รีวิวหนังสือ จะซึม จะเศร้า ก้าวผ่านได้
.
.
ขอขอบคุณหนังสือจากสำนักพิมพ์ Nationbooks นะครับ
.
ในโลกที่โรคซึมเศร้ากลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับคนมากมาย วิธีในการตรวจจับ รักษา และช่วยคนรอบข้างให้ผ่านพ้นภาวะดังกล่าวไปได้จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดที่จะมาบอกวิธีในการรับมือกับโรคซึมเศร้านั้นก็น่าจะมาจากคุณหมอมากประสบการณ์ที่เคยทำงานกับผู้ป่วยโดยตรง หนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์ในจุดนี้
.
แต่สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือ โรคซึมเศร้าสามารถพบได้ในวัยรุ่นและวัยเด็ก!! ตั้งแต่ชั้นมัธยมลงไปถึงชั้นประถม และปัญหาล้วนมากจากเหลากหลายปัจจัย แต่โดยรวมก็จะวนอยู่ที่ประเด็นครอบครัว โรงเรียน เพื่อน และแฟน การใส่ใจน้องๆ ลูกๆ หลานๆวัยนี้จึงสำคัญไม่แพ้กัน
.
หนังสือจะซึม จะเศร้า ก้าวผ่านได้ เขียนโดยแพทย์หญิง กุสุมาวดี คำเกลี้ยง ที่ทำงานกับเด็กและวัยรุ่นที่ป่วยเป็นซึมเศร้ามาหลายคน ผู้เขียนจึงมีประสบการณ์ดีๆแบ่งปันอยู่เยอะมาก เพราะเคสการบำบัดอาการซึมเศร้าในเด็กและวัยรุ่น คงจะแตกต่างจากคนวัยอื่นๆพอสมควร
.
ชื่อและเรื่องราวที่ผู้เขียนเอามาเล่าล้วนเป็นข้อมูลที่เปิดเผยได้ โดยได้รับการยินยอมจากเจ้าของเคสหรือคนในครอบครัว ซึ่งส่วนตัวผมว่าจุดนี้เป็นจุดที่น่าสนใจที่สุดในหนังสือเล่มนี้
.
เรื่องอาการของโรคซึมเศร้า วิธีการสังเกต วิธีการบำบัดรักษา รวมไปถึงวิธีในการป้องกันการเกิดภาวะซึมเศร้า อาจสามารถค้นหาได้ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต เพราะเดี๋ยวนี้มีข้อมูลมากมายรอให้เข้าไปอ่าน แต่เล่มนี้คือแบบฉบับที่รวบรัดในเล่มเดียว บางๆอ่านและจับใจความหลักเป็นอันจบในตัว และที่สำคัญคือมีเคสจริงมาเล่าเพื่อให้เห็นภาพ ช่วยให้อินไปกับเรื่องราวของคนที่เป็นซึมเศร้าจริงๆ
.
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเด็กที่โดดตึกฆ่าตัวตายจริงๆ เพราะความสัมพันธ์ที่มีปัญหากับพ่อแม่ เคสเด็กที่ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะเพื่อนไม่ให้เข้ากลุ่ม เด็กที่ผลการเรียนย้ำแย่เพราะการเลิกกับแฟน หลายๆเคสจบลงอย่างไม่สวย ผู้ป่วยรักษาไม่หายและก่อเหตุฆ่าตัวตาย ในขณะที่หลายๆเคสก็ก้าวผ่านช่วงเวลาแย่ๆนั้นได้ และกลายมาเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้ปกติ เอาดีได้ทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตครอบครัว และหลายๆเคสยังคงต้องรอดูผลกันต่อไป เพราะการรักษาซึมเศร้าเป็นการรักษาอย่างต่อเนื่อง
.
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องเข้าใจตามที่ผู้เขียนแนะนำไว้ก็คือ ซึมเศร้าเป็นโรคชนิดหนึ่งที่รักษาได้ ถ้าเรารู้จักมันอย่างถูกต้อง และรับมือด้วยความเข้าใจ
.
สำหรับเนื้อหาในหนังสือ อย่างที่บอกว่าหนังสือค่อนข้างมีความเป็นวิชาการ ถ้าใครอยากอ่านแล้วเข้าใจจริงๆต้องลองซื้อตัวเต็มอ่านดูนะครับ ผมขอยกมาแค่ 4 ข้อที่ผมเป็นเนื้อหาสำคัญและผมคิดว่ามีประโยชน์ที่สุดจากหนังสือเล่มนี้
.
1. หลักการปฐมพยาบาล 3 ข้อเบื้องต้น (3ส)
.
