หรือระบบเก้บและประมวลผลข้อมูลออนไลน์ ที่เราเห็นในชีวิตประจำวัน ก็เช่น Google Drive, Dropbox เป็นต้น) และเมื่อมีข้อมูลเหล่านี้เป็นจำนวนที่มากขึ้น องค์กรหรือบริษัทที่เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ ก็สารถเอาข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหา Consumer Insight หรือ ข้อมูลเชิงลึกของผู้ปริโภคได้ การรวมกันของเทคโนโลยีเหล่านี้จึงจำเป็นและสำคัญมากๆ ทั้งต่อภาคเอกชนในการผลิตและขายสินค้าให้ตรงตามความ้ตองการของลูกค้า และภาครัฐที่ต้องออกมาตรการหรือวางแผนกลยุทธ์เพื่อจะพัฒนาประเทศชาติต่อไป การนำข้อมูลที่มีมาทำให้เกิดประโยชน์นี้เองที่ผู้เขียน Samuel เรียกว่าเป็นการทำ data mining . ….. ว่ากันด้วยเรื่องของประโยชน์เบื้องต้นของ IoT คงจะหนีไม่พ้น การเก็บข้อมูลที่มีความแม่นยำมากขึ้น การช่วยลดต้นทุนการผลิต และการทำงานที่สะดวกสบายจากการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ตในอุปกรณ์ต่างๆ แต่จริงๆแล้วการประยุกต์ใช้ IoT นั้นมีมากมายหลายหลากกว่าประโยชน์พวกนี้มาก ….. ตัวอย่างเช่น ในวงการเกษตรกรรม มีการนำ IoT มา adopt ใช้ในการผลิตพืชผลทางการเกษตร วิธีก็ง่ายๆคือเอาตัว device ทีมีระบบเซ็นเซอร์มาติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆในแปลงเกษตรตั้งแต่ เริ่มหว่านเมล็ด รดน้ำ ให้ปุ๋ย การเก็บเกี่ยว เพื่อให้เกิดการส่งข้อมูลแบบ real-time ของเซ็นเซอร์เหล่านี้ไปยังจอ monitor ของเกษตรกร ทำให้เกษตรรับรู้ถึงข้อมูลประเภท วามชื้นในอากาศ ความชื้นในดิน อุณหูภูมิ ปริมาณน้ำฝน แมลงศัตรูพืช ได้ตลอดเวลา และแก้ไขปัญหาได้ทันก่อนที่ปัญหาจะบานปลาย จึงถือเป็นการที่ลด loss ลงและเพิ่ม productivity (ผลิตผล) ให้กับเกษตรกรอย่างมาก ….. วงการแพทย์เองก็เช่นกัน มีการนำ IoT มาพัฒนาเป็นระบบ telemedicine ซึ่งทำให้แพทย์ที่อยู่ณ สถานที่ A สามารถผ่าตัดคนไข้ที่อยู่ ณ สถานที่ B ได้ แม้ระยะทางระหว่างสถานที่ทั้งสองจะอยู่ห่างกันเป็นพันไมล์ ……. มองไปในอนาคตมากขึ้น sensor ของ IoT อาจถูกนำมาใส่ลงไปในเม็ดยา แล้วเข้าไปอยู่ในกระเพาะของคนเรา แล้ว sensor เหล่านี้จะส่งสัญญาณคอยบอกว่า เวลาใดที่เราควรกินยา หรือยาชนิดใดที่เราควรกินเพื่อเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ณ เวลานั้นมากที่สุด … กลับมาที่การนำ IoT มาใช้ในสถานการณ์ที่ดูใกล้ตัวเราที่สุด จินตนาการถึงฉากการใช้ชีวิตหนึ่งวันในชีวิตของคนๆหนึ่ง ที่มีชิวิตอยู่กับเทคโนโลยี IoT’ ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ตื่นนอนปุ๊ปก็โดนโดนสายรัดข้อมือFitbit