รีวิว Cryptocurrency 101
.
.... สุดยอดหนังสือที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากรู้ว่า cryptocurrency คืออะไร หรือว่า Bitcoin คืออะไร Blockchain คืออะไร เช่นผม เพราะว่าทุกวันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าไม่เคยที่จะได้ยินชื่อสกุลเงินหรือเทคโนโลยีเหล่านี้ พออ่านเล่มนี้จบปุ๊ปอย่างน้อยไปคุยกับเพื่อนคราวหน้าก็จะพอคุยรู้เรื่องและตามทันในสิ่งที่เพื่อนๆ discuss กันเกี่ยวกับ Bitcoin . …… ชื่อหนังสือ 101 นี่ทำให้ผมนึกไปถึงพวกวิชาเรียนในมาหลัยสมัยที่เรียนปริญยาตรีอยู่ที่จุฬาฯ พวกวิชาตระกูล 101 คือวิชาที่ว่าด้วย Introduction ต่าง ๆ เช่น วิชา Intro to Law, Physics, Principle Marketing หรือว่า Human Relation หนังสือเล่มนี้ก็พยายามจะให้อารมณ์แบบวิชาเหล่านั้นด้วยการที่ให้ภาพรวมความเข้าใจต่าง ๆเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลใหม่ๆที่เพิ่งกำเนิดขึ้นมาบนโลกเหล่านี้ รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทำให้พวกมันเกิดขึ้นมาได้อย่าง เทคโนโลยี blockchain . .... หนังสือจึงไม่ได้ลงรายละเอียดเชิง technical ในฝั่งเทคโนโลยี แต่จะแค่ให้ไอเดียว่าในเชิงทฤษฎีแล้ว ระบบของสกุลเงิน Bitcoin มันทำงานยังไง ทำไมมันถึงเกิดขึ้นมา และแนวโน้มในอนาคตของมันจะเป็นอย่างไร รวมไปถึงภาคปฎิบัตรที่จะบอกว่า ถ้าผู้อ่านอยากที่จะเข้าไปซื้อขาย Bitcoin ต้องทำยังไง มีวิธีดำเนินการยังไงบ้าง รวมไปถึงถ้าผู้อ่านอยากจะเป็น ‘นักขุดเหมือง Bitcoin’ จะต้องทำอย่างไรบ้าง และมีวิธีไหนอีกบ้างที่ทำให้ได้รับเงินสกุลนี้มาอีก . . …….. สรุปเนื้อหา……………… 1) สรุปแล้ว Bitcoin คืออะไร มันก็คือสกุลเงินสกุลหนึ่งที่สามารถนำมาใช้เป็น ‘ตัวกลาง’ ในการแลกเปลี่ยนสินค้าได้ 2) สกุลเงิน Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้กันได้ทั่วโลก หรือเรียกว่าเป็นสกุลเงินสากลทั่วโลก ไม่เหมือนกับสกุลเงินประเภท ‘fiat’ เช่นเงิน ‘บาท’ ที่ใช้แลกเปลี่ยนกันได้เฉพาะในไทย เงิน ‘เยน’ ที่ใช้แลกเปลี่ยนกันได้ในญี่ปุ่น หรือสกุลเงิน ‘ดอลล่าร์สหรัฐ’ ที่ใช้แลกเปลี่ยนกันใน USA หรือสามารเป็นสกุลกลางที่ใช้แลกเปลี่ยนในบางประเทศ พวกสกุลเงินแบบ Bitcoin นี้แลกเปลี่ยนกันได้ทั่วโลก ทำให้ตัดปัญหาเรื่องของการเสียกำไรจากส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน และความยุ่งยากในการที่ต้องไปแลกเปลี่ยนเงินตราเมื่อจะเดินทางไปต่างประเทศ 3) Bitcoin เป็นแค่เงินดิจิทัลสกุลหนึ่งเท่านั้น จริง ๆแล้วยังมีสกุลเงินดิจิทัลอีกมากมาย ที่มีระบบการทำงานข้างหลังที่แตกต่างกัน เช่น Ethereum Ripple Dogecoin แต่ละสกุลเงินเรียกได้ว่ามีกลไกการทำงานที่แตกต่างกันไป กลไdพวกนี้มีความซับซ้อนในตัวระดับหนึ่ง เช่น Ripple เน้นไปที่การทำตัวเป็นแพลทฟอร์มในการรับส่งสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Ethereum ที่ทำตัวเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยทำให้การเริ่มธุรกิจต่าง ๆที่ใช้ระบบ Blockchain สามารถทำได้ง่ายขึ้น แต่แน่นอนว่าสกุลเงินที่ popular ที่สุดก็ยังเป็น Bitcoin 4) Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่อาศัยการทำงานของเทคโนโลยี Blockchain นั้นหมายความว่า Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ไม่มีศูนย์กลาง หรือไม่มีสถาบันทางการเงินมาเป็นตัวควบคุมและดำเนินการการซื้อขายและ กาการทำ transaction ต่าง ๆที่เกิดขึ้น แต่ว่าข้อมูล transaction ที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะถูกบันทึกไว้ในระบบ Blockchain และทุกคนที่อยู่ในระบบนี้เป็นเจ้าของข้อมูลเหล่านี้ สามารถเข้าไปดู transaction เหล่านีได้ตลอดเวลา แต่ไม่มีใครที่สามารถที่จะแก้ไขข้อมูลเหล่านี้ได้ 5) การใช้ระบบ blockchain