1) สอดส่องมองหา
หมั่นเฝ้าดูสัญญาณต่างๆที่เกิดขึ้นว่ามีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกถึงภาวะซึมเศร้ารึเปล่า อากการหล่านี้มักจะเป็นพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนไปจากที่คนๆนั้นมักจะทำในชีวิตประจำวัน หรือถ้าคนที่อยู่ในภาวะวิกฤตอย่างการขู่จะฆ่าตัวตาย หรือการทำร้านตัวเอง
.
2) ใส่ใจรับฟัง
ผู้ป่วยซึมเศร้าต้องการเพื่อนร่วมทีมมากกว่าที่ต้องการกองเชียร์ เราต้องสร้างกำลังใจ ทำให้เขาเห็นคุณค่าของตัวเอง และทำตัวเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปสู้เป้าหมายเชิงบวก เรื่องนี้สามารถทำได้โดยการสื่อภาษารักต่างๆ ผ่านทางคำพูด การใช้เวลาร่วมกัน และการให้ความช่วยเหลือต่างๆ
.
3) เสนอความช่วยเหลือและส่งต่อเชื่อมโยง
การพาผู้มีแนวโน้มเป็นซึมเศร้ามาหาหมอผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เพราะโรคซึมเศร้าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจากหมอ และถ้ารักษาไม่ทันเวลา อาจทำให้เรื่องต่างๆแย่ลงได้ วิธีง่ายๆในการช่วยเหลือคือ โทรสายด่วนสุขภาพจิตที่ 1323 หรือใช้แอพพลิเคชัน Sabaijai
.
2. คำถาม 2 ข้อที่เป็นแบบคัดกรองคนเป็นซึมเศร้า
.
- ในสองอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมวันนี้ รู้สึกหดหู่ เศร้า หรือท้อแท้สิ้นหวัง หรือไม่?
- ในสองอาทิตย์ที่ผ่านมารวมวันนี้ รู้สึกเบื่อ ทำอะไรก็ไม่เพลินเพลิน หรือไม่?
.
ลองใช้คำถามสองข้อนี้ถามคนใกล้ตัวเพื่อประเมินเบื้องต้นดูว่า เขามีอาการเป็นซึมเศร้ารึเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่ 1 ใน 2 ข้อนี้ก็เป็นไปได้ว่ามีแนวโน้มจะเป็นซึมเศร้า
.
3. การรักษาโรคซึมเศร้า 3 แบบ
.
1) การใช้ยาต้านเศร้า – เพื่อทำให้สารสื่อประสาทสมดุล เพราะซึมเศร้าเกิดมาจากสาเหตุหลักว่าสารสื่อประสาทในสมองไม่สมดุล และก่อให้เกิดอาหารเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจ
.
2) การพูดคุยบำบัดทางจิต - เช่นการบำบัดแบบซาเทียร์ (Satir) หรือการขุดลึกลงไปในภูเขาน้ำแข็งจนถึงสิ่งที่เป็นคุณค่าของแต่ละคนจริงๆ ดูว่าแต่ละคนเห็นคุณค่าอะไรในตัวเอง พลังชีวิต พลังจิตวิญญาณต่างๆคืออะไร การขุดลงไปถึงระดับขั้นนี้จะช่วยให้ผู้บำบัดสามารถเข้าใจตัวตนของผู้ป่วย และการแสดงออกทางพฤติกรรมเหล่านั้น และช่วยให้ผู้บำบัดสามารถเลือกให้คำแนะนำได้อย่างเหมาะสม
.
3) การกระตุ้นสมอง – ใช้เฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง มีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย
.
.
4. ภาวะซึมเศร้าไม่ใช่โรคของความอ่อนแอ และไม่ใช่ความผิดของใคร
.
เรื่องแรกที่ควรต้องทำคือการปรับทัศนคติให้ถูกต้องเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า เราไม่จำเป็นต้องคิดว่าคนซึมเศร้าเป็นคนอ่อนแอ แต่เราต้องเข้าใจให้ถูกว่าเราเป็นเจ้าของอารมณ์ ถ้าเรารู้จักการบริหารอารมณ์ที่ดีพอ เราก็จะสามารถหลุดพ้นจากอาการซึมเศร้าได้
.
.
.
………………………………………………………………………….
✍ผู้เขียน: พ.ญ. กุสุมาวดี คำเกลี้ยง
🏬สำนักพิมพ์: เนชั่นบุ๊คส์, สนพ.
📚แนวหนังสือ: สุขภาพ, พัฒนาตัวเอง
…………………………………………………………………………..
.
.
📚สนใจสั่งซื้อหนังสือได้ที่
.
.
.
.
#หลังอ่าน#รีวิวหนังสือ#หนังสือ2020 #หนังสือ2563 #reviewหนังสือ#จะซึมจะเศร้าก้าวผ่านได้ #กุสุมาวดีคำเกลี้ยง #สำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ #nationbooks #หนังสือสุขภาพ #หนังสือพัฒนาตัวเอง
Comments