รีวิว Animal Farm: สงครามกบฏสรรพสัตว์ . .
. ….. สุดยอดวรรณกรรมสุดคลาสสิค ที่ผมเชื่อว่าเหล่าบรรดานักอ่านน่าจะเคยได้ยินชื่อผ่านหูมาแล้วสักครั้งหนึ่ง เพราะเป็นวรรณกรรมข้ามยุคข้ามสมัยที่ได้รับการตีพิมพ์มากครั้งที่สุดอีกเล่มหนึ่ง แถมยังได้ชื่อว่า เป็นวรรณกรรมที่ดีที่สุดในศตวรรษที่ 20 อันดับที่ 31 จากการจัดอันดับโดยนิตยสารไทม์ ส่วนตัวผมเพิ่งเคยอ่านเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นแรก และน่าจะเป็นเวอร์ชั่นแปลไทยที่แพร่หลายมากสุดในปัจจุบันครับ . ..... เนื้อหาหนังสือ Animal Farm เป็นการเล่าเรื่องประชดประชันเสียดสีทางการเมือง หรือที่ฝรั่งเรียกว่า ‘Political Satire’ นี่แหละครับ จุดประสงค์ของผู้เขียนคือต้องการแสดงให้เห็นถึง ‘เหตุการณ์การปฏิวัติรัสเซีย’ และ ‘การปกครองของ สตาลิน’ ที่ปกครองในรูปแบบ ‘สังคมนิยมคอมมิวนิสต์’ โดยการเล่าเรื่องราวผ่าน ฟาร์มสัตว์
.
.
เรื่องมีอยู่ว่าฟาร์มสัตว์ ฟาร์มหนึ่งที่มีสัตว์อยู่มากมายหลายชนิดและก็มีคนคอยดูแลเป็นเจ้าของฟาร์มตามปกติ แล้ววันหนึ่ง สัตว์เหล่านี้ก็รวมตัวกันปฏิวัติไล่คนออกจากฟาร์ม โดยมีกลุ่ม ‘หมู’ เป็นผู้นำการปฏิวัติ หรือเป็นกลุ่มปัญญาชนของสัตว์ ผู้คิดแผนการนี้ขึ้นมา หลังเกิดการปฏิวัติเพื่อที่จะให้เกิดการปกครองกันเองระหว่างสัตว์ ‘กลุ่มหมู’ ก็จัดการตั้งกฎใหม่ขึ้นมาภายในฟาร์ม ที่ดูยุติธรรมกับสัตว์ทุกตัวมากขึ้น ไม่ต้องเป็นทาสของมนุษย์ แต่ทำงานเพื่อตัวเอง แต่หลังจากนั้นไม่นานพอ ‘หมูหัวหน้า’ตายไป ก็เกิดการแย่งชิงอำนาจขึ้นมาภายในกลุ่มหมู โดยแบ่งขั้วอำนาจออกเป็นสองพวกที่มีความคิดต่างกัน
.
.
หลังจากมีฝ่ายหนึ่งเกิดชนะขึ้นมา การปกครองภายในแอนิมอลฟาร์มก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หมูกลายเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่าสัตว์ตัวอื่นๆทั้งหมด สัตว์ต่างๆถูกใช้งานหนักขึ้น กฎต่างๆที่ถูกตั้งขึ้นมาอย่างยุติธรรมก็ถูกปรับแก้ให้สนองต่อความต้องการของหมูได้มากขึ้น แต่สิ่งที่แปลกก็คือ พวกสัตว์ตัวอื่นๆในฟาร์มกลับเพิกเฉยต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และทนอยู่ใต้การปกครองที่โหดร้ายทารุณ และอยุติธรรมของหมูต่อไปโดยไม่รู้อิโหน่อิแหน่และไม่มีใครฉุกคิดหรือเกิดความคิดอยากเปลี่ยนแปลงเลย อาจเป็นเพราะความฉลาดของหมูผู้ปกครองฟาร์ม หรือ ความด้อยปัญญาของสัตว์ต่างๆในฟาร์ม ทำให้สุดท้ายสถานการณ์ก็ไม่ต่างอะไรจากตอนมีมนุษย์ปกครอง ‘สิ่งมีชีวิตที่โง่ก็ยังคงอยู่ใต้สิ่งมีชีวิตที่ฉลาดกว่าต่อไป’ .
. .... สิ่งที่สะท้อนจากหนังสือก็คือ สุดท้ายพอหมูมีอำนาจก็กลับมาปฏิบัติต่อสัตว์อื่นเหมือนที่คนปฏิบัติ ‘ด้วยสติปัญญา,ไหวพริบปฏิภาณและกำลังพล’ ที่หมูมีมากกว่าสัตว์อื่นๆ ไม่ต่างอะไรกับที่คนมีสิ่งเหล่านี้มากกว่าสัตว์ทุกตัวในฟาร์ม และต่างอะไรกับ ‘คนที่มีสิ่งเหล่านี้มากกว่าคนอื่นๆในประเทศ’นี่คือสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะเสียดสีออกมาให้เห็นภาพชัดเจน ส่วนประเด็นเรื่องเกี่ยวกับสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ หรือประเด็นทางประวัติศาสตร์อื่นๆผมขอไม่พูดถึงนะครับ อันนี้เพราะว่าผมไม่ได้มีความรู้ในส่วนนี้ลึกนักครับ .
. … ส่วนสไตล์การเขียน เรียกได้ว่าเนื้อหาเขียนออกมาได้เข้มข้น ตรงประเด็น และอ่านเพลินมาก ถามว่าต้องมีความรู้ทางด้านการเมืองหรือประวัติศาสตร์ก่อนมาอ่านมั้ย ผมตอบเลยว่า ‘ไม่จำเป็นเลยครับ’ ตัวผมเองรู้แค่งูๆปลาๆเกี่ยวกับเรื่องสังคมนิยม การเมืองและเรื่องประวัติศาสตร์โลก (เท่าที่เคยเรียนมาตอนมัธยมปลายนั่นแหละครับ 555) ก็สามารถอ่านเรื่องนี้ได้เข้าใจ สนุก เพลิน และรับสาสน์ที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อได้ใจความหลักๆครบครับ จริงๆต้องขอบคุณผู้เขียนที่เขียนออกมาได้อ่านเข้าใจง่ายมาก เพราะฉะนั้นใครๆก็อ่านได้ครับหนังสือเล่มนี้ . . . . เหมาะกับ : - ผู้ชื่นชอบการอ่านวรรณกรรมขนาดสั้น ฉบับแปลเล่มนี้สั้นกระชับ อ่านไม่นานจบ - ผู้ชื่นชอบวรรณกรรมคลาสสิค หรือ วรรณกรรมแปลจากตะวันตก - ผู้มีความสนใจด้านการเมืองการปกครอง และประวัติศาสตร์ เรื่องนี้เจตนาผู้เขียน เขียนเสียดสี การปฏิวัติรัสเซียและการปกครองของสตาลิน . . ผู้เขียน : George Orwell ผู้แปล : บัญชา สุวรรณานนท์ สำนักพิมพ์ : Typhoonbooks ราคาหลังปก : 135.- แนวหนังสือ : วรรณกรรมแปลคลาสสิค/ Political Satire . . .
#หลังอ่าน #รีวิวหนังสือ #reviewหนังสือ #แอนิมอลฟาร์ม #animalfarm #georgeorwell #วรรณกรรมแปล #Typhoonbooks #วรรณกรรมคลาสสิค #politicalsatire
Comments