รีวิว การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
(The Fourth Industrial Revolution)
. . ครั้งแรกที่ผมสะดุดตากับหนังสือเล่มนี้ก็ตอนที่เห็นชื่อผู้เขียน Klaus Schwab ที่เป็นถึงผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร World Economic Forum พอไปสืบประวัติมาอ่านต่อจึงทราบว่า คนคนนี้จบปริญญาเอกถึงสองใบ และปริญญาโทอีก 1 ใบ โดยปริญญาทั้งสามใบนี้เป็นศาสตร์คนละสาขากันโดยสิ้นเชิง (ปริญญาเอกในด้าน Engineering และ Economics, ปริญญาโท ในสาขา Public Administration) นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลต่างๆอีกมากมายตลอดชีวิตการเรียนและการทำงาน ประวัติแบบนี้ช่วยดึงความสนใจของผมแบบไม่ยากนัก . หนังสือเล่มนี้ กล่าวถึง การปฏิวัติอุตสาหกรรมของโลกในครั้งที่ 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ หรืออาจขึ้นแล้วจริงๆด้วยซ้ำ โดย
. - การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 1 คือ การเปลี่ยนจากการใช้แรงงานมนุษย์นการผลิตมาเป็นการใช้กำลังจากเครื่องจักรไอน้ำในกระบวนการผลิต
. - การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 คือ การพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมมาผลิตแบบ mass production ที่มีการรับพลังงานไฟฟ้ามาใช้ โดยใช้ระบผลิตที่ในแบบที่เรียกว่า Production Line (ตัวอย่างเช่น โรงงานเชือดไก่ของ cp)
.
- การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 คือ การนำคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์ด้านไอที และระบบอัตโนมัติ (automation) เข้ามาช่วยนากระบวนการผลิตในโรงงาน
. - การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 คือ Cyber-physical Systems (CPS) หรือเป็นการนำอานวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเชื่อมต่ออุปกรณ์หรือวัตถุสิ่งของต่างเข้าด้วยกันแล้วสร้างเป็นระบบเครือข่ายข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้นมา ทำให้เกิดการส่งถ่ายกันข้อมูลในส่วนต่างๆของโลกได้ .
. หนังสือแบ่งเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการปฎิวัติออกเป็นสามกลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัล กลุ่มเทคโนโลยีทางกายภาพ และกลุ่มเทคโนโลยีเชิงชีวภาพ
.
แต่เทคโนโลยีพระเอกที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ (disruptive technology) คงหนีไม่พ้น Internet of Things (IoT), Cloud Computing และ Artificial Intelligence (AI)
.
.
.
.
.
.
โดยสามารถสรุปง่ายๆคือ
- IoT เป็นเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อวัตถุสิ่งของเข้าด้วยกันและเชื่อมกับระบบควบคุมส่วนกลาง
.
- Cloud Computing เป็นคลังข้อมูลขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดการเก็บรวบรวม ส่งถ่าย และประมวลผลข้อมูลต่างๆที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
.
- AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรสามารถเรียนรู้ที่จะคิดและประมวลผลข้อมูลต่างๆพร้อมหาวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลแบบใหม่ได้ด้วยตัวเอง .
. หนังสือเล่มนี้อธิบายเทคโนโลยีที่สำคัญไว้แบบคร่าวๆ ไม่ถึงกับลงลึกมาก และในส่วนถัดๆไปของหนังสือมีการอธิบายไว้ว่าผลกระทบของเทคโนโลยีตัวสำคัญและการปฏิวัตินี้จะไปมีผลระทบอย่างไรต่อเศรษฐกิจโลก ภาคธุรกิจ ภาครัฐ สังคมและการใช้ชีวิตประจำวันของคนแต่ละคน
.
พร้อมทั้งให้คำแนะนำคร่าวๆว่าเราควรจะรับมือกับมันอย่างไร ทำยังไงถึงจะปรับตัวและใช้ประโยชน์จากการมาถึงของเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ยังเป็นการเตือนให้เราทุกคนพลังอำนาจที่จะควบคุมและทำให้การปฏิวัติอุตสาหกรรมในครั้งที่ 4 นี้ยั่งยืน และส่งผลเชิงบวกต่อทุกฝ่าย .
. เมื่ออ่านจบ ผมพบว่า หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างกว้าง คือพูดถึงภาพใหญ่ๆของเทคโนโลยีแต่ละตัวและผลกระทบของมัน แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละเทคโนโลยี หนังสือจึงเหมาะกับคนทั่วๆไปที่ไม่ได้ต้องการความรู้เชิงลึกที่ชวนปวดหัวของเทคโนโลยีเข้าใจยากๆแบบ IoT หรือ Cloud Computing แต่เป็นการทำให้เห็นภาพรวมว่าโลกกำลังจะเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงแล้วนะ
.
เป็นการเพิ่มการตระหนักรู้ของคนทั่วไป และในภาคธุรกิจที่อาจนำเทคโนโลยีเหล่านี้มา adopt ใช้ในบริษัทของตัวเอง เพื่อเป็นการสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน
.
. เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ว่า โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก . .
. เหมาะกับ : - คนทั่วไปที่สนใจในด้านเทคโนโลยี - ผู้ที่ทำงานในภาคธุรกิจหรือ ภาครัฐแล้วอาจมองหาโอกาสใหม่ๆจากการตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกอุตสาหกรรม - เจ้าของธุรกิจ หรือ ผู้ที่สนใจทำธุรกิจ อ่านเป็นไอเดียในการหาช่องทางเปิดธุรกิจ หรือ ช่องทางขยับขยายธุรกิจของตัวเองได้ - นักอ่านทั่วไป อ่านประดับเป็นความรู้ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง . .
…………………………………………………………………………. ผู้เขียน: Klaus Schwab (เคลาส์ ชวาบ)
ผู้แปล: ศรรวริศา เมฆไพบูลย์ สำนักพิมพ์ : Amarin Howto แนวหนังสือ : เทคโนโลยี, บริหารธุรกิจ
………………………………………………………………………….
.
.
สั่งซื้อหนังสือได้ที่
.
. . #หลังอ่าน #รีวิวหนังสือ #reviewหนังสือ #หนังสือเทคโนโลยี #หนังสือธุรกิจอุตสาหกรรม #หนังสือพัฒนาตัวเอง #TheFourthIndustrialRevolution #การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ #KlausSChwab
Comments