สั่งให้ปลุก ใช้application บนมือถือเพื่อคำนวณหาอาหารที่เหมาะสมในการกินสำหรับมื้อเช้า หลอดไฟที่เปิดปิดเองอัตโนมัติ โรงรถที่ถูกควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ รถยนต์ที่วิ่งไปที่ทำงานโดยอัตโนมัติโดยเลือกเส้นทางที่เร็วที่สุด เข้างานแล้วก็มีหน้าจออัตโนมัติเด้งขึ้นมาว่า งานวันนี้มีอะไรบ้าง ระหว่างทางกลับบ้านก็สั่งเปิดแอร์โดยเลือกอุณหภูมิที่พอเหมาะที่สุดผ่าน application ไปถึงบ้านปุ๊ปก็เย็นสบายนอนได้เลย พูดง่ายๆคือสิ่งต่างๆรอบตัวทั้งวันของคนๆนี้ถูกเชื่อมต่อโดยอินเทอร์เน็ตทั้งหมด เขาจึงสามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วยมือถือ หรือแม้กระทั่งการใช้เสียง ….. นอกเหนือจากนี้ IoT ยังถูกนำมาใช้ในการช่วยประหยัดช่วยประหยัดพลังงานทั้งของ ตึกอาคาร หรือบ้านที่อยู่อาศัย โดยหลาอดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกตัวจะถูกเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และถูกคำนวณให้มีการใช้อย่างประหยัด ไม่ให้เกินกำลังสูงสุดในช่วงค่าไฟที่ตั้งไว้ (กำลังไฟในอาคารมักจะถูกคำนวณออกมาเป็นค่าไฟ แบบแบ่งเป็นช่วงๆ) . …. จริงๆแล้วถ้าให้เอาเนื้อหาในหนังสือมาเล่า คงจะยังมีอีกเยอะมาก แต่บางเรื่องก็จะเป็นรายละเอียดปลีกย่อย ที่ผมเองก็อ่านข้ามๆ เพราะถึงอ่านก็อาจจะจำไม่ได้หมดอยู่ดี แต่ที่เอามาเขียนรีวิว จัดว่าเป็นเนื้อหาส่วนสำคัญที่ทำให้คนอ่านพอ get concept ของเทคโนโลยี IoT ที่เขยนไว้ในหนังสือ . …. โดยสรุปแล้วหนังสือแนวนี้ ถ้าพูดตรงๆคือ ค่อนข้างน่าเบื่ออยู่ เพราะมันให้อารณ์เหมือนอ่านหนังสือเรียนเตรียมสอบ เนื้อหาอัดแน่นจัดเต็ม ต้องคอยคิดตาม จินตนาการตามตลอด ไม่งั้นจะหลุดประเด็นได้ง่าย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องประโยชน์แล้วละก็ เล่มนี้คุ้มสุดๆครับ เนื้อหาเกี่ยวกับ the Internet of Things แน่นมาก อ่านจบก็มีหัวข้อในการคุยกับเพื่อนๆเพิ่มไปอีก 1 เรื่อง 555 . . . ผู้เขียน : Samuel Greengard ผู้แปล: ทีปกร วุฒิพิทยามงคล สำนักพิมพ์ : Openworlds จำนวน : 192 หน้า ราคาหลังปก : 250 บาท แนวหนังสือ : เทคโนโลยี, บริหารธุรกิจ, สารดี, คอมพิวเตอร์ . . . ‪#‎หลังอ่าน‬‬‬‬ ‪#‎รีวิวหนังสือ‬‬‬‬ ‪#‎reviewหนังสือ‬‬‬‬ #หนังสือเทคโนโลยี#‎TheInternetofThings #อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง#หนังสือสารคดี #Openworlds #หนังสือคอมพิวเตอร์ #SamuelGreengard #ทีปกรวุฒิพิทยามงคล


1,124 views0 comments

Comentarios


Post: Blog2_Post
bottom of page