ดังที่อธิบายไปข้าวงต้นนี้ทำให้เกิดทั้งข้อดีและข้อเสียต่าง ๆขึ้นมามากมาย คือในมุมรัฐบาลเองสามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบ transaction ต่าง ๆที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องรอการอนุญาตจากเหล่าสถาบันการเงิน แต่ว่าสกุลเงินเองก็มีความผันผวนอย่างมากเพราะว่าคนที่กำหนดมูลค่าของ Bitcoin เองคือคนทุกคนที่อยู่ในระบบ Blockchain 6) การขึ้นลงของราคา Bitcoin นี้คล้ายกับหลักซื้อขายหุ้น แต่มีการสวิงที่รุนแรงกว่ามาก เพราะยังถือว่า Bitcoin เองเพิ่งอยู่ในระยะแรกเริ่มของการถูกนำมาใช้ ยังไม่มีความเสถียรเหมือนตลาดหุ้นหรือราคาทองคำ จึงเรียกได้ว่าคนที่จะเข้าไปลงทุนซื้อเงิน Bitcoin หรือเหล่า Cryptocurrency อื่น ๆก็ยังคงมีความเสี่ยงที่สูงมากอยู่ 7) Bitcoin มีข้อดีอีกอย่างคือ การใขเงินสกุลนี้จะไม่มีทางมที่จะเกิดเงินเฟ้อขึ้น เหมือนในเศรษฐกิจของประเทศเวเนซุเอลา เพราะว่าเงินที่ถูกนำออกมาหมุนเวียนในระบบนั้นมีจำกัด โดยผู้คิดค้นระบบ Satoshi Nakamoto (เป็นนามแฝง ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา) ได้ประมาณไว้ว่า Bitcoin ทั้งหมดจะมีอยู่ที่ประมาณ 21 ล้านเหรียญ ไม่สามารถสร้างเพิ่มไปได้มากกว่านี้ ทำให้มูลค่าของเหรียญที่หมุนเวียนอยู่ในระบบมีแต่จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น 8) การสร้างเหรียญ Bitcoin เพื่อนำเข้าสู่ระบบหมุนเวียนนั้น ต่างจากการสั่งผลิตเงินของรัฐบาลที่ในบางครั้งอาจแค่เป็นการตัดสินใจโดยพละการ อยากสั่งพิมพ์แบงค์ก็สั่ง แต่การที่จะเพิ่ม Bitcoin เข้าระบบได้นั้น เหล่าบันดานักสร้างเหรียญ Bitcoin ที่เขาเรียกว่า ‘นักขุดเหมือง Bitcoin’ เป็นคำเรียกที่ล้อกับการขุดทองนั่นเอง ต้องอาศัย supercomputer ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ขั้นสูงที่ระบบ blockchain นั้นสร้างขึ้นมา เมื่อแก้ปัญหาได้ก็จะได้รับ bitcoin เป็นการตอบแทน โดยปัญหาเหล่านี้จะยากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การที่จะเกิดเหรียญขึ้นในระบบนั้นเกิดขึ้นยากขึ้นเรื่อย ๆ 9) ณ ปัจจุบันในหลายๆประเทศ รวมไปถึงประเทศไทยกำลังพิจารณาและเตรียมการในการร่างกฎหมายและกฎระเบียบให้มีการนำ Bitcoin มาใช้เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมาย และมีการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อำนวยต่อการนำ Bitcoin มาใช้ในการแลกเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆจริง ๆ จึงอาจเรียกได้ว่า Bitcoin เป็นสกุลเงินหรือตัวกลาวงในการแลกเปลี่ยนแห่งอนาคตของจริง ปัจจุบันยังแพร่หลายในวงจำกัด แต่ในอนาคตคาดว่ามันจะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย และอาจปฏิวัติการใช้ตัวกลางแลกเปลี่ยนด้วยสกุลเงินต่าง ๆบนโลกได้เลยทีเดียว . . …. โดยสรุปแล้วหนังสือเล่มนี้ให้อารมณ์เดียวกับตอนที่ผมซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเล่นหุ้นเล่มแรกมาอ่าน คือทำให้ผมรู้ว่าหุ้นคืออะไร และผมจะเข้าไปลงทุนยังไงได้บ้าง เล่มนี้ก็เช่นกันหลักๆก็ทำให้ผู้อ่านเข้าใจคำว่า Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ และวิธีเบื้องต้นในการที่จะเข้าไปซื้อขายรวมไปถึงการได้รับมาซึ่งเหรียญ Bitcoin ด้วยวิธีอื่น ๆ ใครที่อยากรู้เฉย ๆก็ซื้อมาอ่านประดับความรู้ไว้ก็ดีเหมือนกันครับ
รีวิวCryptocurrency 101……… ..... ผู้เขียน : รศักดิ์ อุรัจฉัทชัยรัตน์ สำนักพิมพ์ : Amarin Howto แนวหนังสือ : เทคโนโลยี, บริหารธุรกิจ …………………………………………………………………………..
#หลังอ่าน #รีวิวหนังสือ #หนังสือ2019 #หนังสือ2562 #reviewหนังสือ #Cryptocurrency101 #รศักดิ์อุรัจฉัทชัยรัตน์ #หนังสือเทคโนโลยี #หนังสือบริหารธุรกิจ #AmarinHowto #bitcoin #บิทคอยน์ #blockchain #เงินดิจิทัล
Comments